คอลัมน์ : เทสต์คาร์ ผู้เขียน : วุฒิณี ทับทอง
มีโอกาสได้รับคำเชิญชวนจากทีมงาน “ฮุนได โมบิลิตี้” หรือรถยนต์ฮุนได ให้ร่วมสัมผัสประสบการณ์กับรถยนต์ B-MPV รุ่นใหม่ “สตาร์เกเซอร์” ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา
แถมยังเป็นการเข้ามาทำตลาดอย่างเต็มรูปแบบ ครั้งแรกของ ฮุนได มอเตอร์ หลังจากฟอร์มทีม ตั้งบริษัทและเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- พบรอยร้าวบ่อฝังกลบกากแคดเมียมของ เบาด์ แอนด์ บียอนด์
- เปิดไทม์ไลน์ลูกค้าซิตี้แบงก์ต้องรู้! ก่อนโอนย้ายบัญชีมาเป็น “ยูโอบี” 21 เม.ย.นี้
ทีมฮุนไดจัดทริปทดสอบ เจ้า MPV ไซซ์เล็กกันในเส้นทาง ภูเก็ต-เขาหลัก เพื่อต้องการให้เราได้สัมผัสกับความสะดวกสบายของห้องโดยสารโดยเฉพาะ แถวที่นั่งตอนที่สอง ที่เขาเคลมว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากชุดโซฟาที่นั่งสบาย ให้ความรู้สึกอบอุ่นและโฮมมี่ประมาณนั้น
ฮุนได สตาร์เกเซอร์ เคลมว่า เขาเป็นรถครอสโอเวอร์สไตล์ MPV รุ่นแรกและรุ่นเดียวในตลาดตอนนี้ที่มี 6 ที่นั่งและเป็นที่นั่งแบบกัปตันซีทเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าและเขายังมีรุ่น 7 ที่นั่งมาให้เลือกเช่นเดียวกับค่ายคู่แข่ง
ส่วนรูปร่างหน้าตาของเจ้าสตาร์เกเซอร์ นั้นต้องบอกว่า มีความล้ำสมัย และละมายคล้ายกับรุ่นพี่ฮุนได สตาร์เรีย เพียงแต่ถูกจับมาย่อยส่วน ลดทอนขนาดของตัวถังให้เล็กลงเท่านั้น ยิ่งเมื่อนำมาจอดคู่กับแล้วต้องบอกคือรุ่นซีเนียร์กับรุ่นจูเนียร์ชัด ๆ
การทดสอบไม้แรกประชาชาติธุรกิจ ขออาสานั่งทดสอบความสบายของเบาะโซฟาแถวที่สองก่อน การออกแบบเบาะที่นั่งของรถคันนี้ เอาเข้าจริง เมื่อมานั่งในตำแหน่งผู้โดยสารปรากฏว่า ยังไม่สบายอย่างที่คิดกับขนาดของเบาะและวัสดุที่ใช้ ทำให้รู้สึกนั่งไม่สบาย แถมช่วงเบาะสั้นไป ยังไม่รองรับกับต้นขา เมื่อนั่งไปสักระยะ จะรู้สึกเมื่อย
ที่เบาะหลังฮุนไดยังใส่ฐานวางของมาให้สำหรับผู้โดยสาร แถวที่สองใช้สำหรับวางโน้ตบุ๊กหรือวางอาหารได้ คล้าย ๆ กับที่วางถาดอาหารบนเครื่องบิน แต่เขาแนะนำว่ารองรับน้ำหนักได้ไม่เกิน 3.5 กิโลกรัมเท่านั้น
ส่วนการซับแรงกระแทกของช่วงล่างและแรงเหวี่ยงแรงโยนมีเข้า มาภายในห้องโดยสารให้รู้สึกได้ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นด้วยเส้นทางที่ขับขึ้นลงเขาแต่จังหวะวิ่งทางตรง ถือว่าค่อนข้างนิ่ง
ความเย็นสบายของระบบปรับอากาศในแถวที่สอง และสามเนื่องจากเป็นแอร์ท่อ อยู่ด้านบนหลังคา สามารถปรับระดับความแรงของลมแอร์ได้ แต่เอาเข้าจริง เมื่อเจอกับสภาพอากาศในวันที่เราไปทดสอบความเย็นของแอร์กลับไม่ฉ่ำและยังต้องใช้เวลาพอสมควร แต่เมื่อฟ้าเริ่มครึ้ม ๆ กลายเป็นระบบความเย็นฉ่ำจนต้องปรับเพิ่มอุณหภูมิกันเลยทีเดียว
ส่วนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารมีมาให้ครบครัน
ที่ฮุนไดตั้งใจนำเสนอคือ กุญแจรีโมต ที่สามารถสั่งการให้สตาร์ตเครื่องยนต์ พร้อมเปิดแอร์ และเปิดหน้าต่างก่อนเพื่อเป็นการระบายความร้อนก่อนที่เราจะขึ้นไปนั่งในรถ ตรงนี้ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของระยะสั่งการเพราะสามารถสั่งการในรัศมีที่ไม่เกิน 10 เมตรเท่านั้น ไกลจากนั้น ไม่มีประโยชน์ภายในห้องโดยสารของเจ้าสตาร์เกเซอร์ ในในโทนสีดำ คอนโซลหน้าเปียโนแบล็กมีวัสดุสีเมทัลลิก
ส่วนหน้าจอแสดงผลการขับขี่ supervision TFT LCD ขนาด 4.2 นิ้ว ให้ข้อมูลเส้น แสงชัดเจนอ่านง่าย หน้าจอกลางเป็นแบบ สัมผัสขนาด 8 นิ้ว ใช้สั่งการควบคุมระบบต่าง ๆ และยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน แอปเปิล คาร์ เพลย์ และแอนดรอยด์ ออโต รวมถึงเชื่อมต่อกล้องหลัง เพื่อแสดงภาพเวลาถอย
มีจุดชาร์จ 6 จุด ทั้งที่ชาร์จแบบ 12 โวลต์ ที่ชาร์จแบบไวเรต และ USB A
อีกเรื่องสำหรับห้องโดยสารของเจ้ารถคันนี้คือความโปร่งและความกว้างขวางของตัวรถโดยเฉพาะการออกแบบให้มีพื้นที่หน้าต่างกระจกบานใหญ่ช่วยให้รถคันนี้ดูโอ่โถงและผู้โดยสารยังสามารถเพลิดเพลินไปกับวิวสองข้างทางได้แบบเต็ม ๆ
ส่วนขุมกำลังของเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 115 แรงม้า ที่ 6,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 144 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาทีทำงานกับเกียร์อัตโนมัติ IVT 7 สปีด ถือว่าเพียงพอสำหรับการทดสอบครั้งนี้ ด้วยจำนวนผู้โดยสารรวมคนขับแล้วเป็นจำนวนสามคนถือว่ายังไม่เต็มที่กับจำนวนที่นั่งที่รถคันนี้มีมาให้สำหรับคันที่เราทดสอบเป็นรุ่น 7 ที่นั่งตัวท็อป
เครื่องยนต์เดินเรียบ แต่บางจังหวะที่ต้องการทำความเร็วก็ต้องใช้วิธีการเปลี่ยนโหมด จากโหมดอีโคขยับไปเป็นโหมดสมาร์ท หรือสปอร์ตแทน เพื่อขับยาว ๆ แต่บางจังหวะที่ต้องการเร่งแสงกำลังของเครื่องยนต์มายังไม่ค่อยทันใจก็ใช้โหมดเกียร์แมนวลเข้ามาช่วย
สิ่งที่ขอชมคือ การทำงานของเครื่องถ้าขับไปเรื่อย ๆ เครื่องยนต์ทำงานได้ค่อนข้างจะราบเรียบขับได้ไปนิ่มนวลแบบสบาย ๆ
รถคันนี้ยังมีระบบความปลอดภัยต่าง ๆ เข้ามาให้ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรกอัตโนมัติระบบป้องกันการชนขณะถอย ระบบควบคุมให้รถอยู่กลางเลน เตือนและดึงกลับ เมื่อรถออกนอกเลน เรียกได้ว่ามีครบ
แต่ถ้าหากใครเป็นสายซิ่ง สายเซี้ยว แนะนำว่า โหมดสปอร์ต (sport) ของสตาร์เกเซอร์ เอาเรื่องเชียวขับสนุกใช้ได้เลยทีเดียว
ถึงตรงนี้สำหรับใครที่กำลังมองหารถยนต์เพื่อการใช้งาน เพื่อรองรับความอเนกประสงค์ของครอบครัว ฮุนได สตาร์เกเซอร์ มาพร้อมความสดใหม่ในตลาด และเป็นอีกเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ
ฮุนไดเขาจัดมาให้เลือกถึง 4 รุ่น ได้แก่ รุ่น Trend ราคา 760,000 บาท รุ่น Style ราคา 829,000 บาท รุ่น Smart แบบ 7 ที่นั่ง ราคา 869,000 บาท รุ่น Smart แบบ 6 ที่นั่ง ราคา 889,000 บาท
