Geely เข็นปิกอัพ EV ท้ารบญี่ปุ่น…แบไต๋เจาะทุกกลุ่มลูกค้า

Geely
คอลัมน์ : สัมภาษณ์

RIDDARA แบรนด์รถกระบะ EV ภายใต้เครือ Geely ยักษ์ใหญ่จากจีน ประกาศพร้อมรบตลาดรถปิกอัพในไทย ที่กำลังอยู่ในภาวะปักหัวลง โดยกาศชัดไม่ลงไปเล่นในเกมสงครามราคา มุ่งนำเสนอความพรีเมี่ยมพร้อมบริการที่ดีให้กับกลุ่มลูกค้า พร้อมส่งมอบลอตแรกช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 หลังจบงาน Motor Expo 2024

ล่าสุด “ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสร่วมเดินทางเพื่อเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่และฐานการผลิตรถปิกอัพ EV ภายใต้แบรนด์ RIDDARA ที่เตรียมแนะนำเข้ามาสู่ประเทศไทย โดย 2 ผู้บริหาร อย่าง “หวัง ต๋าเสวี่ย” กรรมการผู้จัดการฝ่ายการเงิน และ “กั่ว เทียฝู” กรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด จาก Geely Holding Group เปิดโอกาสให้ร่วมพูดคุยถึงทิศทางการการเข้าทำตลาดในไทยและประกาศพร้อมต่อกรกับค่ายญี่ปุ่นที่ถือเป็นเจ้าตลาดมายาวนาน

หวัง ต๋าเสวี่ย Geely
หวัง ต๋าเสวี่ย

ลุยเจาะทุกกลุ่มลูกค้า

สำหรับกลุ่มเป้าหมายของรถกระบะ EV ภายใต้แบรนด์ RIDDARA ที่กลุ่ม Geely วางไว้ คือกลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลาย ทั้งกลุ่มคนที่นิยมการใช้ชีวิตกับกิจกรรมกลางแจ้ง หรือ Outdoor เช่น การออกไปท่องเที่ยวตามแหล่งธรรมชาติ และการตั้งแคมป์ รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้รถเพื่อการพาณิชย์ในการประกอบธุรกิจ เช่น สามารถเอารถกระบะ EV แบรนด์ RIDDARA ไปใช้ในการทำรถฟู้ดทรัก (Food Truck) รถขายอาหาร หรือร้านจำหน่ายสินค้าคลื่อนที่ ที่ทำให้เกิดความคุ้มค่า ซึ่งนับว่าสามารถใช้ได้ทั้งในแง่เป็นรถส่วนบุคคล และการสร้างธุรกิจได้เป็นอย่างดี

มั่นใจตอบโจทย์คนไทยครบ

โดยก่อนหน้านี้ทีมวิจัยและพัฒนาของ RIDDARA ได้เดินทางมาที่ประเทศไทยเพื่อทำการศึกษาและเก็บข้อมูลของพฤติกรรมการใช้รถของคนไทยอย่างละเอียดและต่อเนื่อง จึงมีความเข้าใจปัญหาและความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคคนไทยเป็นอย่างดี จึงมีความมั่นใจว่าจะสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และสร้างบริการที่ตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าในประเทศไทยได้อย่างถ่องแท้

พร้อมลุยตลาดทั่วประเทศ

ผู้บริหารกล่าวต่อว่า การเข้าไปทำธุรกิจในประเทศไทยของแบรนด์ RIDDARA (หรือแบรนด์ RADAR ในประเทศจีน) มีการตั้งบริษัทย่อยนำเข้ารถจากประเทศจีน 100% ทำตลาดผ่านตัวแทนจำหน่าย (Dealer) ซึ่งปัจจุบันมีผู้สนใจเจรจาธุรกิจร่วมเป็นพาร์ตเนอร์หลายราย โดยล่าสุดมีการเซ็นสัญญาแล้ว 8 ราย และคาดว่าจะสามารถเซ็นสัญญาครบ 12 รายภายในสิ้นปี 2567 นี้ โดยเบื้องต้นการเปิดตัวหรือขยายสาขาของตัวแทนจำหน่าย จะเริ่มจากโซนกรุงเทพฯ และปริมณฑลก่อน จากนั้นในปีต่อไปจึงจะมีการขยายไปยังหัวเมืองหลักตามภูมิภาค หรือทั่วทั้งประเทศ

ดีลเลอร์ 1 รายอาจสามารถลงทุนขยายเปิดศูนย์บริการหรือศูนย์จำหน่าย ได้เกินกว่า 1 สาขา ซึ่งขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและศักยภาพของดีลเลอร์รายนั้น ซึ่งในอนาคตอาจเปิดโอกาสให้ดีลเลอร์จำหน่ายรถแบรนด์อื่นๆ ที่อยู่ภายใต้ Geely Holding Group ได้แต่อาจต้องใช้เวลาในการศึกษาความเป็นไปได้และต้องพัฒนาธุรกิจให้สอดคล้องกัน

ADVERTISMENT

เพราะเรามองว่านอกจากการขยายสาขาและสร้างการเติบโตของยอดขายรถแล้ว เรายังต้องให้ความสำคัญกับการทำให้ธุรกิจของตัวแทนจำหน่ายที่เป็นพาร์ตเนอร์เราเกิดความคุ้มค่าในการลงทุน มีการเติบโตที่แข็งแกร่ง มีศักยภาพที่พร้อมจะเติบโตไปกับแบรนด์ได้อย่างยั่งยืน

กั่ว เทียฝู Geely
กั่ว เทียฝู

ยกระดับความพึงพอใจ

ในช่วงแรก RIDDARA ไม่ได้มุ่งเน้นที่การทำจำนวนยอดขายเป็นตัวเลขสูง ๆ แต่จะให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ และมุ่งเน้นด้านการพัฒนาบริการเพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า ซึ่งตามแผนจะทยอยส่งมอบลอตรถแรก 300 คัน ให้กับลูกค้าได้หลังจบงาน Motor Expo 2024 หรือในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 ที่จะถึงนี้

ADVERTISMENT

โปรดักต์คลุมทุกเซ็กเมนต์

สำหรับรถกระบะไฟฟ้า RIDDARA ที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในไทยมีทั้งหมด 3 รุ่น ประกอบด้วย รุ่น RD6 2WD แบตเตอรี่ 63 KWh วิ่งได้ระยะทาง 377 กิโลเมตร/ชาร์จ NEDC รุ่น RD6 2WD แบตเตอรี่ 73 KWh วิ่งได้ระยะทาง 437 กิโลเมตร/ชาร์จ NEDC รุ่น HORIZON 4WD แบตเตอรี่ 73 KWh วิ่งได้ระยะทาง 414 กิโลเมตร/ชาร์จ NEDC โดยมีราคาในรุ่นเริ่มต้นไม่ถึง 7 แสนบาท และรุ่นท็อปสูงสุดไม่เกิน 1.2 ล้านบาท อดใจรอประกาศอย่างเป็นทางการในงาน Motor Expo 2024 หรือช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 ที่จะถึงนี้

เมินสงครามราคา

RIDDARA แบรนด์รถกระบะ EV ภายใต้เครือ Geely เตรียมส่งรถนำเข้าจากจีน บุกตลาดรถปิกอัพในประเทศไทย ประกาศชัดไม่ลงไปเล่นในเกมสงครามราคา มุ่งนำเสนอความพรีเมี่ยมพร้อมบริการที่ดีให้กับกลุ่มลูกค้า พร้อมส่งมอบลอตแรกช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 หลังจบงาน Motor Expo 2024

ปัจจุบันตลาดรถ EV ในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับประเทศจีน จึงเป็นเหตุผลให้แบรนด์รถ EV จากประเทศจีนมีความสนใจที่จะเข้าไปทำตลาดในประเทศไทยมากขึ้น และ Geely Holding Group จึงเล็งเห็นโอกาสในการทำตลาดรถ

โดยการเข้าไปทำตลาดที่ประเทศไทยในครั้งนี้ RIDDARA จะไม่ใช้กลยุทธ์ในการเล่นสงครามราคา หรือใช้กลไกด้านราคาเป็นตัวนำ แต่จะมุ่งเน้นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพที่มากับความพรีเมี่ยม ภายใต้ราคาที่มีความเหมาะสม สร้างความประทับใจให้กับกลุ่มลูกค้า เพื่อให้ RIDDARA สามารถยืนระยะอยู่ในตลาดยานยนต์ประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน