
ซูซูกิ เดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นงานหลังการขาย หลังประกาศแต่งตั้ง 3 ดีลเลอร์ ผุดศูนย์ซ่อมสีและตัวถังรถยนต์เพิ่ม 4 สาขา เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้ครอบคลุม เพื่อรับสภาพการแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่รุนแรง
นายทาดาโอะมิ ซูซูกิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนางานบริการหลังการขายเพื่อสร้างความมั่นใจและความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า ภายใต้วิสัยทัศน์ “Enhancing the Ability to Compete in the Upcoming Automotive Market” และยังคงให้ความสำคัญกับการเพิ่มขีดความสามารถของผู้จำหน่ายรถยนต์ให้สามารถแข่งขันกับตลาดได้อย่างแข็งแกร่ง ภายใต้คุณภาพและมาตรฐานของซูซูกิ
ล่าสุดบริษัทได้ร่วมมือกับทางผู้จำหน่ายทั่วประเทศเดินหน้าขยายงานบริการศูนย์ซ่อมตัวถังและสีมาตรฐาน เพิ่มอีก 3 ราย ได้แก่ บริษัท ชุนหลี ออโต เซลส์ จำกัด จ.สระแก้ว, บริษัท เอส ซี เอ็น ออโต กรุ๊ป จำกัด จ.นครนายก, บริษัท ไอทีโอเอ ออโต้เซลส์ จำกัด จ.ชลบุรี สาขาศรีราชา และบริษัท เอ พี เอ็ม ออโตโมบิล จำกัด จ.พระนครศรีอยุธยา
ด้านนายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ซูซูกิแสดงให้ผู้บริโภคได้รับทราบเสมอมา คือความใส่ใจในงานบริการและการดูแลลูกค้าอย่างจริงใจ ผ่านการร่วมมือร่วมใจกับผู้จำหน่ายในการพัฒนาและเดินหน้าการยกระดับงานบริการให้เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้
โดยผู้จำหน่ายทั้ง 3 ราย ผ่านการรับรองมาตรฐานงานบริการจาก บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และส่งผลให้ปัจจุบัน ซูซูกิมีศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีที่ให้บริการทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 41 สาขา และตามแผนงานของบริษัทคาดว่าจะขยายเพิ่มเป็น 50 สาขา ให้ได้ภายในปี 2568 นี้
สำหรับ 5 จุดแข็งสำคัญที่ศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีซูซูกิ จะต้องผ่านการรับรองมาตรฐาน ได้แก่ อะไหล่แท้ซูซูกิที่ได้รับการรับรองมาตรฐานของซูซูกิ, การให้บริการอย่างมืออาชีพทั้งบริการและการให้คำปรึกษาใส่ใจทุกรายละเอียด การซ่อมโดยช่างผู้มีความชำนาญที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการอบรมในการซ่อมรถยนต์ซูซูกิ
เครื่องมือมาตรฐานซูซูกิที่ได้รับการรับรองจากซูซูกิ ช่วยให้การซ่อมมีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมั่นใจในคุณภาพงานซ่อม, สีซ่อมรถยนต์ที่ได้รับรองมาตรฐานซูซูกิ และการรับประกันงานซ่อม 1 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และอะไหล่รับประกัน 1 ปี หรือ 20,000 กม. (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
นอกจากนี้ ซูซูกิยังเดินหน้าพัฒนาระบบจัดการฐานข้อมูลลูกค้า (Dealer Management System หรือ DMS) ให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบเพื่อเข้าถึงข้อมูลลูกค้าได้ในแบบ Real Time ซึ่งช่วยให้ทราบถึงประวัติการเข้ารับบริการของลูกค้า และสามารถประเมินความต้องการ ไปจนถึงเรื่องของค่าใช้จ่ายในการเข้ารับบริการได้อย่างแม่นยำ
“เรายังคงเดินตามปรัชญา ‘SUZUKI Cause We Care’ เหนือกว่าความใส่ใจ คือความเข้าใจทุกความต้องการที่ยึดมั่นให้เราพัฒนางานบริการและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเพื่อลูกค้าแล้ว ยังเป็นโครงการที่ต้องการสื่อสารไปยังลูกค้าว่า เรายังหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม พร้อมกับการพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการอยู่คู่เคียงข้างชุมชนและสังคมไทยอย่างยั่งยืนอีกด้วย”