
ส.อ.ท. รายงานยอดจดทะเบียนรถยนต์อีวี 11 เดือนแรก ยังโตต่อเนื่องมียอดรวม 89,658 คัน เผยยอดรถเก๋งลดลง 3.39% ส่วนยอดขาย 11 เดือน ทำได้ ที่ 61,443 คัน
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงยอดขายรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้น 5,519 คัน คิดเป็น 13.04% ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ 36.53%
และในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-พ.ย. 2567) พบว่ามียอดขายรถยนต์นั่งแหละรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 61,443 คัน คิดเป็น 11.85% ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว 5.20%
โดยยอดขายรถยนต์โดยรวมนั้น ยังได้รับผลกระทบจากการเข้มงวดการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินเพราะเศรษฐกิจในประเทศที่อ่อนแอเติบโตในอัตราต่ำที่ 3% ในไตรมาสสามของปีนี้ ประกอบกับหนี้เสียรถยนต์เพิ่มขึ้น 22.8% จากไตรมาสสามปีที่แล้ว และหนี้ครัวเรือนสูงถึง 89.6% ของ GDP ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมยังคงลดลง ยอดขายบ้านลดลงจากปีที่แล้ว รวมทั้งการลงทุนภาคเอกชนยังอยู่ในอัตราต่ำ ส่งผลโดยรวมต่อตลาดรถยนต์ รวมทั้งยอดขายรถยนต์อีวีด้วย
ขณะที่ยอดจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดง (BEV) ในช่วง 11 เดือนที่ผ่าน พบว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 89,658 คัน เพิ่มขึ้น 0.94% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนโดยแบ่งเป็น
รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่าง ๆ มีทั้งสิ้น 64,627 คัน ลดลง 3.39% ในจำนวนนี้แบ่งเป็น
- รถยนต์นั่งจำนวน จำนวน 62,876 คัน
- รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 1,665 คัน
- รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 10 คัน
- รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 73 คัน
- รถยนต์บริการให้เช่า จำนวน 3 คัน
รถกระบะ รถแวน จำนวน 569 คัน เพิ่มขึ้น 221.47%, รถยนต์สามล้อ จำนวน 145 คัน ลดลง 62.72%, รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล จำนวน 38 คัน, รถยนต์รับจ้างสามล้อ จำนวน 107 คัน
และรถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 23,471 คัน เพิ่มขึ้น 16.89% ในจำนวนนี้แบ่งเป็น
- รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 23,361 คัน
- รถจักรยานยนต์สาธารณะ จำนวน 110 คัน
รถโดยสาร จำนวน 296 คัน ลดลง 75.56%, รถบรรทุก จำนวน 550 คัน เพิ่มขึ้น 633.33%
นายสุรพงษ์ยังเปิดเผยต่อไปว่า เฉพาะแค่เดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา พบว่ามีจำนวนยอดจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้า (BEV) ทั้งสิ้น 7,354 คัน ลดลง 34.86% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งเป็น
รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่าง ๆ จำนวน 5,429 คัน ลดลง 39.54% โดยในจำนวนนี้ได้แก่
- รถยนต์นั่งจำนวน จำนวน 5,392 คัน
- รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 31 คัน
- รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 6 คัน
รถกระบะ รถแวน จำนวน 20 คัน ลดลง 44.44%, รถยนต์สามล้อรับจ้างจำนวน 1 คัน ลดลง 98.92%
รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 1,715 คัน ลดลง 21.26% ในจำนวนนี้แบ่งเป็น
- รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 1,714 คัน
- รถจักรยานยนต์สาธารณะ จำนวน 1 คัน
และรถโดยสาร จำนวน 8 คัน, รถบรรทุก จำนวน 181 คัน