“ฮุนได” ขายวืดเป้าลูกค้าชะลอซื้อ เร่งส่งรถรุ่นใหม่ 3-4 รุ่นกระตุกยอดขาย

ฮุนไดเผยส่งรถรุ่นใหม่ทำตลาดครอบคลุมทั้งเครื่องยนต์สันดาป-ไฮบริด-อีวี หวังยอดขายพุ่งแตะครึ่งหมื่นในปีนี้ พร้อมแย้มความคืบหน้าโรงงานผลิตรถอีวี เตรียมขึ้นไลน์ประกอบที่โรงงานบางปูใหม่ เดือนมกราคมปี 2569 ชัวร์

นายวัลลภ เฉลิมวงศาเวช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ว่า ฮุนไดเตรียมเปิดตัวรถยนต์เพื่อทำตลาดในประเทศไทยครบทั้งในส่วนของเครื่องยนต์สันดาปภายใน ไฮบริด และกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า 100% ซึ่งจะมีเปิดตัว 3-4 รุ่นในปีนี้ โดยจะประเดิมด้วยรถยนต์อีวีรุ่นใหม่จาก IONIQ ออกสู่ตลาดก่อน

อีกทั้งรถยนต์ฮุนได พาลิเสด จะขายเต็มปีก็น่าจะพาให้ฮุนไดไปสู่เป้าหมายยอดขายให้เติบโตอย่างน้อย 30% และมียอดขายมากกว่า 5,000 คันได้

หลังจากปี 2567 ที่ผ่านมา ฮุนไดมียอดขาย 3,800 คัน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมาย 4,000 คัน ที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อยแต่ถือเป็นยอดที่น่าพึงพอใจสำหรับสถานการณ์ตลาดรถยนต์โดยรวม และทำให้ฮุนไดมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 0.7% เท่าเดิม

โดยจะเห็นว่าตลาดรถยนต์ในปีที่ผ่านมานั้น โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังลูกค้าส่วนใหญ่ชะลอการตัดสินใจซื้อรถยนต์ อีกทั้งภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวน ไม่ชัดเจน ตลอดช่วงที่ผ่าน

และการแข่งขันของค่ายรถยนต์ โดยผู้เล่นหน้าใหม่ ค่ายรถยนต์อีวีที่มีสงครามราคา ส่งผลให้ผู้บริโภคเกิดความไม่เชื่อมั่น อีกทั้งยังมีลูกค้าบางกลุ่ม เช่น พนักงานที่มีเงินเดือนประจำ แม้จะไม่ได้รับผลกระทบ และมีกำลังซื้อ แต่ช่วงนี้ขอเก็บเงินสดไว้เพื่อความอุ่นใจ

ส่วนภาพรวมของตลาดรถยนต์ในปีนี้ นายวัลลภเชื่อว่าจะยังทรงตัวแม้ว่าภาครัฐจะพยายามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ว่าเป็นมาตรการความช่วยเหลือด้านดอกเบี้ย ปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง

แต่ทั้งนี้เชื่อว่าจะยังต้องใช้เวลา แต่หากต้องการช่วยเหลืออุตสาหกรรมยานยนต์ให้ได้ประสิทธิภาพด้านยอดขายทันทีนั้น อาจจะเป็นการใช้มาตรการลดหย่อนภาษี

นอกจากนี้บริษัทจะเน้นเรื่องการบริการหลังการขาย โดยมีการตั้งทีมงานศูนย์บริการเคลื่อนที่ ภายใต้โครงการ Outrech Program เข้าไปให้บริการลูกค้าในจังหวัดที่ไม่มีศูนย์บริการ แต่มีรถยนต์ฮุนไดจำนวนมาก เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการที่มีมาตรฐาน

ไม่ว่าจะเป็นการเช็กระยะทั่วไป หรือซ่อมบำรุงต่าง ๆ เบื้องต้นกำหนดการเข้าให้บริการพื้นที่ละ 3 วัน ให้บริการได้ประมาณ 10 คันต่อวัน จัดทำไม่น้อยกว่า 20 ครั้งตลอดทั้งปี

อีกทั้งจะสำรวจความต้องการใช้บริการในแต่ละพื้นที่ เพื่อจัดตั้งศูนย์บริการรูปแบบ 2S คือมีบริการซ่อมบำรุงและอะไหล่ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกในการเข้าถึงบริการ และยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับดีลเลอร์ เพราะเป็นการให้สิทธิดีลเลอร์ในพื้นที่ เปิดศูนย์บริการ 2S ในพื้นที่ใกล้เคียง

แต่ใช้งบประมาณลงทุนที่น้อยกว่าโชว์รูมและศูนย์บริการเต็มรูปแบบ 30-40% เพราะไม่ต้องมีพื้นที่โชว์รูมแต่จะเน้นจำนวนช่องซ่อมน้อยประมาณ 3-4 ช่องซ่อม จากปกติ 8-10 ช่องซ่อม โดยจะเริ่มทำไพลอต 5 แห่ง ในปีนี้เพื่อนำร่องก่อน

ขณะที่โชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์ฮุนไดปัจจุบันมีอยู่ 37 แห่งทั่วประเทศ บริษัทมีแผนจะเพิ่มไปยังจังหวัดรอบนอกอย่างลพบุรี อุบลราชธานี และพื้นที่ต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานคร

ส่วนความคืบหน้าของการลงทุนตั้งโรงงานประกอบรถยนต์ฮุนไดในประเทศไทยนั้น การดำเนินงานทุกอย่างยังเป็นไปตามแผนงานที่บริษัทแม่ได้วางไว้และจะสามารถเริ่มประกอบได้ในช่วงเดือนมกราคมปี 2569

หลังจากได้รับการส่งเสริมสิทธิประโยชน์การลงทุนจากบีโอไอ บริษัทกำลังเตรียมนำเครื่องจักรเข้ามาติดตั้ง และมีแรงงานวิศวกรเข้ามาช่วย เซตอัพโรงงาน ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมบางปูใหม่ เป็นพื้นที่เช่าและมีส่วนของอาคาร 2 อาคาร เพื่อทำโรงงานประกอบรถยนต์ และโรงงานประกอบแบตเตอรี่

ตามแผนงานโรงงานแห่งนี้จะเป็นโรงงานขนาดย่อม เพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 100% ก่อน เนื่องจากมีปริมาณการผลิตเพียง 5,000 คันต่อปี ต่อ 1 กะการทำงาน เพื่อเป็นการรองรับความต้องการตลาดในประเทศไทยก่อน ส่วนอนาคตยังต้องรอดูความชัดเจน