“กลุ่มสยามกลการ” แตกธุรกิจ ลุย‘คอมมิวนิตี้มอลล์-ปล่อยเช่าโชว์รูม’

เกริก เกียรติเฟื่องฟู
เกริก เกียรติเฟื่องฟู

กลุ่มสยามกลการ แย้มมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ต่อเนื่อง เล็งใช้ประโยชน์จากโชว์รูมที่หมดสัญญา “ปล่อยเช่า” ย้ำยังเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งกับนิสสัน หลังปรับกลยุทธ์เพิ่มความแข็งแกร่งด้านงานขาย-บริการหลังการขายของโชว์รูม “สยามนิสสัน” ทั้ง 7 สาขา ลั่นทวงคืนบังลังก์ยอดขายสูงสุดดีลเลอร์เบอร์หนึ่ง ขอมาร์เก็ตแชร์ 12-15% ของยอดขายนิสสัน

นายเกริก เกียรติเฟื่องฟู กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามนิสสันเซลส์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์นิสสัน รายใหญ่ (ดีลเลอร์) และบริษัท สยามนิสสัน บอดี้ จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงแผนดำเนินธุรกิจว่า ต้องเร่งปรับตัวอย่างเร่งด่วนเพื่อผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้ โดยก่อนหน้านี้บริษัทได้ปรับโครงสร้างธุรกิจ และการบริหารงานภายในองค์กรมาอย่างต่อเนื่อง

“ปัญหาใหญ่ตอนนี้คือ อุตสาหกรรมยานยนต์เผชิญกับภาวะหด กำลังซื้อหดหายเนื่องจากผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวม และความเข้มงวดของสถาบันการเงิน ปัญหาหนี้ครัวเรือน อีกทั้งการแข่งขันระหว่างค่ายรถยนต์แบรนด์ต่าง ๆ ยังคงรุนแรงรวมถึงการเข้ามาของรถยนต์จากจีน

นายเกริกกล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะทำตลาดรถยนต์นิสสัน และดูแลลูกค้าที่มีอยู่กว่า 50,000 ราย จากโชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์นิสสัน ที่มีทั้งสิ้น 7 สาขาที่กระจายอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ ได้แก่ สาขาวิภาวดี, ลาดพร้าว 101, ประเวศ, หนองแขม, สุขุมวิท 101 (ปุณณวิถี), ถนนเพชรบุรี และรามคำแหง

ทั้งนี้ บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่ปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจในฐานผู้แทนจำหน่ายรถยนต์นิสสันให้ดีที่สุด และตั้งเป้าจะรักษาความเป็นผู้นำ ทั้งด้านงานขาย และบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง

ที่ผ่านมาบริษัทได้มีการลงทุนเพื่อปรับปรุงและเพิ่มคุณภาพของงานบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง การลงทุนในส่วนของการพัฒนาบุคลากร ทีมช่าง เครื่องไม้เครื่องมือ รวมทั้งส่วนของการรับรองลูกค้าที่นำรถยนต์เข้ามาใช้บริการหลังการขายให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด

ADVERTISMENT

นายเกริกยังกล่าวอีกว่า สยามนิสสันเซลส์มีโชว์รูมและศูนย์บริการนิสสันทั้งสิ้น 14 แห่ง และได้มีการปล่อยสิทธิ์การขายและให้เช่าพื้นที่โชว์รูมบางสาขาออกไป เหลือโชว์รูมและศูนย์บริการอยู่เพียง 5 แห่งที่ยังดำเนินการอยู่ และเพิ่มได้โชว์รูมนิสสัน สาขาหนองแขม และรามคำแหง กลับคืนมาเนื่องจากหมดสัญญา ทำให้ปัจจุบันมี 7 สาขา

ส่วนอนาคตคาดว่า โชว์รูมที่เหลืออีกเมื่อหมดสัญญาอาจจะมีการคืนพื้นที่ บริษัทมีแนวคิดที่จะปรับปรุง พัฒนาพื้นที่โชว์รูมต่าง ๆ เพื่อเป็นโชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์ต่อเนื่อง หรืออาจจะมีการเริ่มธุรกิจอื่น ๆ เข้าไป ด้วยการจัดทำเป็นคอมมิวนิตี้มอลล์เล็ก ๆ และดึงแบรนด์พันธมิตรต่าง ๆ ที่เป็นแม็กเนตมารวมอยู่ในพื้นที่ของโชว์รูมและศูนย์บริการ เพื่อให้สามารถดูแลลูกค้านิสสันในพื้นที่ต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ ได้อย่างทั่วถึงและแข็งแกร่งเพิ่ม

ADVERTISMENT

นอกจากนี้ บริษัทยังมองหาโอกาสทางธุรกิจเพิ่มเติม เข้ามาเติมเต็มและขับเคลื่อนองค์กรให้สามารถแข่งขันไปได้อย่างแข็งแกร่ง อย่างปีที่ผ่านมาได้ขยายในส่วนของงานจำหน่ายอะไหล่ให้เพิ่มมากขึ้น ทั้งในส่วนของโชว์รูมและร้านค้า เพื่อเป็นการต่อยอดจากธุรกิจปัจจุบันที่ทำอยู่ เนื่องจากในกลุ่มสยามกลการนั้นยังมีส่วนของธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ด้วย และบริษัทมีรายได้จากธุรกิจอะไหล่สูงถึง 100 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นการจำหน่ายอะไหล่ผ่านโชว์รูม 40 ล้านบาท และจำหน่ายผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอีก 70 ล้านบาท

และอนาคตคาดว่าจะทำให้การจำหน่ายอะไหล่ผ่านศูนย์บริการสัดส่วนรายได้ของอะไหล่อยู่ที่ 50/50

ขณะที่รายได้รวมของบริษัทปีนี้คาดว่าจะมีรายได้รวม 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการจำหน่ายรถยนต์ 1,300 ล้านบาท และรายได้จากศูนย์บริการหลังการขายอีก 700 ล้านบาท โดยปีนี้สยามนิสสันเซลส์จะมียอดขายรถยนต์นิสสัน ไม่น้อยกว่า 1,080 คัน เป็นผู้แทนจำหน่ายที่มียอดขายสูงสุดอันดับหนึ่ง ด้วยส่วนแบ่ง 5% ของยอดขายนิสสันทั้งปี

ส่วนอนาคตบริษัทตั้งเป้าจะครองส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์นิสสันสูงสุดเอาไว้อย่างต่อเนื่อง และจะพยายามเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดให้เพิ่มเป็น 12-15% ให้ได้ และเชื่อว่า รถยนต์รุ่นที่จะช่วยขับเคลื่อนให้ นิสสัน สามารถกลับมามียอดขายเพิ่มขึ้นนั้น จะมาจาก นิสสัน เซเรน่า รวมทั้งรถต่าง ๆ ที่อยู่ในแผนงานของนิสสัน โดยเฉพาะรถในกลุ่มอี-พาวเวอร์ ที่จะมาช่วยสร้างยอดขายให้กับนิสสันจากนี้

“เราตั้งเป้าไว้ว่าเราจะดึงลูกค้าสยามนิสสันเซลส์เก่าที่กลับมาซื้อซ้ำจากก่อนหน้านี้ มีราว ๆ 5% ขยับขึ้นมาเป็น 7% ในปัจจุบัน และจะเพิ่มเป็น 10% และไม่ว่านิสสันจะมียอดขายรถยนต์อยู่ที่เท่าไร สยามนิสสันเซลส์จะต้องมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 12-15% ให้ได้ นั้นหมายความว่าเราจะรักษาเบอร์หนึ่งในฐานะดีลเลอร์ที่มียอดขายสูงสุดไว้ได้ แม้ว่าตลาดหลักของเราจะอยู่แค่ในพื้นที่กรุงเทพฯเท่านั้น”

และส่วนหนึ่งลูกค้าให้ความวางใจเรา และไม่สามาถปฏิเสธได้คือเราเป็นบริษัทในเครือของกลุ่มสยามกลการ ซึ่งใช่แค่ดีลเลอร์เท่านั้น แต่เราคือ พาร์ตเนอร์ของนิสสัน