KIA EV 9 คันนี้มีครบ เท่ หรู ดูสปอร์ต

KIA EV 9
คอลัมน์ : เทสต์คาร์
ผู้เขียน : วุฒิณี ทับทอง

ถือเป็นการกลับเข้ามาทำตลาด ก้าวสำคัญสำหรับค่ายรถสัญชาติเกาหลี อย่าง “เกีย ไทยแลนด์” การกลับมาครั้งนี้บริษัทแม่ขอทำตลาด KIA EV 9 รถเอสยูวีไฟฟ้า 6 ที่นั่ง

หลังเปิดตัวทำตลาดในบ้านเราอย่างเป็นทางการแล้ว เพราะเล็งเห็นแล้วว่าประเทศไทยยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพ

ความชัดเจนของเกียโดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า 100% ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา ประเดิมด้วย KIA EV 9 ก่อนจะตามมาด้วยเอสยูวีไซซ์ย่อม ๆ อย่าง KIA EV 5 ขณะที่รุ่นอื่นยังมี พร้อมเสิร์ฟให้กับลูกค้าชาวไทยทั้ง KIA Carnival, KIA Sorento

จุดขายของเกีย นอกจากความโดดเด่นด้านโปรดักต์แล้ว ต้องบอกว่าในตลาดนี้ เกียยังไม่มีคู่แข่ง

KIA EV 9

“ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสได้สัมผัสกับรถ บอกเลยไม่แปลกใจ ทำไมรถรุ่นนี้สามารถกวาดรางวัลจากเวทีระดับโลกมาอย่างมากมาย

ADVERTISMENT

ทั้ง World Car of the Year 2024, World Electric Vehicle of the Year 2024, Golden Steering 2003 ประเภทรถครอบครัว และอื่น ๆ อีกมากมาย

รับรถกันที่สำนักงานใหญ่ ของเกีย ย่านสาทร สำหรับรถคันนี้กว่าจะตกลงปลงใจ ตกปากรับคำกับ “สาวแซมมี่” ศุภมน มะลิกุล Event and Public Relations Manager เรียกว่าใช้เวลาพอสมควร

ADVERTISMENT

ด้วยขนาดตัวของเจ้า KIA EV 9 ค่อนข้างใหญ่ มีความยาวถึง 5 เมตรกว่า ๆ กว้าง 1,980 มม. สูง 1,780 มม. ถือว่าเป็นรถเอสยูวีขนาด 6 ที่นั่ง ที่ใหญ่โตเอามาก ๆ

การออกแบบโดยรวมถือว่าลงตัว แฝงไปด้วยความหรูหรา แข็งแรง และทรงพลัง ชนิดที่ว่า ขับไปทางไหน มีแต่คนหันมอง

สะกดสายตาด้วยชุดโคมไฟคู่หน้าอัตโนมัติ LED ทรงลูกบาศก์ มีเอกลักษณ์ รับกับกระจังหน้า LED ดิจิทัล โลโก้ KIA แบบใหม่

ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว ดีไซน์เฉพาะ ลงตัวดีมาก มีแร็กหลังคาติดมาให้พร้อมเอาใจสายลุย

ส่วนภายในห้องโดยสารหรูหรา เน้นความสะดวกสบายระดับ “เฟิร์สคลาส” ทั้ง 6 ที่นั่ง

KIA EV 9 KIA EV 9

เบาะคนขับ สามารถจดจำตำแหน่งของผู้ขับขี่ได้ 2 ตำแหน่ง ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ทุกที่นั่ง เป็นเบาะแบบ Relaxation ปรับไฟฟ้า

มาพร้อมระบบระบายอากาศระบบอุ่นเบาะ เบาะรองขา ระบบนวด ทุกที่นั่ง มาพร้อมฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกสบายครบครัน

ส่วนระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระทั้ง 3 โซน พร้อมช่องระบายอากาศในแถวที่สอง และสาม

สำหรับรุ่นที่เราทดสอบ KIA GT-Line AWD หรือรุ่นท็อป มีสีภายในห้องโดยสาร 2 สี คือ เทา-ดำ และน้ำตาล-ดำ

โดดเด่นด้วยหน้าจอ Panoramic Wide Diaplay ขนาด 29.9 นิ้ว แนวนอน โดยหน้าจอสามารถแบ่งออกเป็น 3 จอหลัก แสดงข้อมูลต่าง ๆ การตั้งค่า และการเชื่อมต่อความบันเทิงได้อย่างรวดเร็ว เพียงปลายนิ้วสัมผัส มีระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย

ยังมีการแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกหน้า HUD ช่วยให้ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากด้านหน้า

KIA EV 9

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ปรับได้ 4 ทิศทางแบบไฟฟ้า สามารถบังคับควบคุมได้ง่าย ทำให้รู้สึกว่าควบคุมได้สบาย แม้ว่ารถจะมีขนาดใหญ่

ที่แปลกตาไปคือ เกียร์มือ ที่อยู่ใต้คอพวงมาลัย มาพร้อมระบบขับเคลื่อน มี 3 เกียร์ ทำงานง่าย ๆ เกียร์ D หมุนขึ้นไปด้านหน้า เกียร์ N หมุนกลับมาอยู่ตรงกลาง

ส่วนเกียร์ R หมุนลงมาเข้าหาตัวในส่วนของเกียร์ถอยหลัง เกียใส่ใจในเรื่องความปลอดภัย เพราะมีการใส่ฟังก์ชั่นระบบสั่นเตือนเบาะ เข้ามาที่เกียร์ นัยว่าเป็นการย้ำเตือนว่าคุณกำลังใช้งานเกียร์ถอยหลัง ส่วนเกียร์ P จะอยู่บริเวณหัวคันเกียร์ ใช้ง่ายด้วยการกดปุ่มเท่านั้น

ไฟเลี้ยวจะอยู่ด้านซ้ายมือ เหมือนรถยุโรป ทันทีที่เราเปิดใช้งานไฟเลี้ยวซ้าย-ขวา จะมีหน้าจอทรงกลมโชว์ขึ้นมาที่หน้าปัดด้านหลังพวงมาลัย พร้อมเเสดงภาพจากมุมมองด้านข้างรถ เพื่อช่วยตรวจเช็กความปลอดภัยอีกที

รวมทั้งกระจกมองหลังแบบดิจิทัล เราสามารถเลือกปรับให้กลายเป็นกล้องช่วยมองมุมภาพด้านหลัง ขณะถอยรถได้

KIA EV 9

ขณะที่ระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ทั้งระบบ ADAS ถือว่าครบครัน ส่วนพลังกำลังของ KIA EV 9 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 99.8 kWh ให้กำลังสูงสุด 384 แรงม้า ส่วนแรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 ภาย 5.3 วินาที

รถคันนี้มีโหมดขับขี่ 4 โหมดให้เลือก อีโค, นอร์มอล, สปอร์ต และมายไดรฟ์ หรือการเลือกตั้งค่าการขับขี่ตามความต้องการ

การทดสอบหลัก ๆ ใช้งานวิ่งในเมือง ทันทีที่ออกจากย่านสาทร มุ่งขึ้นทางด่วนเลือกโหมดขับขี่เป็น อีโค เท่านี้ก็เพียงพอกับการใช้งาน พละกำลังของรถคันนี้เรียกว่าเพียงพอ ชำเลืองมองเเบตเตอรี่อยู่ในระดับ 98% วิ่งได้ 481 กิโลเมตร

ระบบการรีเจนไฟกลับเข้าไปในแบตเตอรี่เลือกใช้ เลเวล 1 เส้นทางทดสอบช่วงที่รถติดและทางโล่ง บนทางด่วน KIA EV 9 ถือเป็นเอสยูวีขนาดใหญ่ ที่ขับสนุก มีความคล่องตัวค่อนข้างสูง สามารถมุดซ้าย แซงขวา ได้อย่างคล่องตัว บวกกับกำลังของมอเตอร์ที่รีดกำลังออกมา ทำได้ทันอกทันใจ

ระบบความปลอดภัยที่มีเข้ามาช่วยเตือนผู้ขับขี่ได้ตลอด ทำให้ยิ่งมั่นใจเมื่ออยู่หลังพวงมาลัย

เบ็ดเสร็จเราทดลองขับรถคันนี้ไปราว ๆ 230-240 กิโลเมตร แบตเตอรี่เหลืออยู่ 49% ยังถือว่ารับได้ รถคันนี้รองรับการชาร์จไฟแบบ DC ขนาด 350 kw จาก 10-80% ใช้เวลา 24 วินาที

KIA EV 9

ส่วนการชาร์จแบบ AC ขนาด 11 kw จาก 10-100% ใช้เวลา 9.45 ชั่วโมง

ส่วนระยะทางการวิ่งต่อการชาร์จ 1 ครั้ง เกีย เคลมไว้ที่ 647 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟฟ้าเต็มตาม NEDC

ถือว่าน่าสนใจมาก ๆ โดยเฉพาะผู้ที่สนใจมองหารถเพื่อการใช้งาน รองรับความสะดวกสบายของครอบครัว ตลอดการเดินทาง

หรือจะนำมาใช้เป็นรถผู้บริหาร สุดหรู ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย

ราคาจำหน่าย KIA EV 9 มี 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Earth Long Range มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง ราคา 3.499 ล้านบาท

และรุ่นที่เรานำมาทดสอบ รุ่น GT-Line AWD ราคา 3.899 ล้านบาทKIA EV 9KIA EV 9