พระนครยนตรการเขย่าพอร์ตใหม่ เพิ่มบทบาทรถจีนลดโชว์รูม “มาสด้า-ฮอนด้า”

LEAP

กลุ่มพระนครยนตรการ คัมแบ็กรับบทดิสทริบิวเตอร์ครั้งแรกในรอบ 10 ปี คว้าสิทธิขายอีวีแบรนด์น้องใหม่ LEAP ประเดิมรูปแบบการขายใหม่ให้ดีลเลอร์ขายได้ทุกแบรนด์ในเครือ Stellantis ยึดพื้นที่มอเตอร์เอ็กซ์โปกระตุกยอดปีแรก 1,500 คัน เร่งเขย่าพอร์ตในเครือใหม่ กอดยอดทั้งเครือ 2 หมื่นคัน

นายธวัชชัย จึงสงวนพรสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท พระนครยนตรการ จำกัด (PNA) เปิดเผยถึงแผนธุรกิจของกลุ่มพระนครยนตรการ หลังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นดิสทริบิวเตอร์แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า LEAP (ลีป) ในกลุ่ม Stellantis เป็นบริษัทผู้ผลิตยานยนต์และผู้ให้บริการด้านการคมนาคมชั้นนำระดับโลก ที่มีแบรนด์รถยนต์ในเครือหลากหลายยี่ห้อ

“ตรงนี้ถือเป็นการกลับมารุกธุรกิจยานยนต์ในฐานะดิสทริบิวเตอร์อีกครั้งในรอบทศวรรษ ซึ่งมีอำนาจในการดูแลและทำตลาด รวมถึงการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย”

ธวัชชัย จึงสงวนพรสุข
ธวัชชัย จึงสงวนพรสุข

นายธวัชชัยกล่าวอีกว่า สำหรับปีนี้บริษัทยังได้เขย่าพอร์ตธุรกิจใหม่ ในฐานะดีลเลอร์รถยนต์หลายยี่ห้อ อาทิ อีซูซุ, มาสด้า, ฟอร์ด, ฮอนด้า, เกรท วอลล์ มอเตอร์, วอลโว่, มิตซูบิชิ, โอโมด้า แอนด์ เจคู โดยจะลดบทบาทบางยี่ห้อ อาทิ มาสด้า พร้อมกับเสริมทัพแบรนด์ที่มีศักยภาพ เช่น รถจีน และเพื่อรองรับการเติบโตของกลุ่มพระนครในฐานะดิสทริบิวเตอร์

บริษัทได้ตัดสินใจปิดโชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์ฮอนด้า สาขานิคมอุตสาหกรรมบางชัน เพื่อขยายส่วนของพื้นที่โรงงานบางชัน ปรับปรุงพื้นที่และขยายไลน์ผลิตรถยนต์ รองรับกับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้กับเเบรนด์ NETA เนื่องจากเป็นการเปิดไลน์ผลิตแบบเฉพาะกิจ ซึ่งต้องใช้พื้นที่พอสมควรในระดับ 15,000 คันต่อปีให้ได้

“ปีนี้คาดว่ายอดขายรถยนต์โดยรวมน่าจะลดลง 30% จากปีที่แล้ว จากหลายสาเหตุ ทั้งกำลังอ่อนแอ สถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ ทำให้ยอดขายรวมทั้งปีน่าจะมีแค่ 600,000 คัน โดยในกลุ่ม PNA น่าจะทำได้ไม่น้อยกว่า 20,000 คัน”

ADVERTISMENT

ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้า LEAP นั้น บริษัทจะใช้นโยบายราคาเดียวทั่วประเทศในการทำตลาด พร้อมเสนอจุดขายความเป็น Stellantis ซึ่งมีโกลบอลดีไซน์เหนือกว่ารถจีนทั่ว ๆ ไป โดยจะเริ่มแนะนำรถรุ่น C10 ทำตลาดในประเทศเป็นรุ่นแรก พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปปลายปีนี้

จากนั้นบริษัทมีแผนจะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อย่างน้อยปีละ 1 รุ่น และตั้งเป้าขายไว้ปีละ 1,500 คันต่อปี โดยในช่วงแรกของการทำตลาดได้เตรียมงบประมาณสำหรับการทำตลาดและรีโนเวตโชว์รูมเพื่อทำเป็นแฟลกชิปสโตร์ (Flagship Store) ที่ย่านรัชโยธิน ซึ่งจะใช้เงินลงทุนราว 50 ล้านบาท และมีแผนใช้งบประมาณราว 100-150 ล้านบาทในการสร้างแบรนด์และทำการตลาด รวมงบฯลงทุนปีนี้ไว้ที่ 200 ล้านบาท ส่วนแผนการขยายเครือข่ายการขายและการจัดจำหน่ายอีก 11 แห่ง แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 7 แห่ง และต่างจังหวัด 5 แห่ง โดยจะเป็นครั้งแรกที่ดีลเลอร์ LEAP สามารถรับสิทธิขายรถยนต์ในกลุ่ม Stellantis ได้ด้วย

ADVERTISMENT

“ตรงนี้ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่ทางกลุ่ม Stellantis นำโมเดลนี้เข้ามาใช้ ดีลเลอร์ของเรานอกจากขาย LEAP ยังจะสามารถขอรับสิทธิขายยี่ห้ออื่น ๆ ในเครือได้ด้วย โดยเขาจะต้องไปหารือกับตัวแทนจำหน่ายแบรนด์อื่น ๆ”

นอกจากนี้นายธวัชชัยยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับค่ายรถแบรนด์ใหม่ ๆ เพื่อนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยด้วย และรวมทั้งแบรนด์ในเครือกลุ่ม Stellantis มีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง