เมอร์เซเดส-เบนซ์ ขับเคลื่อนสู่แบรนด์ที่ “ยั่งยืน”

มาร์ทิน ชเวงค์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ไทยแลนด์
มาร์ทิน ชเวงค์
คอลัมน์ : สัมภาษณ์

หลังจากนายใหญ่ค่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ ไทยแลนด์ มาร์ทิน ชเวงค์ ประกาศความชัดเจนถึงแนวทางการขับเคลื่อนตลาดและการสร้างแบรนด์ “เมอร์เซเดส” ในบ้านเราอย่างต่อเนื่อง หลังจากปีที่ผ่านมาต้องเผชิญกับปัจจัยนอกเหนือการควบคุมต่าง ๆ โดยเฉพาะสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งในประเทศและในระดับโลก สถานการณ์ความเข้มงวดของสถาบันการเงิน ทำให้บรรยากาศโดยรวมส่งผลต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ ไม่เว้นแม้แต่ตลาดรถระดับพรีเมี่ยม

ปีนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ มีการปรับกลยุทธ์ และวางแผนงานหลักที่จะเพิ่มความเข้มข้นในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ ภายใต้วิสัยทัศน์ “Brand at Heart, Performance in Mind” จะเป็นอย่างไรไปติดตามกัน

ผลการดำเนินงานในปี 2567

ภาพรวมในปีที่ผ่านมา กลุ่มรถยนต์ระดับอี-คลาส และเอส-คลาส ถือว่าดี โต 8% ส่วนรถยนต์ระดับ Top End Vehicle อย่างมายบัค, เอเอ็มจี และเอส-คลาส โต 2%

แต่ต้องยอมรับว่ารถในกลุ่มเริ่มต้น (Entry Level) ซึ่งมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป มีการแข่งขันด้านราคาค่อนข้างมาก แต่เบนซ์ไม่ได้เข้าไปร่วมเล่นราคาตรงนี้ บวกกับสถานการณ์การอนุมัติสินเชื่อที่มีความเข้มงวดส่งผลให้รถในกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบโดยตรง และยังส่งผลกระทบทำให้ยอดขายโดยรวมของบริษัทลดลง

ปีที่แล้วมีการเปิดตัวรถยนต์ถึง 25 รุ่นย่อย และเรามียอดที่ 9,189 คัน ลดลง 30% จากปีก่อนหน้า 12,000 คัน แต่ก็ถือเป็นปีแห่งความภาคภูมิใจของเราด้วย เนื่องจากมีการฉลองยอดผลิตรถยนต์ของเราที่โรงงานธนบุรีฯ ครบ 200,000 คัน

Mercedes-Benz E-Klasse | 2023

ADVERTISMENT

เป้าหมายในปีนี้

ในแง่ของยอดขายนั้น เราเชื่อว่าการสร้างยอดขายที่เติบโตขึ้นสามารถทำได้ง่าย ถ้ามีการลดราคาก็จะได้ยอดขายเพิ่ม แต่วัตถุประสงค์ของเราไม่ได้ต้องการลดราคาเพื่อเพิ่มยอดขาย และเราไม่ต้องการลงเล่นในสงครามราคา

แต่ต้องการเป็นการรักษาคุณค่าของตัวแบรนด์และการกำหนดมาตรฐานราคา เราเชื่อว่าปีนี้ยอดขายจะไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน

ADVERTISMENT

โดยจะมุ่งหน้าเพื่อไปสู่วิสัยทัศน์ ในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ กับ “Brand at Heart, Performance in Mind” ด้วยการยกระดับการดำเนินงาน ที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ การขับเคลื่อนผลประกอบการทางธุรกิจ และการขยายไลน์อัพรถยนต์ให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ควบคู่ไปกับสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้า ผ่านกิจกรรมที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ มอบประสบการณ์ของผู้บริโภคในทุกมิติ

เริ่มจาก 1.ผลิตภัณฑ์ ในช่วง มอเตอร์โชว์ 2025 จะมีการเปิดตัวรถยนต์ในกลุ่ม AMG ทั้งหมด 3 รุ่น ออกสู่ตลาดก่อน และตลอดทั้งปีจะทยอยส่งรถรุ่นต่าง ๆ ออกมานำเสนอให้กับลูกค้าชาวไทยอย่างต่อเนื่อง

เพิ่มความเข้มข้นรถ BEV

ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า เรื่องของความเชื่อมั่น และปัญหาด้านราคาของรถยนต์ไฟฟ้า ผู้บริโภคมีความไม่มั่นใจและเกรงว่าซื้อรถมาแล้ว ราคาไม่มีความคุ้มค่าในอนาคต อีกทั้งเรื่องของสถานีชาร์จที่ยังไม่ทั่วถึง ปัญหาเหล่านี้กลายเป็นความกังวลของผู้ที่ต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้า

เมอร์เซเดส-เบนซ์ จึงแก้ไขด้วยการให้ “EV Worry-Free Package” เพื่อให้ลูกค้าเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า 100% เกิดความมั่นใจ โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังมีความลังเลกับข้อเสนอพิเศษ ฟรีเงินดาวน์ก้อนแรกและก้อนสุดท้าย ในรุ่น EQE 350 4MATIC SUV Electric Art ผ่อนค่างวดที่ 45,000 บาทต่อเดือน

ส่วนรุ่น EQS 350e AMG Dynamic ผ่อนเดือนละ 55,000 บาทเท่านั้น เราต้องการตอกย้ำความมั่นใจให้กับผู้ที่สนใจ ในลักษณะการเช่าใช้ เป็นระยะเวลา 5 ปี เมื่อหมดสัญญาลูกค้าสามารถนำรถมาคืนได้ และยังมอบสิทธิชาร์จฟรี 1 ปี ให้กับผู้บริโภค พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่นาน 10 ปี หรือ 250,000 กิโลเมตร

เราตั้งใจทำตรงนี้ออกมา เพื่อให้ “ง่าย” ต่อการเป็นเจ้าของ และผู้บริโภค “กล้า” ที่จะลองรถของเรา

เน้นกิจกรรมร่วมกับลูกค้า

สิ่งสำคัญและภารกิจหลักคือ ปีนี้เราจะกลับมาดูแลความพึงพอใจของลูกค้า มีหลาย ๆ กิจกรรมที่เราจะมุ่งเน้น และเพิ่มความถี่ในการทำร่วมกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น เมอร์เซเดส แฟมิลี่ โดยจะเข้าไปยังกลุ่มคาร์คลับ รถคลาสสิก สนับสนุนและร่วมทำกิจกรรมกับลูกค้ามากขึ้น เข้าร่วมกับคอมมิวนิตี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ คลับ (ประเทศไทย)

กิจกรรมไดรวิ่งอีเวนต์ อย่าง Mercedes-Benz Driving Events และ SUV Driving Events ที่ปกติจัดปีละ 6 ครั้ง แต่ปีนี้จะเพิ่มความถี่และกระจายการจัดไปยังพื้นที่ต่าง ๆ 18-20 ครั้ง

และกิจกรรม เมอร์เซเดส โทรฟี่ MercedesTrophy การแข่งขันกอล์ฟที่เราไม่ได้จัดมาสักระยะจะถูกนำกลับมาจัดใหม่ และมีการแข่งขันอย่างน้อย 7-8 สนามในปีนี้ คาดว่าจะมีนักกอล์ฟเข้าแข่งขันมากกว่า 1,000 คน

เรียกได้ว่าเราจะพยายามเข้าไปอยู่ในทุก ๆ กิจกรรมของลูกค้า อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี

Retail of the Future เห็นผล

หลังจากเปิดตัว Retail of the Future ไปเมื่อปีที่ผ่านมา ครบรอบ 1 ปีพอดี ลูกค้าเริ่มให้การตอบรับ และเรียนรู้ไปกับระบบนโยบายราคาเดียว ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ต้องการสร้างมาตรฐานการขายขึ้นมา ช่วยให้ราคาขายมีเสถียรภาพเป็นราคาเดียวกันทั่วประเทศ

รวมถึงการทำแคมเปญส่งเสริมการขายก็เป็นแคมเปญเดียวกัน ซื้อรถเราที่ไหน ลูกค้าจะได้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ แบบเดียวกันหมด ช่วยให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจและสบายใจ “ซื้อรถของเราที่ไหนก็ราคาเดียวกันโดยเท่าเทียม” วันนี้ลูกค้าเริ่มให้การยอมรับและตอบรับมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ผมหวังว่ากลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจ ในปีนี้จะนำเราไปสู่ความยั่งยืนของตลาดแบรนด์ กลุ่มลูกค้าได้อย่างแน่นอน