มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 เปอร์เฟ็กต์เอสยูวี

คอลัมน์เทสต์คาร์ โดย อมร พวงงาม

ทุกวันนี้กลุ่มรถเอสยูวีของมาสด้า ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา
พอจะกระโดดขึ้นมาเคียงบ่าเคียงไหล่
กับกลุ่มรถเอสยูวีของค่ายยุโรปได้แบบไม่เคอะเขิน

โดยเฉพาะออปชั่นที่ให้มา ทั้งเพื่ออำนวยความสะดวก และเพื่อความปลอดภัย
ยิ่งตัวนี้เป็นสกายแอคทีฟเวอร์ชั่นสอง 
ผมว่าได้อะไรมากกว่าที่คิดไว้เยอะ

แถม"รูปร่างหล่อเหลาเอาการ สมรรถนะเกินตัว"


รูปทรงต้องบอกว่า ก้าวไปอีกขั้นของโคโดะดีไซน์
เที่ยวนี้มาภายใต้คอนเซ็ปต์ "Less is more."
สรุปง่าย ๆ คือ ดูมีชีวิตชีวา หรูหรา ปราดเปรียวในสไตล์พรีเมี่ยมซะด้วย

ภายในออกแบบดุจงานศิลปะชั้นสูง
ประณีตในทุกรายละเอียด 
คัดสรรวัสดุคุณภาพเกรดพรีเมี่ยม เปี่ยมด้วยกลิ่นอายแห่งความหรูหราสไตล์ยุโรป
พยายามเติมเต็มความสะดวกสบายด้วยปรัชญา human-centered design

เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า 
ฝั่งคนขับเมโมรี่ 2 ตำแหน่ง
ผัว-เมีย ใช้คันเดียวกันไม่ต้องมาปรับแต่งใหม่ให้ยุ่งยาก
รถคันนี้ล้ำหน้าด้วยการต่อเชื่อมกับโซเชียลมีเดีย
อัพเดตข้อมูลข่าวสารได้ตลอดการเดินทาง 
มีแอปพลิเคชั่นให้เลือกมากมาย รวมถึงระบบนำทาง



กระหึ่มด้วยเครื่องเสียงชุดใหญ่มาพร้อมลำโพงบอส 10 ตำแหน่ง
จอทัชสกรีนดีไซน์ใหม่ ขนาด 7 นิ้ว 
แสดงเมนูสั่งงานของระบบ MZD connect ครบถ้วน
จะใช้เสียงสั่งก็ได้นะ 
 
ขุมพลังซีเอ็กซ์-5 มีให้เลือก 2 ตัว เบนซิน 2.0 ลิตร
และดีเซล 2.2 ลิตร
ทั้ง 2 ตัว เป็นเทคโนโลยีสกายแอคทีฟที่ถูกพัฒนาต่อยอดขึ้นไปอีกระดับ
ได้ทั้ง "แรง-ประหยัดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม"

ตัวดีเซล ให้กำลัง 175 แรงม้า แรงบิดสูง 420 นิวตัน-เมตร
ส่วนเบนซิน ให้กำลัง 165 แรงม้า แรงบิดสูง 210 นิวตัน-เมตร

 

 
ผมชื่นชอบทั้ง 2 ตัว ถ้าเน้นดุดันคงต้องเลือกดีเซล
เพราะไม่ว่าคุณจะเรียกกำลังตอนไหน
ม้าทั้งฝูง 175 ตัวมันพร้อมทำหน้าที่

ขณะที่เครื่องยนต์เบนซิน มีโหมดการขับขี่ให้เลือก
อยากจะกระโชกโฮกฮาก ก็เลือกไปโหมดสปอร์ต
ได้สนุกเต็มที่ ไปพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด
ที่ต่อเชื่อมกำลังกันได้อย่างไหลลื่นลงตัว 
ทั้งหมดมาพร้อมกับระบบช่วงล่างที่เหมือนรถแข่งโมดิฟายมาแล้ว
ทำงานร่วมกับระบบ G-Vectoring Control (GVC) 
หรือระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ

ซึ่งถ้าคุณไม่เลือกออฟระบบนี้
คุณจะไม่มีทางเจอปัญหา หน้าดื้อเลี้ยวไม่เข้า
หรือเลี้ยวแล้วท้ายปัดเด็ดขาด
เพราะระบบจะทำหน้าที่รักษาเสถียรภาพของรถ
ให้คุณเข้าโค้งได้เนียนจนรู้สึกแปลกใจกับฝีมือตัวเอง 

และไม่ต้องกังวลกับปุ่มปรับเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
เพราะทั้ง 2 รุ่นเขามีสเต็ปทรอนิก 
สามารถโยกเลื่อนตำแหน่งเกียร์ได้ตามใจชอบ
จนคุณรู้สึกสัมผัสได้ถึงพื้นฐานปรัชญา "จินบะ อิตไต" 
ที่ผสานตัวผู้ขับขี่และรถให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
สนุก ควบคุมรถง่าย และปลอดภัย 


เอาล่ะ...ทีนี้มาว่ากันถึงออปชั่น 
อย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่าพัฒนามาเพื่อท้ารบเอสยูวีค่ายยุโรป
ซึ่งคนมาสด้าเรียกว่า i-ACTIVSENSE
เทคโนโลยีความปลอดภัยเพื่อคุณและคนสำคัญของคุณ

ทำหน้าที่ทั้งเตือนและป้องกันความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุแบบรอบคัน
เริ่มจากระบบไฟหน้าอัจฉริยะ ปรับการทำงานของไฟสูง-ต่ำ แยกอิสระจากกันทั้งซ้าย-ขวา 
ให้เหมาะกับระยะห่าง และตำแหน่งของรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ 
น่ารักมาก ๆ เห็นสว่าง ๆ แบบนี้ไม่รบกวนสายตารถคันอื่นเลยครับ 

ตามมาด้วยระบบเตือนเหนื่อยล้าขณะขับขี่ บอกให้คุณหยุดพักดื่มกาแฟ 
รับรองกลับถึงบ้านปลอดภัยแน่นอน
เหนือชั้นด้วยระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ หากระบบตรวจสอบพบว่าไม่สามารถเลี่ยงการชนได้ 
ระบบจะช่วยเบรกให้ทันที
ระบบนี้ปลดได้นะครับ ยิ่งถ้าคุณเป็นประเภทที่ชอบขับแบบชูตเข้าไปท้ายรถคันหน้าแล้วดึงหัวออก
ระบบจะเบรกให้ทันที อาจจะทำให้เสียจังหวะได้ 

ถัดมาเป็นระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง 
ใครที่ชอบเคลื่อนตัวออกจากช่องจอดเร็ว ๆ สบายใจได้ครับ
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน 
มีสัญญาณเตือนและช่วยปรับทิศทางพวงมาลัยให้รถกลับเข้าสู่เลน

ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา มีไฟสีส้มปรากฏที่กระจกมองข้าง
ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติพร้อมปรับระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้า 
ขับทางไกลมีประโยชน์มาก 

ส่วนระบบป้องกันหลังเกิดเหตุก็ครบ ทั้งโครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ 
ถุงลมและม่านถุงลมนิรภัย เบาะนั่งด้านหลัง
ออกแบบให้มีองศาที่รองรับน้ำหนักของคนนั่งได้อย่างเหมาะสม 
ซึ่งป้องกันไม่ให้ผู้โดยสารพุ่งออก จากเบาะนั่งไปทางด้านหน้า        
กันชนหน้าและกระโปรงหน้า 
ถูกออกแบบให้มีโครงสร้างเพื่อช่วยลดอาการบาดเจ็บของผู้ถูกชนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

เห็นออปชั่นเยอะแยะแบบนี้ ลองหันไปดูราคาขายกันหน่อยครับ
เครื่องยนต์เบนซิน เริ่มต้นที่ 1.2 ล้านบาท
ขยับมาดีเซล ขับเคลื่อนสี่ล้อ 1.77 ล้านบาท
ซื้อตอนนี้มีมาสด้าแคร์ดูแลรถให้อย่างดีเยี่ยม
ใครที่กำลังจดจ้อง รถอเนกประสงค์ระดับพรีเมี่ยมราคาเอื้อมถึง
ผมว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง