รถยนต์

มาสด้า 2 ไมเนอร์เชนจ์ เติมเต็มเก๋งเล็กทรงสปอร์ต

ต้องบอกว่าเป็นค่ายรถยนต์ดาวรุ่งพุ่งแรงโดยแท้ แม้ว่าที่ผ่านมายอดขายจะห่างไกลผู้นำตลาด แต่หลังจากงัดทีเด็ดเทคโนโลยีสกายแอ๊กทีฟและการออกแบบรูปร่างหน้าตารถได้โดนใจลูกค้าคนไทย ทำให้ค่ายมาสด้าไต่อันดับขึ้นมาอยู่ในท็อปไฟว์ตลาดรถยนต์เมืองไทยได้อย่างเหลือเชื่อ

โดยกวาดยอดจำหน่ายช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ไปทั้งสิ้น 21,005 คัน คิดเป็นอัตราการเติบโตขึ้นถึง 33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ขณะที่ยอดขายเดือนเมษายนพุ่งขึ้นอีก 5% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว

สำหรับรถยนต์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดของมาสด้า คือ มาสด้า 2 (Mazda 2) มียอดจำหน่ายสะสมช่วง 4 เดือนแรกทั้งสิ้น 13,081 คัน เติบโต 42%

สาเหตุที่มาสด้า 2 ประสบความสำเร็จ เพราะทั้งการออกแบบรูปร่างหน้าตา และสมรรถนะเครื่องยนต์ โดยเฉพาะจุดเด่นเรื่องการยึดเกาะถนน

ล่าสุดได้ออกรุ่น ไมเนอร์เชนจ์ รถมาสด้า 2 รุ่นปี 2018 ใหม่ ทั้งเครื่องยนต์ 1.3 เบนซิน และเครื่องยนต์ 1.5 คลีนดีเซล มีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มขึ้นจากรุ่นปี 2017 ไล่ไปตั้งแต่รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน สกายแอ๊กทีฟ-จี (SKYACTIV-G) Mazda 2 1.3 สแตนดาร์ด (Standard) แบบ 4 ประตู และ 1.3 สปอร์ต สแตนดาร์ด แบบ 5 ประตู ไม่มีการปรับเพิ่มรายการอุปกรณ์มาตรฐาน

Mazda 2 1.3 High (แบบ 4 ประตู) และ 1.3 Sports High (แบบ 5 ประตู) 1.เพิ่มระบบ MZD CONNECT 2.เพิ่มระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ 3.เพิ่มที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบอัตโนมัติ

Mazda 2 1.3 High Connect (แบบ 4 ประตู) และ 1.3 Sports High Connect (แบบ 5 ประตู) 1.เพิ่มไฟหน้าแบบ LED โปรเจ็กเตอร์ พร้อมเดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลต์ 2.เพิ่มระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ 3.เพิ่มที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบอัตโนมัติ 4.เพิ่มระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control)

Mazda 2 1.3 High Plus แบบ 4 ประตู และ 1.3 Sports High Plus แบบ 5 ประตู 1.เพิ่มระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advance Blind Spot Monitoring, ABSM) 2.เพิ่มระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert, RCTA) 3.เพิ่มระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ 4.เพิ่มที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบอัตโนมัติ 5.เพิ่มระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control)

เครื่องยนต์คลีนดีเซล สกายแอ๊กทีฟ-ดี (SKYACTIV-D) Mazda 2 1.5 XD แบบ 4 ประตู และ 1.5 Sports XD แบบ 5 ประตู 1.เพิ่มระบบกุญแจรีโมตอัจฉริยะ (Smart Keyless Entry) 2.เพิ่มระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 3.เพิ่มระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ 4.เพิ่มที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบอัตโนมัติ

Mazda 2 1.5 XD High Connect แบบ 4 ประตู และ 1.5 Sports XD High Connect แบบ 5 ประตู 1.เพิ่มหน้าจอ แอ๊กทีฟ ไดรฟ์วิ่ง ดิสเพลย์ (Active Driving Display) แสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี 2.เพิ่มระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ 3.เพิ่มที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบอัตโนมัติ 4.เพิ่มระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control)

Mazda 2 1.5 XD High Plus L แบบ 4 ประตู และ 1.5 Sports XD High Plus L แบบ 5 ประตู 1.เพิ่มระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ 2.เพิ่มที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบอัตโนมัติ

นอกจากนี้ยังยกระดับภาพลักษณ์ความสปอร์ตพรีเมียมให้กับรถ มาสด้า 2 รุ่นปี 2018 สีภายนอกใหม่คือ สีแดงโซลเรดคริสตัล ใหม่ ทดแทนสีแดงโซลเรด ในปัจจุบัน เป็นสีเดียวกันกับสีตัวถังของ CX-5 รุ่นใหม่ปี 2017

สีแดงโซลเรดคริสตัล ใหม่ สีเกรดพรีเมียมใหม่ล่าสุดเฉพาะมาสด้า เนื้อสีหนา 3 ชั้น พ่นด้วยเทคโนโลยีล่าสุด ทำให้ได้เนื้อสีที่มีความละเอียดสูงสีสด มีความวาว สะท้อนแสงได้ดี และดูมีมิติยิ่งขึ้น

สีภายนอกของมาสด้า 2 รุ่นปี 2018 (MY2018) ทั้งแบบ 4 และแบบ 5 ประตูมีให้เลือกทั้งสิ้น 7 สีดังต่อไปนี้

 

1.สีแดง โซลเรด คริสตัล (SOUL RED CRYSRTAL) 2.สีขาว สโนว์เฟลก ไวต์ เพิร์ล (SNOWFLAKE WHITE PEARL) 3.สีน้ำตาล ไทเทเนียม แฟลช (TITANIUM FLASH) 4.สีเงิน อะลูมินัม เมทัลลิก (ALUMINUM METALLIC) 5.สีดำ เจ็ตแบล๊ก (JETBLACK) 6.สีเทา เมทิเออร์ เกรย์ (METEOR GRAY) 7.สีน้ำเงิน อีเทอร์นอล บลู (ETERNAL BLUE)

สำหรับเรื่องราคารถยนต์นั้น ทุกรุ่นราคาเท่าเดิม ไม่มีการปรับขึ้น ยังคงราคาไว้เท่ารุ่นปี 2017 เครื่องยนต์เบนซิน สปอร์ต แอนด์ ซีดาน 1.3 สแตนดาร์ด ราคา 530,000 บาท 1.3 High ราคา 590,000 บาท 1.3 High Connect ราคา 620,000 บาท 1.3 High Plus ราคา 670,000 บาท

เครื่องยนต์คลีนดีเซล สปอร์ต แอนด์ ซีดาน 1.5 XD ราคา 680,000 บาท 1.5 XD ไฮ คอนเนคต์ ราคา 750,000 บาท 1.5 XD High Plus L ราคา 789,000 บาท

ในส่วนของสีพิเศษ จะมีอยู่ 2 สีที่มีราคาค่าสีเพิ่มเติมจากราคารถ นั่นคือ สีแดงโซลเรด คริสตัล ใหม่ เพิ่ม 12,000 บาท และสีขาวมุก สโนว์เฟลก ไวต์ เพิร์ล สีขาวมุก เพิ่ม 7,000 บาท

เป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ชอบรถเก๋งสปอร์ตกะทัดรัด คล่องตัว ขับได้ทั้งในเมืองและระยะทางไกล

ผู้เขียน : นายพล

 

ที่มา:มติชนออนไลน์