JAPAN MOBILITY SHOW 2023 หลากสีสัน…อนาคตที่ไม่ต้องอดใจรอ

Japan Mobility show 2023
ภาพจาก : Kazuhiro NOGI / AFP

กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ สำหรับงานแสดงรถยนต์ที่ใหญ่และยาวนานของภูมิภาคเอเชีย กับงาน “JAPAN MOBILITY SHOW 2023” หลายคนอาจจะไม่คุ้นหู เพราะชื่อเดิมคือ “Tokyo Motor Show”

สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นได้ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อ เพื่อให้สอดรับกับภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมการขับเคลื่อนใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 47 ส่วนสถานที่จัดงานยังคงใช้ ที่เดิม คือ “Tokyo Big Sight” โดยงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 26 ตุลาคม-5 พฤศจิกายน 2566

ปีนี้ค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ที่เข้าร่วมงาน ส่วนใหญ่เน้นโชว์นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อให้เข้ากับธีมหลักของการจัดงาน ที่ว่าด้วย “พบกับอนาคตที่ไม่ต้องอดใจรอ” และถือเป็นก้าวสำคัญที่เราจะได้เห็นค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ขนนวัตกรรมรถ EV ของตัวเองมาแสดงอย่างตื่นตัว

นอกจากค่ายรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น งานนี้ 2 ค่ายรถหรูจากฝั่งเยอรมัน ทั้งเมอร์เซเดส-เบนซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู ก็ไม่พลาดโอกาส และที่น่าจับตายักษ์ใหญ่จากจีน “BYD” นับเป็นครั้งแรกที่ได้เข้างาน

ฮอนด้าการขับเคลื่อนที่ไม่มีที่สิ้นสุด

“โทชิฮิโระ มิเบะ” ผู้อำนวยการ ประธานกรรมการบริหาร และตัวแทนเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ได้ขึ้นเวทีแนะนำบูทโดยระบุว่า ฮอนด้าต้องการ “ก้าวข้ามข้อจำกัดต่าง ๆ” และ “เพิ่มพูนศักยภาพและโอกาสให้ทุกคน” ฮอนด้าใช้บนพื้นที่ใหญ่ที่สุดของงานขนาด 2,850 ตารางเมตร ภายในบูทดีไซน์ด้วยเครื่องหมาย “อินฟินิตี้” ที่ต้องการสื่อสารถึงพลังความฝันและการขับเคลื่อนที่ไม่มีที่สิ้นสุด และนำเสนอการขับเคลื่อน ภายใต้ Global Brand Slogan คือ The Power of Dreams-How we move you ที่ต้องการสื่อความหมายว่า “ความฝันของพนักงานฮอนด้าทุกคนเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่ฮอนด้ามาโดยตลอด

ในขณะที่หลากหลายผลิตภัณฑ์ด้านการขับเคลื่อน และบริการที่ฮอนด้าสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยพลังแห่งความฝันเหล่านี้ สามารถนำพาผู้คนไปยังที่ต่าง ๆ ขับเคลื่อนหัวใจของผู้คน และช่วยให้ผู้คนตระหนักถึงความฝันของตนเอง ซึ่งจะนำไปสู่ความฝันอันยิ่งใหญ่อีกมากมายในอนาคต”

Advertisment

ยานพาหนะอัตโนมัติ

เริ่มจาก Cruise Origin ที่ฮอนด้าร่วมมือกับ GM วางแผนเปิดตัวบริการเรียกรถไร้คนขับในประเทศญี่ปุ่น โดยจะเริ่ม Cruise Origin ภายในต้นปี พ.ศ. 2569 ยานพาหนะอัตโนมัติ ที่จะช่วยให้ผู้คนสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดของเวลา พื้นที่ภายในของยานพาหนะคันนี้มอบความเป็นส่วนตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผู้ใช้งานจึงสามารถใช้เวลาเดินทางได้อย่างอิสระ

Honda eVTOL และ HondaJet มาต่อยอดการขับเคลื่อนในรูปแบบสามมิติสู่ท้องฟ้า และช่วยให้ผู้คนก้าวข้ามข้อจำกัดของสถานที่และระยะทางได้ โดยสามารถผสานการทำงานของเครื่องบินเหล่านี้เข้ากับระบบการขับเคลื่อนภาคพื้นดินได้ จะช่วยให้ผู้คนเดินทางได้อย่างอิสระและราบรื่นไร้รอยต่อมากขึ้น ช่วยให้การเดินทางระยะไกลจะลดลง ช่วยให้ผู้คนสามารถ “ก้าวข้ามข้อจำกัดของสถานที่และระยะทาง”

Advertisment

รถต้นแบบเกลื่อนเวที

SUSTINA-C Concept รถยนต์ที่ทำจากเรซินอะคริลิกที่รีไซเคิลและนำกลับมาใช้ใหม่ การหมุนเวียนทรัพยากรที่จะช่วยให้สามารถก้าวข้ามทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด และบรรลุเป้าหมายทั้งในด้านความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม อีกทั้งความสุขและอิสระในการขับเคลื่อนสู่อนาคต

Honda Avatar Robot เพื่อการเคลื่อนที่อย่างมีประสิทธิภาพ UNI-ONE อุปกรณ์เคลื่อนที่สามารถบังคับทิศทางได้ง่าย ๆ โดยการเปลี่ยนถ่ายน้ำหนักตัวขณะนั่งโดยไม่ต้องใช้มือ

Honda CI-MEV รถยนต์ขนาดเล็กที่ขับเคลื่อนโดยอัตโนมัติ ที่ที่จะทำให้การขับเคลื่อนที่เข้าถึงได้ง่าย ผู้คนก็สามารถไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้ไกลขึ้น เร็วขึ้น และคล่องตัวมากขึ้น และรถยนต์สปอร์ต Prelude Concept ที่จะสานต่อ “ความสนุกสนานและเพลิดเพลินในการขับขี่” สู่อนาคตแห่งขุมพลังการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบเพื่อให้ยนตรกรรมรุ่นนี้สามารถ ส่งมอบ “ความสุขในการขับขี่” ด้วย

โตโยต้าร่วมพลิกอนาคต

สำหรับค่ายโตโยต้า “ร่วมพลิกโฉมอนาคตแห่งยานยนต์-Find Your Future” รถยนต์ต้นแบบไฟฟ้า (BEV) มาโชว์ 2 รุ่น ได้แก่ FT-3e ต้นแบบรถเอสยูวี และ FT-Se ต้นแบบรถสปอร์ต เพื่อจะนำเสนออนาคตแห่งรถยนต์ที่เปลี่ยนแปลงเนื่องจากพลังงานไฟฟ้า และการเสริมความอัจฉริยะ ทั้งนี้ โตโยต้าเชื่อว่าในอนาคต การขับเคลื่อนจะไม่ได้เป็นเพียงแค่ยานพาหนะในการขนส่งเท่านั้น แต่จะเป็นเสมือนเพื่อนข้างกายคนสำคัญในชีวิตประจำวัน ที่ตอบสนองความต้องการของแต่ละบุคคล นอกจากนี้มีการนำรถยนต์ IMV 0 มาจัดแสดง ซึ่งถูกพัฒนาให้เป็นโซลูชั่นการขับเคลื่อนที่จะทำให้ความปรารถนาของคุณเป็นจริงได้ IMV 0 จะนำเสนอจุดเด่นในการดัดแปลงตัวรถได้อย่างอิสระหลายรูปแบบ เพื่อรองรับความต้องการการใช้งานที่แตกต่างกัน รถคันนี้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้

เลกซัส กับประสบการณ์ในยุคพลังงานไฟฟ้า

แบรนด์เลกซัส มาพร้อมแนวคิด “ข้ามผ่านข้อจำกัดของประสบการณ์ในยุคพลังงานไฟฟ้า” แนะนำไลน์อัพของยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคตเป็นครั้งแรก เพื่อสอดคล้องกับความมุ่งมั่นสู่การเป็นแบรนด์ผู้ผลิตยานยนต์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า ภายในปี 2578 เลกซัสนำเสนอแนวคิดและแสดงบูทผ่านสุนทรียศาสตร์แบบฉบับของประเทศญี่ปุ่น เพื่อบรรลุสังคมที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน โดย “Lexus Electrified VR Experience” ซึ่งยนตรกรรมไฟฟ้า และเทคโนโลยี AI มีบทบาทช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้า และเชื่อมต่อกับสังคม และสัมผัสประสบการณ์การขับขี่เฉพาะตัว ภายใต้การตั้งค่าของระบบเสมือนจริง (VR)

นิสสันฉลองครบรอบ 90 ปี

สำหรับนิสสัน มอเตอร์ ปีนี้ครบรอบ 90 ปี นอกจากการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบทั้ง 4 รุ่น ได้แก่ นิสสัน ไฮเปอร์ เออร์เบิน, นิสสัน ไฮเปอร์ แอดเวนเจอร์, นิสสัน ไฮเปอร์ ทัวเรอร์ และ นิสสัน ไฮเปอร์ พังก์ ยังนำรถยนต์ไฟฟ้าและรถที่เป็นโปรดักชั่นไลน์รุ่นลิมิเต็ด 90 ปี มาอวดโฉมอย่างมาก ขณะที่แบรนด์แม้จะยังไม่มีรถยนต์ไฟฟ้า แต่ก็มาด้วยธีม “The Future created by the love of Cars” หรือ “อนาคตที่สร้างขึ้นจากความรักในรถยนต์” โดยได้รับการออกแบบเพื่อถ่ายทอดความมุ่งมั่นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าผู้ที่รักในการขับขี่ และรักในรถยนต์

ซูซูกิคำตอบของความตื่นเต้นทั่วโลก

แบรนด์ซูซูกิมีโปรดักต์มากมาย หลากหลาย เพื่อไปสู่สังคมคาร์บอนเป็นกลางในอนาคต รวมทั้งเทคโนโลยีที่มาร่วมกันในฐานะการเป็นผู้ผลิตการขับเคลื่อนทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ตลอดจนเครื่องเรือ และถือเป็นอีกหนึ่งความชัดเจน ที่ซูซูกิแสดงเชิงกลยุทธ์ eVX รถเอสยูอีวี, eWV รถครอสโอเวอร์มินิแวกอนไฟฟ้า รวมทั้งรถตู้ไฟฟ้า e EVERY Concept รวมรถต้นแบบของรถยนต์ขนาดเล็กอย่าง ซูซูกิ สวิฟท์

ทั้งหมดนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของไฮไลต์ งาน JAPAN MOBILITY SHOW 2023 ที่จะมีไปจนถึงวันที่ 5 พฤศจิกายน งานนี้นอกจากจะได้เห็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยียานยนต์ของผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น ในฐานะคนไทยที่ตลาดในบ้านเรากำลังสนุกสนานกับรถ EV จากจีน งานนี้ก็สะท้อนให้เห็นว่า ค่ายญี่ปุ่นมิได้นิ่งนอนใจกับภาวะสถานการณ์รถสันดาปที่กำลังถูกไล่ล่าจากค่ายรถ EV ของจีน

ส่วนกลยุทธ์ที่แต่ละค่ายจะนำมาใช้ไม่อยากให้กะพริบตา