ค่ายรถลุ้นลีสซิ่งยืดเวลาตามยึด ยอดปิกอัพวิกฤตรอฟื้นกำลังซื้อ

โตโยต้า

ค่ายรถลุ้นสมาคมเช่าซื้อถกสมาคมแบงก์ 14 ..นี้ ปลดล็อกยืดเวลายึดรถจากค้างจ่าย 3 เดือน เป็น 6 เดือน หวังให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเกษตรกร ได้ต่ออายุประกอบอาชีพ ดึงกำลังซื้อฟื้นคืนประคองตลาดรถปิกอัพที่หดตัวต่อเนื่องมาพักใหญ่รอดพ้นวิกฤต

ตลาดรถยนต์ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากเศรษฐกิจตกต่ำ กำลังซื้ออ่อนแอ ปัญหาหนี้ครัวเรือน และติดกับดักปล่อยสินเชื่อของไฟแนนซ์ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้น จนกระทั้งอัตราการปฏิเสธเงินกู้ซื้อรถพุ่งขึ้นถึง 50% โดยเฉพาะกลุ่มผู้ซื้อรถปิกอัพ

ล่าสุดบนเวทีเสวนาหัวข้อ “เศรษฐกิจไทย โอกาส และความท้าทายในปี 2568” ซึ่งสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ระบุถึงมาตรการเร่งด่วนที่ยื่นเรื่องให้รัฐบาลเเก้ไขปัญหา ทั้งภาระหนี้และหามาตรการชะลอการยึดรถปิกอัพ ซึ่งเป็นรถใช้ทำมาหากินของบรรดาพ่อค้า แม่ค้า และเกษตรกร

สมาคมเช่าซื้อลั่นพร้อมช่วย

แหล่งข่าวผู้ให้บริการธุรกิจเช่าซื้อจากสมาคมเช่าซื้อไทย เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สมาคมธนาคารไทย (TBA) จะหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะมีการพูดคุยกับธนาคารสมาชิกที่ประกอบธุรกิจเช่าซื้อ และจะพูดคุยกับสมาคมเช่าซื้อที่สมาชิกส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (น็อนแบงก์) อีกที เชื่อว่ามาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เช่าซื้อคงมีแนวทางและความชัดเจนมากขึ้น สามารถช่วยเหลือได้แค่ไหน ปัญหาและอุปสรรคมีอะไรบ้าง

ที่ผ่านก็มีการช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้อัตราการยึดรถค่อนข้างน้อย ส่วนหนึ่งเพราะรถมือสองราคาตก ยึดมาขายจะขาดทุน ทำให้การยึดรถจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ไฟแนนซ์จะดำเนินการ การผ่อนปรนจะมีทั้งปรับโครงสร้างหนี้แล้ว 2-3 รอบ ลดค่างวดจาก 10,000 บาท เหลือ 5,000 บาท และเหลือ 3,000 บาท ลดจนถึงค่างวดที่พอจะเหลือดอกเบี้ยพยุงบริษัทบ้าง และยืดเทอมสูงสุดเกิน 8 ปี และหากลูกค้ายังไม่ไหวจริง ๆ ก็จำเป็นต้องยึด

อีกประเด็นคือมาตรการพักหนี้ แต่ต้องทำทั้งระบบ เพราะน็อนแบงก์ส่วนใหญ่ใช้แหล่งเงินทุนมาจากสถาบันการเงิน หากพักหนี้ให้ลูกค้าจะต้องให้สถาบันการเงินพักหนี้ให้กับน็อนแบงก์ด้วย ซึ่งจะทำให้การปรับโครงสร้างและการพักหนี้สมบูรณ์ อย่างไรก็ดี ธุรกิจเช่าซื้อยังไม่ถึงจุดต้องแฮร์คัดหนี้

ADVERTISMENT

ห่วง Moral Hazard

นายชัชฤทธิ์ ตั้งเถกิงเกียรติ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้า Automotive Lending Product and Transformation ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือ ทีทีบี เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด แต่มาตรการบางอย่างหากช่วยมากจนเกินไป อาจจะกลายเป็นการสร้างวัฒนธรรมจงใจผิดนัดชำระหนี้ (Moral Hazard) ต้องป้องกัน

“หากดูการช่วยเหลือวิธีการดังกล่าวในช่วงโควิด-19 พบว่าไม่ได้ประสบความสำเร็จมาก เพราะลูกหนี้ไม่หายป่วย เป็นเพียงการให้ยาชา แต่อาการยังเหมือนเดิม ต้องหาจุดสมดุล เช่น เคยผ่อน 10,000 บาท แต่สามารถผ่อนไหว 5,000 บาท ธนาคารเสนอความช่วยเหลือผ่านโปรแกรมปรับโครงสร้างหนี้ โดยคำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า”

ADVERTISMENT

“ภาครัฐมีอะไรให้ช่วยเราพร้อมช่วย และที่ผ่านมาเราช่วยลูกค้าเต็มที่ แต่ทุกครั้งของการช่วยเรามีต้นทุนเยอะ โดยเราคงดูค่างวดที่เหมาะสมที่สุดที่ลูกค้าไหว แต่การพักหนี้เลยอาจจะผิดหลักการ ซึ่งตอนนี้ยอมรับว่ารถกระบะมีหนี้เสียสูงกว่ารถเก๋งพอสมควร”

ค่ายรถลุ้นสุดตัว

แหล่งข่าวระดับบริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่าขณะนี้ค่ายรถรอดูรายละเอียดจากการประชุมระหว่างภาครัฐและสมาคมธนาคารก่อน เพื่อศึกษาหาแนวทางต่อไป เชื่อว่าน่าจะออกมาดี เพราะถ้ายืดเวลายึดรถจาก 3 เดือนเป็น 6 เดือน ก็สามารถแบ่งเบาภาระลูกหนี้ได้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้กลุ่มเอสเอ็มอี พ่อค้า แม่ค้า และเกษตรกรสามารถดำเนินกิจการได้ต่อไป เมื่อถึงเวลาเศรษฐกิจดีกำลังซื้อก็จะกลับมาเข้มแข็งขึ้น ส่งผลดีต่อการขายรถในอนาคตแน่นอน

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ยอมรับว่าตลาดรถยนต์ของไทยในช่วง 9-10 เดือนที่ผ่านมา ว่ายังคงได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวม และการไม่อนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินต่าง ๆ ทำให้ยอดขายรถยนต์โดยรวมอาจจะต่ำกว่าเดิมมาก

“ปัญหานี้กระทบมาตั้งแต่ต้นปี แม้ก่อนหน้านี้คาดการณ์ว่ารถยนต์ไฟฟ้า 100% จะเข้ามาเพิ่มยอดขายในตลาด แต่สัดส่วน EV ยังคงที่ที่ 13-14% ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว เราก็หวังจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายของรัฐบาล และการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่จากผู้ประกอบการหลายค่าย ซึ่งจะช่วยสร้างสีสันและความคึกคักให้กับตลาด”

ไม่ต่างจากนายวิชัย สินอนันต์พัฒน์ กรรมการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีที่รัฐบาลตระหนักถึงปัญหาของผู้ใช้รถปิกอัพ ซึ่งเป็นรถที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ เพราะเป็นรถที่ผู้คนทั่วไปใช้ในการทำมาหากิน

อย่างไรก็ตามอยากให้รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นการซื้อรถปิกอัพให้มากยิ่งขึ้นเนื่องจากรถปิกอัพเป็น product champion ของไทย ซึ่งจะก่อให้เกิดผลดี
ทั้งในแง่เศรษฐกิจและอุตสาหกรรม เพราะมีอุตสาหกรรมต่อเนื่องในประเทศมากมายในการผลิตรถปิกอัพ

ขณะที่นายรัฐการ จูตะเสน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวถือเป็นเรื่องดี เหมือนต่อลมหายใจให้กลุ่มผู้ใช้รถปิกอัพ แต่ทั้งนี้ต้องไม่ใช่ว่าหนี้เสียแล้วไม่ใช้หนี้ สิ่งที่ป้องกันคือไม่เพิ่มหนี้เสียในอนาคต

นายรัฐการยอมรับว่าตลาดรถยนต์ปีนี้น่ากังวลมาก ยอดขายรวมน่าจะไม่เกิน 570,000 คัน หรือลดลงประมาณ 26% มาตรการดังกล่าวแม้จะยังไม่ได้แก้ยอดขายรถยนต์โดยตรง หรือสร้างดีมานด์ซื้อในตลาดให้เพิ่มขึ้น แต่ถือเป็นมาตรการที่ดีในการช่วยลดหนี้เสียและสร้างอาชีพได้ต่อไป