DEEPAL E07 กลายร่างเป็น SUV หรูได้ ลุยได้

คอลัมน์ : เทสต์คาร์
ผู้เขียน : วุฒิณี ทับทอง

เป็นรถยนต์ที่หลายคนรอ…(ชม) หลังจากค่ายฉางอานเสริมทัพเอสยูวีไฟฟ้า ในสไตล์สปอร์ต DEEPAL E07

รถรุ่นนี้เอาใจกลุ่มลูกค้าไลฟ์สไตล์ที่ได้ทั้งสายลุยและสายหรู

รถคันนี้ถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์มอัจฉริยะ SDA ที่มีมาสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์ที่แตกต่าง ในสถานการณ์และบทบาทที่หลากหลาย

ด้วยขนาดของตัวรถที่ถือเป็นเอสยูวีขนาดใหญ่ ความยาว 5,045 มิลลิเมตร, ความกว้าง 1,996 มิลลิเมตร, ความสูง 1,695 มิลลิเมตร

ความยาวฐานล้อ 3,120 มิลลิเมตร และ Ground Clearance 183 มิลลิเมตร

มองผาด ๆ แล้ว นึกหวั่นถึงตอนนั่งควบคุมด้านหลังพวงมาลัย ต้องเหนื่อยแน่ ๆ

ทีมงานฉางอานเซตเส้นทางให้เราสัมผัสกับ DEEPAL E07 พอกรุบกริบระยะทางในแทร็กปิด แบบเส้นทางออนโรดถึงออฟโรด วิ่งบนทางหินลอย ลูกรังรอบละ 1.4 กิโลเมตร

ต้องบอกว่าผิดคาด…กลายเป็นว่า DEEPAL E07 ควบคุมและบังคับได้ง่าย

หนำซ้ำยังให้ความคล่องตัว ใช้ได้บนเส้นทางที่เราทดสอบ

หลายคนอาจจะยังสับสนว่า รถคันนี้จะเป็นรถเอสยูวี หรือเป็นปิกอัพส่วนตัว ต้องบอกว่ารถคันนี้เป็น “ลูกผสม” มีครบความเป็นเอสยูวีหรู และกลายร่างเป็นปิกอัพเบา ๆ ได้

ด้วยพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้ายที่มีฝาปิดสไตล์เอสยูวี แต่เราสามารถเลือกเลื่อนเปิดฝายท้ายตรงนี้ให้เป็นพื้นที่บรรทุกสัมภาระเบา ๆ ได้ กับพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาด 524 ลิตร และยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหน้า ขนาด 131 ลิตร ซึ่งซ่อนอยู่บริเวณฝากระโปรงหน้ารถ

DEEPAL E07 มี 2 รุ่นย่อย ได้แก่

รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 252 กิโลวัตต์ หรือ 342 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุด 365 นิวตันเมตร มอบอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 6.7 วินาที ให้ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ทำได้ 640 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC)

ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 440 กิโลวัตต์ หรือ 598 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 645 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 3.96 วินาที และให้ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ทำได้ 590 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC)

ทั้ง 2 รุ่น ใช้แบตเตอรี่ Ternary Lithium (NMC) ความจุ 89.98 kWh ที่รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC ด้วยหัวชาร์จ Type 2 สูงสุด 6.6 kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC ด้วยหัวชาร์จ CCS2 สูงสุด 240 kW รองรับการชาร์จแบตเตอรี่จาก 30-80% ภายใน 15 นาที

ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยภายนอก-ภายใน ทั้ง 2 รุ่นไม่แตกต่างกับแนวคิด “วิลล่าเคลื่อนที่” โดดเด่นด้วยไฟหน้า-ไฟท้าย ที่ล้ำสมัยแบบ Star Ring LED เปิด-ปิดอัตโนมัติ สามารถปรับสูง-ต่ำ

หลังคากระจกแบบ Panoramic Glass Roof พร้อมม่านบังแดดปรับไฟฟ้า, ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้า และกระจกบานหลังเปิดด้วยไฟฟ้า, มือจับประตูไฟฟ้าแบบซ่อน Electric Hidden Door Handles, แร็กหลังคา, ล้ออัลลอย ขนาด 21 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารเน้นความสปอร์ตพรีเมี่ยม พวงมาลัยปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมปุ่ม Shortcut, ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายขนาด 50 วัตต์ พร้อมระบบระบายอากาศ, เบาะนั่งแบบ Zero Gravity คู่หน้า พร้อมที่ดันหลังและที่รองขาปรับไฟฟ้าเมโมรี่ซีต 1 ตำแหน่ง มีระบายอากาศคู่หน้าและหลัง

Head-up Display ขนาดใหญ่แสดงข้อมูลการขับขี่และหน้าจอสัมผัสแบบ Sunflower ขนาด 15.4, ไฟบรรยากาศแบบเปลี่ยนสีได้ 256 สี พร้อมฟังก์ชั่นปรับเปลี่ยนตามจังหวะ, ระบบเสียงอัจฉริยะ พร้อมลำโพง 18 ตำแหน่ง, แผงกั้นและกระจกกั้นห้องโดยสารกับท้ายรถแบบเปิด-ปิดได้ มีระบบ V2L 3.3 กิโลวัตต์

ได้เวลาสัมผัสกับสมรรนะของรถคันนี้กันในแทร็กสั้น ๆ นี้ “ประชาชาติธุรกิจ” เลือกรุ่นท็อป รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) แค่เริ่มต้นของการออกตัวก็จี๊ดได้ใจ กับพละกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า

ให้กำลังสูงสุด 440 กิโลวัตต์ หรือ 598 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 645 นิวตันเมตร จังหวะออกตัว รถพุ่งทะยานไปข้างหน้า ในอาการหลังติดเบาะ ในโหมดสบาย (Comfort)

เส้นทางจะถูกบีบด้วยแนวต้นไม้สองข้าง แต่ DEEPAL E07 ซอกแซกผ่านมาได้ ก่อนเพิ่มความเร็วในทางตรง กดปุ๊บตอบสนองปั๊บ

เล่นเอาฝุ่นตลบ

ขยับโหมดมาเป็นโหมดสปอร์ต ที่โหดสุด… ขอจำลองรูปแบบการขับสไตลล์ “ครอสคันทรี่” เล็ก ๆ

แม้ว่าจะกดด้วยความเร็ว เพราะด้วยมั่นใจ เส้นทางเป็นสนามปิดและมีรถเราคันเดียววิ่งออนแทร็ก

ต้องบอกว่าสุดจริง ช่วงล่างแบบถุงลมสามารถปรับความหนืดได้ ทำให้จังหวะผ่านทางขรุขระ โคลงเคลง ยังให้ความมั่นอกมั่นใจ

ยิ่งจังหวะเข้าโค้งหนักมีอาการบานเล็ก ๆ ด้วยเส้นทางเป็นหินลูกรัง หินลอย ประกอบกับรถค่อนข้างยาว-ใหญ่ แต่ถือว่าทรงตัวได้ดี

ส่วนระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ฉางอานใส่มาให้ครบครัน มีกล้อง 360 องศา เพื่อดูมุมมองต่าง ๆ ยังมีภาพจากกล้องหน้ารถและแสดงมุมมองใต้รถ เพื่อเข้ามาช่วยเสริมเรื่องความปลอดภัยทางการขับแบบออนโรด-ออฟโรด ราคาค่าตัว DEEPAL E07 มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) ราคา 1,599,000 บาท รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ราคา 1,999,000 บาท