
เรเว่ กรุ๊ป แนะองค์กรธุรกิจ ESG เป็นเรื่องที่หนีไม่พ้น ชี้ต้องกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน เชื่อธุรกิจพลังงานสะอาดมาแน่ มั่นใจรถ EV-BYD มีตลาดอีกเพียบ
วันที่ 22 สิงหาคม 2567 นางสาวประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด กล่าวบนเวที สัมมนา Prachachat ESG Forum 2024 หัวข้อ “Time for Action #พลิกวิกฤต โลกเดือด” ว่าประเทศไทยต้องเผชิญกับสภาวะมลพิษทางอากาศค่อนข้างสูง ส่งผลให้หลายคนประสบทางด้านปัญหาสุขภาพ ทำให้มีความสนใจเรื่องของพลังงานสะอาดมาก่อนหน้าที่จะมีการจัดตั้งบริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด
โดยหลักประเทศไทยจะมีแหล่งของคาร์บอนไดออกไซด์ 2 ส่วนหลัก ๆ คือ การทำฟาร์ม และยานยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ถือเป็นปัจจัยสำคัญมาในการที่ช่วยลดมลพิษทางอากาศและคาร์บอนไดออกไซด์
ประกอบกับมีโอกาสได้พูดคุยกับ BYD จนมีการจัดตั้งบริษัทด้วยจุดเริ่มต้น ต้องการสร้างสรรค์พลังงานสะอาดให้กับประเทศไทย โดยเริ่มจากรถยนต์ไฟฟ้า ที่ผ่านมาบริษัทมีนโยบายเลือกโมเดลรถยนต์ BYD เพื่อทำตลาดโดยจะเป็นรุ่นที่สามารถให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายก่อน
จากนั้นได้มีการแนะนำรถยนต์เพื่อการพาณิชย์และขนส่ง อย่างรถบรรทุก และรถบัสไฟฟ้าออกสู่ตลาด ซึ่งในรถกลุ่มนี้มีการปล่อยคาร์บอนสูงถึง 37% ของรถยนต์ที่วิ่งอยู่บนถนน
โดยตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา เรเว่ พบว่า ผู้บริโภคยังมีความเข้าใจรถ EV โดยเฉพาะปัญหาเเบตเตอรี่ว่าจะมีความทนทานมากน้อยเเเค่ไหน จึงเป็นผลทำให้สถาบันการเงินไม่เเน่ใจ โดยเฉพาะรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ทำให้การทำลีสซิ่งและประกันภัยสำหรับรถ EV มีราคาค่อนข้างสูง บริษัทจึงได้มีการจัดทำ เรเว่ ลีสซิ่ง เพื่อรองรับลูกค้า BYD
“สิ่งที่เราทำมาข้างต้น ถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามจะทำเสนอ สร้างประสบการณ์ด้านพลังงานสะอาดให้กับผู้บริโภคชาวไทย และแน่นอนถ้าว่าถ้าไม่ใช่ BYD เราไม่ทำ”
นางสาวประธานพรยังกล่าวต่อไปว่า การจะจำหน่ายรถยนต์ใหม่ออกสู่ตลาด สิ่งสำคัญที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญนอกจากราคาแล้ว ยังมีเรื่องของความปลอดภัย และ BYD Blade Battery ทำให้ เรเว่ กรุ๊ป ตัดสินใจทำตลาดกับ BYD
นอกจากนี้ เรเว่ กรุ๊ป ยังมองเห็นถึงปัญหาเรื่องของการชาร์จของรถยนต์ไฟฟ้า ที่หลายคนมีคำถาม ซึ่งในส่วนของ BYD สามารถชาร์จได้ 1 ล้านครั้ง ต่อการใช้งาน หรือหากคำนวนได้ รถจะสามารถใช้งานได้ถึง 50 ปี
ประกอบกับระบบซัพพลายเชนที่ BYD มีการบริหารจัดการและการผลิตเองทั้งชิป แบตเตอรี่ ฯลฯ ทำให้ไม่มีปัญหาด้านการผลิต โดยเฉพาะในช่วง สถานการณ์โควิดที่ผ่านมา
“BYD เป็นแบรนด์ที่เราล็อกสเป็กมาตั้งแต่วันแรก และก่อนเปิดตัวบริษัทเราใช้เวลากว่าครึ่งปีในการคุยกับลูกค้า ก่อนที่จะมีการเปิดตัวรถ”
ทั้งนี้ก่อน บริษัทเปิดตัวนั้น พบว่าตลาด EV มีแค่ 0.97% หลายคนยังไม่เข้าถึงรถEV แต่มาวันนี้รถ EV มีส่วนแข่งในตลาดรถยนต์สูงถึง 10% และในอนาคต มั่นใจว่า ตลาดรถ EV จะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ เชื่อว่าหลังปี 2023 อุตสาหกรรมพลังงานสะอาดจะเติบโตค่อนข้างสูงในอนาคต และวันนี้ผู้ประกอบการ เตรียมพร้อมเพื่อรองรับตรงนี้หรือยัง เรเว่ กรุ๊ป มีการจัดตั้งทีมงานเพื่อดูเเลด้านนี้โดยเฉพาะ เพื่อทำงานร่วมกับสถาบันการศึกษา บริษัทแม่ของ BY ในจีน เพื่อหาวิธีการผลิตเพื่อเป็นอุตสาหกรรมการผลิตที่สะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้มากที่สุดด้วย
และสิ่งสำคัญสำหรับผู้ประกอบการหรือองค์กรธุรกิจจะหนี ESG ไม่ได้ สิ่งที่สำคัญคือในแต่ละองค์กรมีผู้เชี่ยวชาญด้านนี้มาเพื่อกำหนดเป้าหมายให้กับองค์กร เพื่อลดการสูญเสียต่าง ๆ
อนาคตความเปลี่ยนแปลงเรื่อง ESG จะเปลี่ยนไปมีการให้ความสำคัญกับ ESG Reporting ทำอย่างไรให้บริษัทมีความพร้อมกับตรงนี้จริง ๆ อีกทั้งผู้บริโภคในปัจจุบันเริ่มให้ความสำคัญกับแหล่งที่มาของสินค้า แหล่งที่มาของวัตถุดิบต่าง ๆ มากขึ้น หากอนาคตองค์กรต่าง ๆ มีผู้เชี่ยวชาญตรงนี้ น่าจะทำให้บรรลุเป้าหมายด้าน ESG ได้ง่ายขึ้น
เรเว่ กรุ๊ป แนะองค์กรธุรกิจ ESG หนีไม่พ้น ควรมีผู้เชี่ยวชาญร่วมกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน ธุรกิจพลังงานสะอาดมาแน่ ส่วนรถ EV อนาคตโอกาสสดใส