มิตซูฯลุยปลั๊กอินไฮบริด-อีวี ร่วมมือนิสสันคืบ-ปลื้มผลิตรถครบ5ล้าน

มิตซูบิชิ ยันพร้อมเดินหน้าปลั๊ก-อินไฮบริดและอีวี มั่นใจคนรุ่นใหม่ตอบรับเทรนด์รักษ์โลก ระบุความร่วมมือระหว่างนิสสันกว้างขึ้นทั้งโลจิสติกส์ใช้ชิ้นส่วนอะไหล่ ฉลองใหญ่ผลิตรถในประเทศครบ 5 ล้านคัน

นายโอซามุ มาสุโกะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุนของไทย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เปิดเผยว่า มิตซูบิชิตอบรับแผนการลงทุนผลิตรถยนต์ปลั๊ก-อินไฮบริด และรถยนต์อีวีกับรัฐบาลไทย คาดว่าน่าจะเรียบร้อยเร็ว ๆ นี้ เพื่อรองรับเทรนด์ใหม่ที่เกิดขึ้น โดยพร้อมจะผลิตรถยนต์ทั้งสองประเภทขายในประเทศไทยและส่งออก โดยจะเริ่มจากรถยนต์ในกลุ่มปลั๊ก-อิน ไฮบริดก่อน

“ต้องยอมรับว่า รถอีวีไปได้เร็วมากในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว เนื่องจากต้องมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ รวมทั้งการพัฒนาชิ้นส่วนเพื่อรองรับการผลิต”

นายมาสุโกะกล่าวอีกว่า มิตซูบิชิมีรถอีวีอย่างไอมีฟมาตั้งแต่ปี 2009 เป็นรายแรกของโลก ซึ่งตอนนั้นค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ไม่มีใครคาดคิดว่ารถอีวีจะได้รับความสนใจในอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่วันนี้เป็นเทรนด์ที่ทั้งยุโรปและจีนให้ความสนใจและตื่นตัวกันมาก โดยเฉพาะเรื่องสิ่งเเวดล้อม การควบคุมคาร์บอนไดออกไซด์ ตอนนี้ทุกคนต่างมอง

ไปที่รถอีวีและปลั๊ก-อิน ไฮบริด มิตซูบิชิกำลังสำรวจทั้งในประเทศ ทั้งไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม และมิตซูบิชิเชื่อว่าต้นทุนของแบตเตอรี่รถอีวีเกิดขึ้นได้จริง และน่าจะเกิดได้เร็วขึ้นด้วยสำหรับประเทศไทย

นอกจากนี้มิตซูบิชิยังมีเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมิติและ เทคโนโลยีคอนเน็กเต็ด ทำให้เชื่อว่ารถยนต์ในอนาคตจะมีความยากกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ในปัจจุบัน แต่จะช้าหรือเร็วนั้น ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละประเทศ

“เราอยู่ในประเทศไทยมากว่า 60 ปี เราค่อนข้างพอใจกับธุรกิจของประเทศไทยในปัจจุบัน ปัจจุบันโรงงานมิตซูบิชิประเทศไทยผลิตรถยนต์ 4 รุ่น และอนาคตใน 2-3 ปี จะมีรถยนต์รุ่นใหม่ที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน จะผลิตในไทยเพื่อรองรับตลาดในประเทศและส่งออกเพิ่มอีก”

ส่วนความร่วมมือกับนิสสัน ตอนนี้ในด้านโลจิสติกส์ การจัดจำหน่าย และการจัดซื้อดำเนินการไปแล้ว อนาคตคาดว่าจะมีความร่วมมือในการใช้ชิ้นส่วนร่วมกัน นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือในเชิงพัฒนาเทคโนโลยีด้วย

นายโมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้บันทึกอีกหนึ่งความสำเร็จครั้งสำคัญในประเทศไทย ด้วยการผลิตรถยนต์ครบ 5 ล้านคัน ที่ศูนย์การผลิตในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ที่นับเป็นศูนย์การผลิตนอกประเทศญี่ปุ่น ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของกุล่ม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ด้วยกำลังการผลิต 424,000 คันต่อปี และส่งออกไปยัง 120 ประเทศทั่วโลก โดยศูนย์การผลิตฯ แห่งนี้ มีบทบาทสำคัญต่อการสร้างความแข็งแกร่งในการเติบโตทางธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทั่วโลก