จักรกลหนัก 2.5 หมื่นล้านคึก “วัตคินสัน-อิตัลไทย” ระเบิดศึกชิงลูกค้า

Walkaround Left Front view

ตลาดรถเครื่องจักรขนาดใหญ่ 2.5 หมื่นล้านคึก รับเมกะโปรเจ็กต์-ก่อสร้างบูม “วัตคินสัน” ส่งรถขุด-ตัก กวาดลูกค้าตั้งเป้าขายเพิ่ม 120 คัน เร่งเน็ตเวิร์กทั่วประเทศ ด้าน “อิตัลไทย”ถล่มด้วยวอลโว่ EC200D ขนาด 20 ตัน

นายกมลวัฒน์ วีรศุภกาญจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท วัตคินสันคอนสตรัคชั่น อิควิปเมนท์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายและให้บริการเครื่องจักรเพื่อการก่อสร้างและเหมืองแร่ ภายใต้แบรนด์ “เคส คอนสตรัคชั่น” (CASE Construction)เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า 3 ปีกว่า ๆ ในการทำตลาดได้รับการตอบรับจากลูกค้าคนไทยดีมาก และเชื่อว่าน่าจะดีมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว เมกะโปรเจ็กต์มีเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจพิเศษต่าง ๆ

ดังนั้น ปีนี้บริษัทจึงมีแผนลงทุนเพื่อเพิ่มโชว์รูมและศูนย์บริการ “เคส” กระจายออกไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ 2-3 แห่ง ได้แก่ นครราชสีมา, นครศรีธรรมราช และนครปฐม จากปัจจุบันที่มีอยู่ 4 แห่ง ระยอง, อุดรธานี, เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่

“เบื้องต้นเตรียมงบประมาณสำหรับการลงทุนไว้ที่ 30 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการลงทุนโดยบริษัทเอง 100%”

ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทเล็งเห็นถึงความสำคัญของการให้บริการหลังการขาย โดยเฉพาะการเข้าถึงลูกค้าอย่างใกล้ชิดและรวดเร็ว สำหรับยอดขายในปีที่ผ่านมา บริษัททำได้ 100 คัน แบ่งสัดส่วนเป็นกลุ่มรถแบ็กโค 60% รถบด 30% ที่เหลือ 10% เป็นรถเกรด รถตัก และอื่น ๆ โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้นจากปีก่อน คือ 120 คัน ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวเครื่องบดวัสดุขนาดกะทัดรัดแบบเคลื่อนที่ ภายใต้แบรนด์ RM เป็นครั้งแรกของประเทศไทย รุ่น RM70GO 2.0และเครื่องร่อนคัดวัสดุกึ่งเคลื่อนที่ 2 ชั้น รุ่น CS3600/2 คู่แรกให้กับผู้รับเหมางานถนนชั้นนำของประเทศ

ไทยปีนี้บริษัทคาดว่าจะสามารถจำหน่าย เครื่องบดวัสดุ RM ให้ได้อย่างน้อย 10 เครื่อง และจากการศึกษาถึงแนวโน้มความต้องการใช้เครื่องบดและเครื่องร่อนคัดขนาดวัสดุแบบเคลื่อนที่ได้ พบว่ามีความต้องการเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 40-50 คัน

จากแนวโน้มของภาพรวมเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมการก่อสร้างในประเทศไทย ที่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 8% ในช่วง 5 ปี (2561-2565) และปีนี้เชื่อว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย อยู่ที่ประมาณ 4% รวมถึงบรรดาเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐพยายามผลักดันถึง 20 โครงการ ซึ่งเกี่ยวกับระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานและการก่อสร้างมูลค่าประมาณ 1.79 ล้านล้านบาท รวมทั้งโครงการรถไฟไทย-จีน การขยายสนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2 โครงการด้านการขนส่งอีกหลาย ๆ โครงการ

“เรายังมีแนวคิดที่จะทำตลาดในอนาคตให้ลูกค้าสะดวกมากขึ้น นำรถคันเก่ามาแลกซื้อคันใหม่ ซึ่งแนวคิดนี้น่าจะอีก 2-3 ปี ถึงจะเริ่มเดินหน้า เพราะปัจจุบันเราเพิ่งทำตลาดมา 1-2 ปี มีจำนวนรถที่ออกสู่ตลาดประมาณ 90 คัน ขณะที่จำนวนลูกค้ามี 30 ราย ทั้งรายเล็กรายย่อย”

ด้านนายอดิศร์ พฤกษ์พัฒนรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิตัลไทยอุตสาหกรรม จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้ตลาดรถจักรกลหนักคึกคักขึ้นมาก คาดการณ์ว่าตลาดรถขุดสำหรับงานก่อสร้างจะมีมูลค่าราว 25,000 ล้านบาท บริษัทได้ร่วมมือกับวอลโว่ คอนสตรัคชั่น อีควิปเม้นท์ เปิดตัวรถขุดวอลโว่ EC200D เพื่อรองรับการขยายฐานลูกค้า กลุ่มงานถนนและก่อสร้างทั่วไป จุดขายของบริษัทยังมุ่งเน้น 3 ส่วนหลัก ๆ คือ 1.เลือกพันธมิตรธุรกิจที่เหมาะสม 2.สร้างสรรค์กิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่เข้าถึงลูกค้า โดยชูจุดเด่นผลิตภัณฑ์ “คงทน คุ้มค่า คุ้มราคา” 3.ความพร้อมด้านงานบริการหลังการขาย และลูกค้าสัมพันธ์ ที่มีศูนย์บริการอิตัลไทยเซ็นเตอร์ 14 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่สำคัญทั้งในไทย และ สปป.ลาว

“มั่นใจว่าจุดขายทั้ง 3 ส่วนจะช่วยผลักดันรายได้ให้เติบโตกว่า 40% จากปีที่ผ่านมา และสำหรับรถขุดวอลโว่ EC200D น่าจะขายได้มากกว่า 350 ยูนิตด้วยมูลค่ามากกว่า 1,500 ล้านบาท ครองส่วนแบ่งในตลาดรถขุด 20 ตัน ประมาณ 10%”

สำหรับบริษัท อิตัลไทยอุตสาหกรรม จำกัด หรือ ITI คือ หนึ่งในธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัทอิตัลไทย ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายเครื่องจักรกลหนักแบรนด์ชั้นนำระดับโลก อาทิ วอลโว่-เอสดีแอลจี-ทาดาโน่-ยูตง-บ็อบแคท-แอตลาส คอบโก้-พาวเวอร์เคิร์บเบอร์แอนด์พาวเวอร์เพฟเวอร์ และดีเอ็มไอ ที่สามารถตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างได้แบบครบวงจร