มิตซูบิชิ ไทรทัน ขับสอง ยกสูง คุมง่าย ขับสนุก

คอลัมน์ : เทสต์คาร์
ผู้เขียน : วุฒิณี ทับทอง

มีหลายคนถามว่า ปิกอัพใหม่ จากค่ายมิตซูบิชิ อย่าง ไทรทันใหม่ (All-New Mitsubishi Triton) นั้น มีความเปลี่ยนแปลงใหม่หมดหรือไม่

ทีมงานมิตซูบิชิ มอเตอร์ ได้รับการยืนยันหนักแน่นว่า “ไทรทัน” เวอร์ชั่นนี้ เขาใหม่หมดทุกสิ่ง ตั้งแต่การออกแบบ ทั้งภายนอก-ภายใน แชสซีส์ ช่วงล่าง บอดี้ หน้าตา หรือแม้แต่นอตที่ใช้ สำหรับรุ่นก่อน ก็ยังไม่สามาถใช้ร่วมกันได้ เอาเป็นว่า เป็น “โมเดลเชนจ์” ในรอบ 9 ปี

ออลนิว ไทรทัน มาพร้อมแนวคิด THE DISRUPTOR หรือปฏิวัติทุกความเชื่อ นัยว่าต้องการทลายทุกขีดจำกัด เพื่อให้รถคันนี้เป็นกระบะพันธุ์ใหม่ พร้อมตอบสนองการใช้งานรูปแบบต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์ให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มผู้ใช้งานหลายหลากได้มากที่สุด

หลังจากมีโอกาสได้ร่วมกิจกรรมทดสอบรถรุ่นนี้ ทางเส้นทางหลวง-แทร็กทางฝุ่น ที่มิตซูบิชิได้เซตไว้ ถือว่า การปรับใหม่ของไทรทัน เวอร์ชั่นนี้ ทำออกมาได้ดีมาก โดยเฉพาะในเรื่องฟีลลิ่ง ที่ตำแหน่งด้านหลังพวงมาลัย ของมิตซูบิชิ ดับเบิล แค็บ พลัส 2.4 ULTRA AT

ทั้งการตอบสนองของเครื่องยนต์ HYPER POWER ดีเซล 2.4 เทอร์โบ พัฒนาใหม่หมด ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที ส่วนแรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตร ที่ 2,250-2,500 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

ในจังหวะออกตัว ทำได้ค่อนข้างเนียบ

ส่วนการเร่งแซงนั้น ยังมีจังหวะต้องคิดต้องรอ ให้พออืดอาดนิดหน่อย แต่เมื่อวิ่งผ่านช่วงรอยต่อนั้น เครื่องยนต์วิ่งฉิว ขับสนุก ถ้าเทียบกับเครื่อง MIVEC ในไทรทันเวอร์ชั่นก่อน จังหวะการตอบสนอง และอัตราเร่ง เนียบกว่า

ส่วนชื่อชั้นของช่วงล่าง มั่นใจได้กับเทคโนโลยี MEGA FRAME ใหม่ ที่ใหญ่ขึ้น แข็งแรงขึ้น ขณะที่น้ำหนักตัวที่เบาลง มิตซูบิชิใช้ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระแบบปีกนก 2 ชิ้น และด้านหลังแบบแหนบแผ่นซ้อน ทำให้การซับแรงกระแทก การให้ความยืดตัวของช่วงล่างจังหวะผ่านพื้นผิวถนนรูปแบบต่าง ๆ มีครบทั้งความแข็งแรง และนุ่มนวล

แม้วิ่งด้วยความเร็วสูง ทางเรียบ และทางฝุ่น เขาโค้ง แรง ๆ เจ้าไทรทันคันนี้ “เก็บทรง” ได้อยู่ ไม่ถึงกับยวบย้วน รถอาจจะมีอาการโคลงเล็กน้อย ท้ายบานนิด ๆ ถือเป็นอาการปกติของรถกระบะ อยู่ในเกณฑ์รับได้

เช่นเดียวการการตอบสนองของพวงมาลัย แม้ว่าหลายคนจะบ่นเรื่องของน้ำหนักที่มากไป แต่โดยส่วนตัวถือว่า กำลังดี โดยเฉพาะเมื่อวิ่งด้วยย่านความเร็ว ให้ความรู้สึกมั่นใจและคุมง่าย

มิตซูบิชิใส่ระบบ AYC หรือที่เรียกว่า (ยอว์คอนโทรล : ACTIVE YAW CONROL) มั่นใจได้ กับเสถียรภาพการควบคุมการทรงตัว เพราะระบบจะเข้ามาช่วยรักษาสมดุล รวมทั้งป้องกันล้อฟรี การลื่นไถลของล้อทั้ง 4 ด้วย

การเก็บเสียงภายในห้องโดยสาร แม้ว่ามิตซูบิชจะเคลมว่า ใช้กระจกแบบลดเสียง แต่ก็ยังมีเสียงเล็ดลอดเข้ามาบางจังหวะ ถ้าไม่ได้ใช้ความเร็วมาก ก็จะเป็นเสียงลม แต่หากจังหวะเร่งแซงนั้นแน่นอน เครื่องเครื่องยนต์ถือว่า “ใช้ได้”

บางจังหวะที่วิ่งบนพื้นทางคอนกรีต เสียงของยางบดพื้นถนน และช่วงล่างก็มีเข้ามาเป็นระยะ

การออกแบบภายในห้องโดยสารนั้น โทนสีดำ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก การจัดว่างพื้นที่ต่าง ๆ ทำให้ลงตัว โดยเฉพาะสวิตช์ควบคุมระบบปรับอากาศ มีลักษณคล้ายแป้นกดเปียโน ออกแบบมาได้เก๋ไก๋

ส่วนวัสดุที่เลือกใช้ภายในห้องโดยสาร ดูอัพเกรดขึ้นจากรุ่นก่อน มีการนำวัสดุซอร์ซทัช เข้ามาเพิ่มมากขึ้น

แต่เมื่อลองเข้าไปนั่งในตำแหน่งผู้โดยสารตอนหลัง ที่เป็นชื่อชั้นของมิตซูบิชิว่า นั่งสบายที่สุดในคลาสนั้น ในเวอร์ชั่นนี้ ก็ถือว่าพื้นที่เหลือเฟือ

แต่ถ้าเทียบเวอร์ชั่นก่อนแล้ว ให้คะแนนความสบายในเวอร์ชั่นก่อนมากกว่านิดหน่อย

ส่วนรูปร่างหน้าตา ภายนอกถือเป็นการเปลี่ยนแปลงพอสมควร โดยเฉพาะกระจังหน้าใหม่ ที่มิตซูบิชิพยายามออกแบบมาให้มีทั้งความดุดัน แข็งแกร่ง แฝงความปราดเปรียว ตรงนี้ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน

น่าเสียดาย ที่มิตซูบิชิเลือกจังหวะการเปิดตัวรถไทรทัน ที่วันนี้มีเพียง 2 รุ่น คือ รุ่นดับเบิล แค็บ ขับเคลื่อน 2 ล้อ 4 ประตูยกสูง ที่เขาบอกว่านี่คือรุ่นขายของมิตซูบิชิ ไทรทัน เช่นเดียวกับรุ่นซิงเกิล แค็บ (หัวเดี่ยว) เขาขอทำตลาด 2 รุ่นดังกล่าวนี้ก่อน แทนที่จะเปิดตัวมาให้ครบทั้งไลน์อัพ โดยเฉพาะรุ่นท็อป ทำให้ดูเหมือนว่า มิตซูบิชยังกั๊ก ๆ ยังมายังไม่เต็ม

ต้องรอดูว่า ไทรทันรุ่นท็อปที่จะเปิดตัวในช่วงปลายปี จะจัดมาได้จี๊ดแค่ไหน

ส่วนมิตซูบิชิ ไทรทัน คันนี้ รุ่นดับเบิล แค็บ ขับเคลื่อน 2 ล้อ 4 ประตูยกสูง ราคาค่าตัวอยู่ที่ 1.027 ล้านบาท

​