เกมใหม่…เปลี่ยนอนาคต “มาสด้า” บิลดิ้ง บล็อก สแตรทิจี

ชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด บรรยายพิเศษ “Game Changer อุตฯยานยนต์ไทย” ในงานสัมมนา “GAME CHANGER เกมใหม่ เปลี่ยนอนาคต” ในวาระครบรอบ 42 ปีหนังสือพิมพ์ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า “Game Changer” ของมาสด้าเริ่มต้นจากสิ่งคิดไม่เหมือนคนอื่น กล้าที่จะแตกต่าง โดยมีแผนพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคตภายใต้แนวคิด “Mazda Building Block Strategy” ซึ่งมี 3 องค์ประกอบที่สำคัญคือ พัฒนาและนำเทคโนโลยีในอนาคตมาใช้ในกรอบเวลาที่เหมาะสม, คำนึงถึงโมเดลทางธุรกิจที่เหมาะสมทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค และ industry transformation การเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยีที่เหมาะสมแบบเป็นขั้นตอนจากเทคโนโลยีปัจจุบันสู่อนาคต

เพิ่มพันธมิตรธุรกิจคิดนอกกรอบ

การปรับเปลี่ยนที่สำคัญของมาสด้า ยังให้ความสำคัญต่อการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจให้มากขึ้น และไม่ทิ้งอุดมการณ์ที่ทำมา ปี 2538 มาสด้าร่วมทุนตั้งบริษัท ออโตอัลลายแอนซ์ จำกัด ด้วยเม็ดเงิน 500 ล้านเหรียญ ผลิตรถยนต์ที่จังหวัดระยอง เริ่มผลิตรถปิกอัพเป็นอันดับแรก และด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพประเทศไทยในปี 2542 มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ถูกก่อตั้งขึ้นปี 2545 มาสด้า

เริ่มสื่อสารกับลูกค้าภายใต้แนวคิด “ซูม ซูม”และกลายเป็นบริษัทรถยนต์ที่มีเอกลักษณ์ทั้งด้านผลิตภัณฑ์ และกลยุทธ์การตลาด แบรนด์มาสด้าเริ่มเป็นที่รู้จักและน่าจดจำมากขึ้น

ปี 2547 มาสด้าเปิดตัวมาสด้า3 ด้วยรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปจากเดิม แนวคิดและการออกแบบที่แตกต่าง ทำให้มาสด้า3 ตัวแรกลูกค้ารอรถกันนานข้ามปี ปี 2552 มาสด้า2 ถูกส่งลงตลาดครั้งแรกในประเทศไทย สถิติยอดจองกว่า 2,000 คันในสัปดาห์แรก และด้วยความพยายามที่จะคิดนอกกรอบ ปี 2556 มาสด้าเริ่มแกะชิ้นส่วนทุกอย่างของรถยนต์ออกมาเพิ่มปรับปรุงพัฒนา ทั้งเครื่องยนต์ ตัวถังแชสซี และเกียร์

ความพยายามครั้งนี้ทำให้เกิดเทคโนโลยี “สกายแอคทีฟ” ซึ่งโดดเด่นทำให้รถมาสด้า ขับสนุก ประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างความฮือฮาอย่างมากต่อวงการรถยนต์ ผสมผสานกับธีมการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ที่เรียกว่า โคโดะดีไซน์ หรือจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหวอันงดงาม ทำให้รถมาสด้ากลายเป็นรถในฝันตรงตามความต้องการของลูกค้าและคนรุ่นใหม่ ๆ

เสริมทัพตั้ง รง.ชิ้นส่วน

ต้นปี 2561 ที่ผ่านมา มาสด้าได้เพิ่มเม็ดเงินลงทุนบริษัท มาสด้า พาวเวอร์เทรน เมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ที่จังหวัดระยอง ผลิตชิ้นส่วนสำคัญของเครื่องยนต์ ที่มีความแม่นยำสูง และผลิตเกียร์อัตโนมัติ ถือเป็นโรงงานแห่งแรกนอกประเทศญี่ปุ่น ทำให้มาสด้ามีฐานการผลิตรถยนต์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ทันสมัยที่สุด รวมถึงได้นำโนว์ฮาวของการผลิตและการวิจัยพัฒนามาอย่างครบถ้วน

ให้ความสำคัญแบรนด์

จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของมาสด้า คือมาสด้าเน้นปรัชญาในการขับขี่ “ฟีลเดอะไดรฟ์” ถูกหยิบมาใช้เพื่อความสนุกสนานเร้าใจ พร้อมทั้งเพิ่มแวลูออฟแบรนด์ ซึ่งเป็นการสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ขับขี่ มีองค์ประกอบหลัก 4 ประการ จาก 1.สกายแอคทีฟ 2.โคโดะดีไซน์ 3.ไอแอคทีฟเซนส์หรือเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย และ 4.เอ็มแซดคอนเน็กต์ ที่จะไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสาร

ชูเครื่องยนต์สันดาปภายใน

มาสด้ากล้าคิดต่างในการพัฒนาเครื่องยนต์ในขณะที่ทุกคนหันไปพัฒนาเทคโนโลยีทางเลือกใหม่ เช่น พลังงานทางเลือก พลังงานรถยนต์ไฟฟ้า ในเชิงทฤษฎีมาสด้ายังมั่นใจว่ายังมีช่องว่างที่จะพัฒนาเครื่องยนต์ไปสู่ความสมบูรณ์แบบได้มากกว่าที่เป็นอยู่ ทั้งระดับไมโครและแมโคร ความร้อน และตัวแปรควบคุมอีกมากมาย

มาสด้ายังให้ความสำคัญต่อสกายแอคทีฟเอนจิ้น ที่เป็นเครื่องยนต์ในอุดมคติ โดยกำลังนำจุดเด่นของเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลมาผสมผสานกัน ให้ออกมาเป็นเครื่องยนต์ตัวใหม่ เรียกว่า “สกายแอคทีฟ เอ็กซ์” ยิ่งผสมผสานกับการออกแบบที่โดดเด่น จะยิ่งทำให้รถมาสด้าเป็นยิ่งกว่างานศิลปะ ถ่ายทอดทั้งอารมณ์ และความรู้สึกรูปทรงของรถที่ดูเคลื่อนไหวแม้ขณะหยุดนิ่งที่ให้ทั้งพละกำลัง เสน่ห์รถมาสด้าที่ขายจริงในตลาด มาจากรถต้นแบบ ทั้งมาสด้า ชินาริ และมาสด้า อาร์เอ็กซ์-วิชั่น

มองลูกค้าเป็นศูนย์กลาง

ความคิดในการทำงานเพื่อให้ได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุดมาสด้าพยายามเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค ทุกการผลิตเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง

การพัฒนาการทำงานที่เชื่อมโยงทั้งระบบ การผลิต จัดส่ง จัดสรร การสั่งซื้อ การบริหารสต๊อกอย่างรวดเร็ว รวมถึงการพัฒนาเครือข่ายเพื่อให้รถยนต์มาสด้าถึงมือลูกค้าอย่างสมบูรณ์แบบ

ทั้งเวลาและคุณภาพ นอกจากนี้การนำเอาเทคโนโลยีอนาคตมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตามกรอบเวลาการทรานส์ฟอร์มของอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากเทคโนโลยีปัจจุบันสู่เทคโนโลยีอนาคต เช่น รถยนต์ไฮบริด ปลั๊ก-อิน ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า มาสด้าก็มีการวางทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยี รวมไปถึงการพัฒนาเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ ก็อยู่ในแผนของมาสด้าทั้งสิ้น

ยึดการเติบโตแบบยั่งยืน

การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างผู้จำหน่ายกับมาสด้าและเป็นหนึ่งเดียวกัน สอดรับกับการใช้คนไทยบังคับบัญชาสูงสุดในทุกฟังก์ชั่นเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ สร้างความเชื่อมั่นไว้วางใจ การปลูกฝังให้ผู้จำหน่ายมีทัศนคติที่ดี และเข้าใจปรัชญาของมาสด้า การสื่อสารระหว่างกันแบบไร้รอยต่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการภายใต้นโยบาย “ซัสเทนเนเบิลซูมซูม 2020” ที่มาสด้าให้คำมั่นสัญญาจะผลิตรถยนต์โดยคำนึงถึงโลกที่สวยงาม เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยังเป็นเป้าหมายหลักที่มาสด้าจะก้าวไปข้างหน้าไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน