คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ สเป็กไทยออปชั่นเต็ม ขายราคา 6.29 ล้าน

ปอร์เช่ ประเทศไทย ส่งรถยนต์ เอสยูวี คูเป้ รุ่นล่าสุด ประกอบเพื่อลูกค้าชาวไทย ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ ใช้ สิทธิอาฟต้าประกอบจากโรงงานมาเลเซีย เคาะราคาขายที่ 6.29 ล้านบาท 

วันที่ 24 กรกฎาคม 2567  นายฮานเนส รูออฟ (Hannes Ruoff) ประธานกรรมการบริหาร ปอร์เช่ เอเชียแปซิฟิก เปิดเผย่วา ปอร์เช่ ได้ตัดสินใจเปิดตัว คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ (Cayenne S E-Hybrid Coupé) รุ่นประกอบในมาเลเซียสำหรับประเทศไทย รวมทั้งตอกย้ำถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของตลาดที่มีความเคลื่อนไหวและไม่หยุดนิ่งสำหรับปอร์เช่ ซึ่งสะท้อนถึงพลังแห่งวิสัยทัศน์ที่มีร่วมกันและความร่วมมือที่แข็งแกร่ง

ด้านนายนายปีเตอร์ โรห์เวอร์ กรรมการผู้จัดการ ปอร์เช่ ประเทศไทย กล่าวว่า ปอร์เช่ ประเทศไทย มีความภาคภูมิใจที่จะประกาศเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ ที่ผลิตขึ้นสำหรับชาวไทย นับเป็นอีกก้าวสำคัญของแบรนด์รถยนต์หรูระดับโลกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รถเอสยูวีสปอร์ตคันนี้กลายเป็นรถรุ่นที่ 2 ที่มาจากสายการผลิตของประเทศมาเลเซีย และเป็นรุ่นแรกที่ประกอบในภูมิภาคเพื่อส่งออกมายังประเทศไทย โดยมอบประสบการณ์อันเหนือระดับในราคาที่น่าสนใจ

“เรามีความยินดีที่จะเปิดตัว คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด   รุ่นประกอบในภูมิภาค สำหรับประเทศไทย รถยนต์รุ่นนี้มาพร้อมอุปกรณ์ที่ผ่านการปรับแต่งตามความต้องการของลูกค้าชาวไทยโดยเฉพาะ และด้วยราคาที่น่าสนใจ เราเชื่อมั่นว่ารุ่นย่อยใหม่นี้จะกลายเป็นรถยนต์ยอดนิยมสำหรับแฟน ๆ ปอร์เช่และลูกค้าในประเทศไทยอย่างแน่นอน”

สำหรับคาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ รุ่นใหม่ที่ผลิตขึ้นสำหรับประเทศไทย โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่ทรงพลังและสปอร์ตยิ่งขึ้น ลูกค้าชาวไทยสามารถเลือกสีตัวถังได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ได้แก่

  • สีขาวเมทาลิก Carrara White
  • สีดำเมทาลิก Chromite Black
  • สีเงินเมทาลิก Dolomite Silver

โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบ HD Matrix LED ดีไซน์ใหม่ เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ด้วยโมดูลความละเอียดสูง 2 ชุด และพิกเซลกว่า 32,000 พิกเซลต่อโคมไฟ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยและความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

ADVERTISMENT

ล้ออัลลอยลาย คาเยนน์ (Cayenne) ขนาด 20 นิ้ว สีเทา Vesuvius Grey ส่วนห้องโดยสาร ยกระดับด้วยฟีเจอร์ เป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งพวงมาลัย GT Sports และ แพ็กเกจ Sport Chrono พร้อมนาฬิกา Porsche Design เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

ระบบเสียงรอบทิศทาง BOSE®, ชุดหน้าปัดดิจิตอลแบบโค้งมนขนาด 12.6 นิ้ว, หน้าจอระบบ Infotainment ขนาด 12.3 นิ้ว ส่วนตำแหน่งคันเกียร์อัตโนมัติได้รับการย้ายไปทางซ้ายของพวงมาลัยบนคอนโซลกลาง  การปรับเปลี่ยนนี้ช่วยเพิ่มพื้นที่สำหรับช่องเก็บของและแผงควบคุมระบบปรับอากาศขนาดใหญ่

ADVERTISMENT

แผงควบคุมระบบปรับอากาศมาพร้อมปุ่มกดขนาดใหญ่ พร้อมสวิตช์ปรับอากาศแบบหมุน และปุ่มปรับระดับเสียงแบบสัมผัส เบาะหนังคุณภาพเยี่ยม เลือกได้ 2 สี คือ สีดำ หรือ สีแดงบอร์โด (Bordeaux Red) พร้อมตราสัญลักษณ์ปอร์เช่บนพนักพิงศีรษะที่เบาะคู่หน้า ระบบควบคุมอุณหภูมิแยก 4 โซน เครื่องฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร

เบาะนั่งไฟฟ้าปรับได้ 14 ทิศทางพร้อมระบบจำตำแหน่งสำหรับเบาะผู้โดยสารด้านหลัง และม่านบังแดดด้านหลังที่เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด มาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ จัดเต็ม ทั้ง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) ระบบช่วยจอด (ParkAssist)  กล้องรอบทิศทาง (Surround View) และรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Apple® CarPlay

ส่วนที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังด้วยระบบเตรียมติดตั้ง Rear Seat Entertainment ที่มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน สามารถติดตั้งหน้าจอสำหรับผู้โดยสารด้านหลังเพิ่มเติมได้อย่างง่ายดาย

คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ (Cayenne S E-Hybrid Coupé) มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบ 3.0 ลิตร ให้กำลัง 353 แรงม้า  แรงกว่าเครื่องยนต์ใน Cayenne E-Hybrid 49 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าใหม่ ทำให้ระบบมีกำลังรวม  519 แรงม้า

ความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 4.7 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดได้ถึง 263 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขณะที่ระยะทางวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าสูงสุด 90 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน EAER City)

ปอร์เช่ ได้ยกระดับ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด คูเป้ ใช้ระบบช่วงล่างลมอัจฉริยะแบบใหม่ ที่มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมระบบกันสะเทือนแบบถุงลม Porsche Active Suspension Management (PASM) เทคโนโลยี Two-Chamber Two-Valve ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ เพิ่มความมั่นคง และง่ายต่อการควบคุมรถยนต์ทั้งบนถนนและทางออฟโรด

ระบบกันสะเทือนแบบถุงลม ยังช่วยเพิ่มความแม่นยำและสมรรถนะของการขับขี่ ลดการโคลงของตัวรถในขณะขับขี่แบบสปอร์ต อีกทั้งยังช่วยให้การปรับโหมดการขับขี่ระหว่าง Normal, Sport และ Sport Plus แตกต่างกันอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

สำหรับ ราคาคาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid) ค่าตัวอยู่ที่  6,290,000 บาท ผู้ที่สนใจสามารถจองรถยนต์รุ่นนี้ผ่านไมโครไซต์ (Microsite) ได้ที่ thcayenne.online