อันตวน บาร์เตส “ลีฟ” GAME CHANGER “นิสสัน”

หลังรับตำแหน่งหัวเรือใหญ่ค่ายนิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) เมื่อช่วงปลายปี 2559 ที่ผ่านมา วันก่อน นายใหญ่ “อันตวน บาร์เตส” ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดห้องแถลงถึงความภาคภูมิใจในความสำเร็จ ที่สามารถขับเคลื่อนให้นิสสันก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุดในประเทศไทย เมื่อปีที่ผ่านมา พร้อมแผนรุกตลาดในอีก 5 ปี ข้างหน้า ภายใต้วิสัยทัศน์ M.O.V.E. 2022 ที่ใช้กันทั่วโลก และเป้าหมายส่วนแบ่งตลาดในระดับ 2 ดิจิตขึ้นแท่นแบรนด์เติบโตสูงสุด

จากพันธกิจหลักที่นิสสันทำมาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา คือ การให้ “ลูกค้า” เป็นศูนย์กลางในการดำเนินธุรกิจของนิสสันนั้น วันนี้ได้สะท้อนความสำเร็จออกมาให้เราเห็นได้อย่างเป็นรูปธรรม คือ นิสสันกลายเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดในปีงบประมาณ 2560 ที่ผ่านมา โดยมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น 1.3% เป็น 5.9% เพิ่มเป็น 6.9% และมียอดการผลิตรถในโรงงาน 134,000 คันเติบโต 15%

และนิสสันยังได้ตั้งเป้าหมายสำหรับแผนงานในระยะเวลาอีก 3 ปี (2020) จากนี้ว่า นิสสันจะต้องเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดขึ้นไปอยู่ที่ตัวเลข 2 หลักให้ได้ หลังจากช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้วางรากฐานอันแข็งแกร่ง และจากนี้เราพร้อมสานต่อแผนงานอย่างต่อเนื่อง

ชู 2 เสาหลักขับเคลื่อนประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความสำคัญของนิสสัน เห็นได้จากแผนงานระยะกลาง (2011-2016) ที่ผ่านมานิสสันมีการลงทุนจำนวนมากในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา หรืออาร์แอนด์ดี, การตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคไว้ในประเทศไทย รวมทั้งการลงทุน เพื่อก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์แห่งที่ 2เพื่อส่งออกไปยัง 46 ประเทศทั่วโลก และมีการส่งออกรถยนต์ไปแล้วในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มากกว่า 8.88 แสนคัน

โดยในเร็ว ๆ นี้จะมีการส่งออกครบ 1 ล้านคันและเพื่อไปสู่เป้าหมายในปี 2020 นั้น นิสสันได้ปักหลักเดินไปสู่ 2 เป้าหมายที่สำคัญ คือ 1.มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกด้าน 2.การเป็นผู้นำเทคโนโลยีในธุรกิจยานยนต์อย่างต่อเนื่อง ภายใต้ดีเอ็นเอความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของนิสสัน เพื่อให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลง

ยึดพิมพ์เขียว M.O.V.E.

และเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง เพื่อตั้งรับกับเป้าหมายการเติบโตในอนาคต นิสสันจะเน้นขับเคลื่อนองค์กรให้ โดยวิสัยทัศน์ของนิสสันใน 5 ปีต่อจากนี้จะสอดคล้องกับแผนงานหลักของนิสสันระดับโลกที่เรียกว่า M.O.V.E. 2022 ที่ให้ความสำคัญกับ 1.Mobility คือ นวัตกรรมยานยนต์แห่งการขับเคลื่อน 2.Operational excellence ความเป็นเลิศในการปฏิบัติงาน 3.Value to customers คือ การเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และ 4.Electrification ระบบพลังงานขับเคลื่อนไฟฟ้า ซึ่งนิสสันจะขับเคลื่อนองค์กรไปตามแผนธุรกิจ M.O.V.E.

ลีฟ คือ GAME CHANGER

เราขอยืนยันอีกครั้งว่า นิสสัน ประเทศไทย จะมีการนำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ นิสสัน ลีฟ ในประเทศไทย ภายในปีงบประมาณ 2561 นี้อย่างแน่นอน (1 เม.ย. 2560-30 มี.ค. 2562)

แม้ว่าวันนี้ตลาดประเทศไทยอาจจะยังไม่มีอะไรที่จับต้องได้ สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นระบบสาธารณูปโภคที่รองรับ ประสบการณ์ การรับรู้ของผู้บริโภค

ขณะนี้นิสสันเองก็พยายามสร้างการรับรู้ให้มากขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถรับรู้และปรับตัว เพื่อเตรียมความพร้อมรับกับรถยนต์ไฟฟ้าได้ และนิสสันเองก็รอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น

และนิสสันเชื่อว่า ลีฟ จะไม่ใช่เพียงแค่รถยนต์อีวีเท่านั้น แต่ยังถือเป็นวิวัฒนาการ หรือตัวแปรอันสำคัญของการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ หรือเป็นสัญลักษณ์ของนิสสัน ลีฟ คือ GAME CHANGER ตัวต่อไป

และนี่ถือเป็นภาพที่นิสสันได้ประกาศ และพร้อมขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายของแผนงาน 3 ปี

จากนี้ คือ การมีส่วนแบ่งทางการตลาดในตัวเลข 2 หลัก ก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์ท็อปทรีที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจ และสามารถทำงานร่วมกันกับมิตซูบิชิ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด