“ซูซูกิ” ท้ารบตลาดอีวี-ไฮบริด Q3 ชี้มาตรการรัฐกระตุ้นตลาดรถฟื้นครึ่งปี

วัลลภ ตรีฤกษ์งาม ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย)
วัลลภ ตรีฤกษ์งาม

เปิดกลยุทธ์ “ซูซูกิ” งัดแผนส่งรถยนต์สองรุ่นใหม่ทำตลาด ชูจุดขายความเป็นยูนีค ตอบโจทย์ลูกค้าทั้งเครื่องยนต์ไฮบริดและรถอีวี ชี้จับตลาดครึ่งปีแรกยังชะงัก เหตุลูกค้าชะลอการตัดสินใจ ลุ้นตลาดฟื้นครึ่งปีหลัง เผยเร่งเสริมแกร่งงานหลังการขาย-ปูพรม ผุดเน็ตเวิร์กครบ 100 สาขาทั่วประเทศ

นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปีนี้ว่า ซูซูกิพร้อมส่งรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดประเทศไทยถึง 2 รุ่นในปีนี้ โดยเป็นการนำเข้าทั้งคัน (ซีบียู) มาจำหน่าย

เริ่มจากรุ่นแรกจะเป็นรถยนต์ในกลุ่มรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ หรือ B-SUV เครื่องยนต์ไฮบริด ที่จะเปิดตัวภายในไตรมาส 3

และตามมาด้วย รถยนต์ไฟฟ้า 100% หรือรถ EV เข้ามาเสริมทัพ และทำตลาดครั้งแรกในประเทศไทย ช่วงปลายปีนี้อย่างแน่นอน

และจะส่งผลให้ซูซูกิ มีรถยนต์ทำตลาดในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีอยู่ 5 รุ่น ได้แก่ เซเลริโอ้, สวิฟท์, แครี่, เอ็กซ์แอล7 และจิมนี่ เพิ่มอีก 2 รุ่น รวมเป็น 7 รุ่น ในปีนี้เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าในประเทศไทย

ขณะเดียวกัน บริษัทยังเดินหน้าเพิ่มความเข้มข้นในส่วนของงานบริการหลังการขาย โดยตั้งเป้าว่าภายในสิ้นปี 2568 จะเพิ่มโชว์รูมและศูนย์บริการให้ครบ 100 แห่ง ทั่วประเทศ จากปัจจุบันที่มีอยู่ 91 แห่ง ขณะที่อู่ซ่อมสีและตัวถังตั้งเป้าว่าจะเพิ่มเป็น 50 แห่งให้ได้ภายในสิ้นปี

ADVERTISMENT

“เรามองว่าในส่วนของเน็ตเวิร์กนั้น เราจะมุ่งเน้นเติมเต็มส่วนของพื้นที่ที่ยังขาดอยู่ก่อน เพื่อให้สามารถรองรับการบริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึง เราจะไม่มุ่งเน้นให้ดีลเลอร์ต้องโหมการลงทุน เพราะวันนี้สถานการณ์ตลาดเปลี่ยนไป เราต้องพิจารณาจากจำนวนยอดขายกับจำนวนโชว์รูมด้วย เพื่อเพิ่มคุณภาพการบริการและสุขภาพที่ดีทางธุรกิจให้กับดีลเลอร์”

นายวัลลภกล่าวถึงสถานการณ์ของตลาดรถยนต์ในปีนี้ว่า ยังต้องจับตาปัจจัยต่าง ๆ ที่อยู่นอกเหนือการควบคุม ทั้งสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ภาวะหนี้สินครัวเรือน มาตรการความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อ รวมไปถึงสถานการณ์โลกโดยเฉพาะมาตรการการกีดกันทางการค้าต่าง ๆ ว่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์มากน้อยเพียงใด

ADVERTISMENT

โดยในช่วงครึ่งปีแรกตลาดน่าจะอยู่ในภาวะชะงักงัน เนื่องจากลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อเพื่อรอดูโปรโมชั่นและเงื่อนไขทางการเงินต่าง ๆ โดยปกติในช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์จะไม่ใช่ช่วงฤดูกาลขาย แต่พอเข้าสู่ช่วงเดือนมีนาคม เมษายน จะเป็นช่วงมอเตอร์โชว์ ที่ตลาดมีความคึกคักพอสมควร

ดังนั้นจึงเชื่อว่าในช่วงครึ่งปีแรกจะเป็นช่วงวัดใจของตลาดรถยนต์กับช่วงเทศกาลมอเตอร์โชว์ว่าค่ายรถยนต์ต่าง ๆ จะมีการนำเสนอสินค้าและโปรโมชั่นออกมาอย่างไรท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่กำลังปรับตัวอยู่ในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังสถานการณ์โดยรวมน่าจะดีขึ้น เป็นผลมาจากมาตรการการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบของภาครัฐเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายและกระตุ้นในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ

แต่ทั้งนี้ ซูซูกิยังต้องรอประเมินว่าความต้องการของตลาดรถยนต์ในปีนี้จะโตเพิ่มเล็กน้อย หรือประมาณ 5% จากยอดขายที่ 570,000 คันในปี 2567 ที่ผ่านมา เพิ่มเป็น 600,000 คันในปีนี้

ส่วนซูซูกิตั้งเป้าจะมียอดขายเพิ่มขึ้น 41% จากยอดขาย 5,650 คันในปีที่ผ่านมา เป็น 8,000 คัน ในปีนี้

“ซูซูกิเราจะเเนะนำรถบี-เอสยูวี ไฮบริด ที่มาพร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัยต่าง ๆ มากมาย ซึ่งเป็นเซ็กเมนต์ที่ได้รับความนิยม ส่งผลให้เรามีรถที่หลากหลายทั้งอีโคคาร์ บี-เอสยูวี รถเอสยูวี และรถมีทั้งไฮบริดและรถยนต์อีวีนำเสนอให้กับลูกค้าชาวไทย เราก็พยายามมองหาตลาดโจทย์ลูกค้าที่หลากหลายและมีความยูนีคด้วย”

นายวัลลภยังกล่าวถึงสถานการณ์ของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยเชื่อว่าจะยังคงมีลักษณะการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป แม้ว่าลูกค้าไทยจะให้การตอบรับค่อนข้างสูง แต่การเติบโตแบบก้าวกระโดดของรถยนต์อีวีจะต้องใช้เวลาอีกพอสมควร รวมถึงความพร้อมของกลุ่มลูกค้าที่จะซื้อรถประเภทนี้เพื่อใช้งานเป็นคันที่สองที่สามของบ้านยังมีน้อยอยู่ และเชื่อว่าเป็นความต้องการของรถยนต์อีวีจะมีจำนวนอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 100,000 คันต่อปี

เห็นด้วยจากปี 2566 ที่ผ่านมา มียอดขายรวมอยู่ที่ 75,000 คัน และปี 2567 มีจำนวนที่ 68,000 คัน และปีนี้ก็น่าจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน หรือราว 70,000 คัน

โดยจะเห็นได้ว่าเมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปหรือไอซีอี รถยนต์อีวียังเป็นจำนวนการซื้อที่ค่อนข้างจะน้อยอยู่ แต่ต้องยอมรับว่าตลาดอีวีเป็นเทรนด์ที่มีจำนวนความต้องการที่แน่นอนและมีการแข่งขันที่ค่อนข้างรุนแรง

ดังนั้น แบรนด์ญี่ปุ่นรวมทั้งซูซูกิที่เตรียมแนะนำรถอีวีออกสู่ตลาดก็จะต้องมีรูปแบบและวิธีการทำตลาดที่แตกต่างออกไป โดยเฉพาะความได้เปรียบในเรื่องของความเชื่อมั่นในด้านบริการหลังการขายและการดูแลลูกค้าที่แตกต่าง ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเพื่อทำตลาดรถยนต์อีวีอย่างจริงจังในช่วงปลายปีนี้อย่างแน่นอน

“ผู้สื่อข่าว” รายงานเพิ่มเติมว่ารถยนต์สองรุ่นใหม่ที่ซูซูกิกำลังจะเปิดผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่ารถยนต์สองรุ่นใหม่ที่ซูซูกิกำลังจะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลังนั้นคาดว่าจะเป็น SUZUKI FRONX ในไตรมาส3 และ SUZUKI e VITARA รถอีวีปลายปี