เช็กอินเมืองบีวายดี

ณ สำนักงานใหญ่ เมืองเสิ่นเจิ้นแห่งนี้ ถือเป็นยานแม่ที่มีความเพียบพร้อม เรียกว่าเสมือนเป็นของ BYD ทุกอย่างถูกรวบรวมเอาไว้ในที่ “เมืองบีวายดี” เรียกว่าครบวงจรของอุตสาหกรรมยานยนต์แบบครบวงจร ทั้งการผลิตรถยนต์ แบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า ระบบขนส่งทางราง และรถเพื่อการพาณิชย์

โดยในพื้นที่ดังกล่าวยังมีโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ได้มากถึง 14 จิกะวัตต์ มีโรงงานชิงไห่ ที่ผลิตได้เท่ากัน ส่วนโรงงานที่ฉงชิ่งผลิตได้มากถึง 20 จิกะวัตต์

• ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
• บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
• รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่

ยังมีระบบขนส่งภายในสำนักงานใหญ่แห่งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพนักงานด้วยรถไฟฟ้าโมโนเรล

นอกจากนี้ ศูนย์ทดสอบความปลอดภัยของรถยนต์ที่ใหญ่เบอร์ต้นของจีน ก็อยู่ในเมืองบีวายดี แห่งนี้ เพราะเป็นสิ่งที่ BYD ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ สำหรับการผลิตรถยนต์ออกมาเพื่อให้ส่งต่อถึงมือผู้บริโภค “ความปลอดภัย-มาตรฐาน” เป็นเรื่องละเลยไม่ได้ เพราะปีหนึ่ง ๆ รถยนต์ที่นำมาทดสอบการชนในรูปแบบต่าง ๆ มีไม่น้อยกว่า 500-600 คัน ซึ่งรถแต่ละรุ่นทดสอบ 30-40 ครั้ง

 

และค่าใช้จ่ายต่อครั้ง 100,000-400,000 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทย 500,000-2 ล้านบาท และเขายังมีตุ๊กตาที่สร้างเสมือนคนจริงเพื่อใช้ในการทดสอบมีอายุตั้งแต่แรกเกิด-วัยชรา ราคาแพงที่สุดคือตัวละ 13 ล้านหยวน

นอกจากนี้ BYD มีกุญแจสำคัญคือ “การมีเทคโนโลยีแบตเตอรี่เป็นของตัวเอง” ปัจจุบันบริษัท BYD เป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ใหญ่อันดับ 3 ของโลก โดยผลิตแบตเตอรี่ได้ 14% ของปริมาณแบตเตอรี่ทั้งหมดในโลก

และนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เราได้มาสัมผัสกับ อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ จึงไม่แปลกใจว่า ทำไม BYD ใช้ระยะเวลาไม่ถึง 30 ปี ในการเปลี่ยนโลก

ส่วนตลาดประเทศไทยนั้น เป็นประเทศแรกที่ BYD ปักธงให้เป็น Tier ONE ซึ่งหลายคนอาจจะไม่ทราบ BYD เข้ามาบ้านเราตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว เพื่อศึกษาด้านพลังงานร่วมกับบริษัทพลังงานในไทย

ส่วนรถยนต์นั้น เขาเริ่มจากรถเพื่อการพาณิชย์ และรถแท็กซี่ V.I.P. BYD E6 มาให้บริการในสนามบินสุวรรณภูมิ และทั่วไป จำนวนกว่า 1,000 คัน และล่าสุด “เรเว่ ออโตโมทีฟ” ได้นำรถยนต์นั่งไฟฟ้าเข้ามา BYD ATTO ได้รับความสนใจอย่างท่วมท้น ยอดขายกว่าหมื่นคัน

และล่าสุด BYD Dolphin ที่เพิ่งเปิดตัวไป และยังไม่หยุดเท่านี้ เพราะ BYD ยังได้ลงทุนตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ในไทย และตั้งเป้าผลิตรถยนต์นั่งไฟฟ้าพวงมาลัยขวาที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในปี 2567 ด้วยกำลังการผลิตรถยนต์นั่งไฟฟ้าจำนวน 150,000 คันต่อปี เพื่อส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ ในกลุ่มอาเซียนและยุโรป

เมื่อมังกรขยับจากแยงซีเกียง-ฮวงโห มาสู่ลุ่มน้ำ “เจ้าพระยา” ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาแน่นอน