“เวิร์นส์”ปรับใหญ่สู่อิมพอร์ตเตอร์ จ้องคว้าแบรนด์ “Polestar” อีวีสวีเดนเสริมทัพ

LOTUS

เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ ย้ำชัดเดินตามโรดแมปจากดีลเลอร์สู่ดิสทริบิวเตอร์เต็มตัว   ปิดโชว์รูม วอลโว่ หัวหมาก เรียกคืนพื้นที่ 6,000 ตร.ม. เตรียมเทงบฯ 300 ล้านบาท รีโนเวตผุด “โลตัส ดิสทริบิวชั่น เซ็นเตอร์” แบบฟูลสเกล แย้มมองหาโอกาสใหม่ต่อเนื่อง ล่าสุดจ้องคว้าแบรนด์ “Polestar” เสริมทัพ

นายธีรพงศ์ รอดลอย ผู้จัดการส่วนภูมิภาค เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ ประเทศไทย หรือบริษัท แปซิฟิค ไทย มอเตอร์ สปอร์ตส์ จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงความสำเร็จหลังจากบริษัทตัดสินใจเป็นผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายสปอร์ตคาร์สัญชาติอังกฤษ อย่างแบรนด์ โลตัส (Lotus) ไฮเปอร์คาร์ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เป็นระยะเวลาถึง 3 ปี ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยโลตัส ประเทศไทย สามารถก้าวขึ้นเป็นตลาดหลักที่บริษัทแม่ให้ความสำเร็จ

“เห็นได้จากยอดในปี 2567 นี้ มียอดขายสะสมกว่า 200 คัน และขณะนี้มียอดส่งมอบให้กับลูกค้าไปแล้ว 200 คัน ส่งผลให้ไทยขึ้นเป็นผู้นำอันดับต้นของภูมิภาคเอเชีย และเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของภูมิภาคอาเซียน”

ปัจจุบันรถยนต์โลตัสในประเทศไทยมีจำนวนประชากรรถสะสม ตลอดช่วงระยะเวลา 15 ปีราว ๆ 300 กว่าคัน ช่วงนำเข้ามาทำตลาดประเทศไทยของผู้นำเข้าเดิมจำนวน 90 คัน และหลังจาก เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ เข้ามาทำตลาดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มียอดกว่า 200 คัน ถือเป็นปริมาณที่ค่อนข้างสูง ประกอบกับบริษัทมีนโยบายชัดเจนตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ว่าต้องการผันตัวเองจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ มาสู่การเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย หรืออิมพอร์ตเตอร์เต็มตัว ซึ่งเป็นแผนงานที่บริษัทได้ทยอยทำมาอย่างต่อเนื่อง

จากก่อนหน้านี้เป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์หลากหลายยี่ห้อในประเทศไทย แต่เนื่องจากภาพรวมของธุรกิจและสภาพตลาด ทำให้บริษัทตัดสินใจเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจลง จากเป็นดีลเลอร์รถยนต์วอลโว่ สาขาหัวหมาก ซึ่งเป็นสาขาสุดท้ายในฐานะของการเป็นดีลเลอร์รถยนต์จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธ.ค. 2567 นี้

“เราเตรียมแผนงานมาค่อนข้างยาวนาน เหมือนผมได้เคยคุยกับ ‘ประชาชาติธุรกิจ’ ก่อนหน้านี้ ก่อนที่เราจะได้แบรนด์โลตัสมาทำตลาดนั้น เราตั้งใจจะผันตัวเองจากดีลเลอร์ไปเป็นอิมพอร์ตเตอร์อย่างเต็มตัว และจากนี้ไป เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ เราจะเดินหน้าทำตลาดและสร้างแบรนด์โลตัสอย่างต่อเนื่องก่อน ส่วนอนาคตก็มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการทำแบรนด์ใหม่ ๆ เข้ามาทำตลาด แต่วันนี้ยังไม่มีความชัดเจน”

ADVERTISMENT

นายธีรพงศ์ยังกล่าวต่อไปว่า หลังจากตัดสินใจยุติบทบาทการเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์วอลโว่ (สาขาหัวหมาก) แล้ว บริษัทจะเดินหน้าพัฒนาพื้นที่โชว์รูมและศูนย์บริการที่มีพื้นที่ราว ๆ 6,000 ตารางเมตร ให้เป็นโชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์โลตัสอย่างเต็มรูปแบบดิสทริบิวชั่น เซ็นเตอร์ แบบฟูลสเกล จากเดิมใช้พื้นที่เพียง 1,500 ตารางเมตรสำหรับแบรนด์วอลโว่

โดยบริษัทได้เตรียมงบประมาณในการลงทุนเพื่อพัฒนาและปรับปรุงโชว์รูมโลตัสแห่งนี้ไว้ไม่น้อยกว่า 200-300 ล้านบาท ซึ่งรวมถึงการสต๊อก การตรวจสอบ PDI รถด้วย ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการปรับปรุงให้แล้วเสร็จได้ภายในปี 2568 ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างรอ CI จากทางโลตัส ซึ่งอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ CI ที่ 3 ซึ่งโชว์รูมหัวหมากจะใช้ CI ตัวใหม่ล่าสุด

ADVERTISMENT

“วันนี้ไทยถือเป็นประเทศโอกาสในการทำตลาดของแบรนด์โลตัส อย่างล่าสุดเราได้รถยนต์ Lotus Chapman Bespoke รถอีวีมาเปิดตัวในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ซึ่งเรารู้สึกภาคภูมิใจอย่างมากที่ได้เปิดตัว
รถรุ่นนี้เป็นประเทศที่ 2 ของโลกและเป็นครั้งแรกในเอเชีย-แปซิฟิกด้วย”

สำหรับการปรับปรุงโชว์รูมครั้งนี้ บริษัทต้องการเสริมสร้างภาพลักษณ์และแสดงถึงความมุ่งมั่นของเวิร์นส์ ออโตโมทีฟ ในฐานะอิมพอร์ตเตอร์ที่มีความจริงจังกับแบรนด์โลตัสในประเทศไทย อีกทั้งนโยบายของบริษัทเรามีความชัดเจนว่า อะไรที่สามารถทำกำไรได้เราพร้อมเดินหน้าต่อ หากอะไรที่ไม่เวิร์กเราก็พร้อมจะขยับออก

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” ถามต่อว่า ที่มีข่าวว่าเวิร์นส์ ออโตโมทีฟ ถือเป็นหนึ่งในแคนดิเดตที่จะได้รับสิทธิแต่งตั้งให้เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถ EV แบรนด์หรูจากสวีเดนอีกแบรนด์อย่าง Polestar นั้นคืบหน้าถึงไหน นายธีรพงศ์กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียด หรือให้ข้อมูลต่าง ๆ ได้

อย่างไรก็ตาม เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ มีโรดแมปอย่างชัดเจนว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมา บริษัทมุ่งมั่นกับการเป็น ดิสทริบิวเตอร์อย่างเต็มตัว และมองหาโอกาสการทำธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และการปิดโชว์รูมวอลโว่ครั้งนี้เพื่อเปิดเป็นโชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์โลตัส เพื่อแสดงความมุ่งมั่นอย่างชัดเจนในการดำเนินธุรกิจ

ส่วนเป้าหมายยอดขายในปีนี้ เดิมบริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 200 คัน แต่เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ทำให้บริษัทตัดสินใจปรับเป้าหมายลงมาเหลือกว่า 100 คัน และสัดส่วนการขาย 95% เป็นรถยนต์ไฟฟ้า ปัจจุบันมีรถ 3 รุ่นหลัก ๆ ในการทำตลาด ได้แก่ Emira, Eletre, Emeya

ส่วนปีหน้ายังไม่มีรถใหม่เข้ามาทำตลาด ก็คาดว่าจะมียอดขายอยู่ที่ 100 คัน และในปี 2569 ซึ่งมีรถรุ่นใหม่ ๆ เข้ามาเสริมทัพน่าจะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น ส่วนโชว์รูมปัจจุบันมี 2 แห่ง คือสาขาหัวหมาก (อยู่บริเวณชั้นสอง ของโชว์รูมวอลโว่) และสาขาเอ็มสเฟียร์