เอ็มจี เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าคันล่าสุด NEW MG IM6 วันที่ 18 มีนาคมนี้ รอลุ้นราคา มี 2 รุ่นย่อยให้เลือก วิ่งไกล 634 กิโลเมตร
เอ็มจี เตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่ เข้ามาเติมเต็มในส่วนของ กลุ่มอีวีพรีเมี่ยม NEW MG IM6 รถ e-SUV ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่แตกต่าง เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การใช้รถที่สะดวกสบาย ปลอดภัย และเติมเต็มไลฟ์สไตล์ให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น มาพร้อมฟีเจอร์อัจฉริยะ
NEW MG IM6 เป็นผลงานการออกแบบดีไซน์ร่วมกันของนักออกแบบจาก SAIC MOTOR CORPORATION และ University of Art London ดีไซน์ภายนอกภายใต้คอนเซ็ปต์ Gentle Sculpture ที่ตัวรถ เน้นความโค้งมน ดูพลิ้วไหว ดีไซน์กระจังหน้าเป็นเอกลักษณ์ ไฟหน้าดีไซน์แบบ L Shape ไฟท้ายพาดยาวแบบ Skyline Taillights และการออกแบบเส้นสายให้ดูโค้งโอบล้อมลงตัวเข้ากับช่วงท้ายรถ
รถคันนี้ออกแบบโดยใช้หลักอากาศพลศาสตร์ เพื่อช่วยเสริมสมรรถนะและเพิ่มประสิทธิภาพของตัวรถได้อย่างลงตัว มีมิติตัวถัง 4,904 x 1,988 x 1,669 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง), ระยะความยาวฐานล้อ 2,950 มิลลิเมตร, กระจกข้างแบบไร้กรอบ พร้อมกระจกรอบคัน 2 ชั้น, ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
ไฟหน้า ไฟท้าย และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED, ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, กระจกมองข้างพับ และปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว, ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง, หลังคากระจกพาโนรามิก, ที่เปิดประตูแบบเก็บซ่อนในตัวรถ (Hidden Door Handle), ล้ออัลลอย ขนาด 21 นิ้ว สำหรับรุ่น Performance AWD และขนาด 20 นิ้ว สำหรับรุ่น Premium 2WD
ส่วนภายในห้องโดยสารเน้นความเรียบหรู และคำนึงถึงความสะดวกสบายให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน กับวัสดุพรีเมี่ยม การออกแบบเพื่อการใช้งาน ที่เน้นความกว้าง ทำให้ดูโล่ง โปร่ง สบาย แต่ยังมีสไตล์ และมีความเฉพาะตัว ดีไซน์คอนโซลหน้าเน้นความเรียบหรูด้วยวัสดุ Soft Touch พร้อมที่วางแก้ว และรองรับการชาร์จแบบไร้สาย กำลังไฟสูงสุด 50 วัตต์ (Wireless Charger)
ดีไซน์พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น หุ้มหนังปรับ 4 ทิศทาง ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางโทรศัพท์, เบาะนั่ง POPO Sofa ทรงขนมปัง ให้สัมผัสพรีเมี่ยม โดยหุ้มด้วยวัสดุสังเคราะห์, เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อม Lumbar Support และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง โดยเบาะคู่หน้าเป็นแบบระบายความร้อน พร้อมระบบนวดสำหรับผู้ขับขี่, เบาะนั่งด้านหลังพนักพิง พับได้ 60:40
หน้าจออัจฉริยะระบบสัมผัส Intelligent Immersive Touch Screens จำนวน 2 จอขนาดใหญ่ ได้แก่ หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิทัลขนาด 26.3 นิ้ว และหน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาด 10.5 นิ้ว สำหรับควบคุมส่วนต่าง ๆ ภายในรถ, ระบบลำโพงรอบทิศทาง 20 จุด ประกอบด้วย ลำโพงรอบทิศทาง 16 จุด และลำโพงบริเวณหลังคา 4 จุด, ระบบสั่งการอัจฉริยะ IM OS, Interactive Ambient Light ที่สามารถเปลี่ยนได้ 256 เฉดสี
กระจกไฟฟ้า One Touch Up-Down, กระจกมองหลังแบบ Streaming Media Rearview Mirror, ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกโซนอิสระ พร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5, ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง, พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหน้ารถ จุได้มากถึง 32 ลิตร, พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายรถ จุได้มากถึง 596 ลิตร และเมื่อพับเบาะสามารถจุได้มากถึง 1,640 ลิตร และมีที่เก็บสัมภาระเพิ่มเติมที่ท้ายรถได้อีก 69 ลิตร, ฝาท้ายไฟฟ้าพร้อมระบบเตะเปิดอัตโนมัติ
ระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android แบบไร้สาย, ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูท พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB TYPE C จำนวน 2 จุด, เอ็มจีเพิ่มเติมความพิเศษด้วย IM AMG HUB อุปกรณ์เสริมติดแม่เหล็กภายในตัวรถ เพื่อใช้ติดตั้งแอ็กเซสซอรี่ต่าง ๆ อาทิ โคมไฟ กระจกแต่งหน้า ไฟอ่านหนังสือ ฯลฯ จำนวน 5 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นผลงานการสร้างสรรค์เฉพาะจาก SAIC เพื่อครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์การใช้งานรถอย่างแท้จริง
รถ NEW MG IM6 ใช้แชสซีดิจิทัลอัจฉริยะใหม่ (IM Digital Chassis) ที่ทำจากอะลูมิเนียม มอบความสมดุลและประสิทธิภาพในการขับขี่ พร้อมกับชิปประมวลผลระดับไฮเอนด์สำหรับระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่
รุ่น Premium 2WD มอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง ให้พละกำลังสูงสุด 295 แรงม้า (217 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 5.9 วินาที ใช้แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาดความจุ 75 kWh ขับเคลื่อนด้วยแรงดันไฟฟ้าสูงถึง 400 โวลต์ สามารถวิ่งได้ระยะทาง 550 กิโลเมตร* ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC
รุ่น Performance AWD มอเตอร์คู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้พละกำลังสูงสุด 787 แรงม้า (572 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 802 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 3.48 วินาที โดยสามารถทำความเร็วสูงสุด (Top speed) ได้มากกว่า 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาดความจุ 100 kWh ขับเคลื่อนด้วยแรงดันไฟฟ้าสูงถึง 875 โวลต์ สามารถวิ่งได้ระยะทาง 634 กิโลเมตร* ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC
มีระบบ Cooling system เจเนอเรชั่นใหม่ ที่สามารถระบายความร้อนได้ 15 องศาเซลเซียส ภายในเวลาเพียง 30 วินาที โดยแบตเตอรี่ 12V แบบ Lithium-ion
รอรับการชาร์จไฟฟ้าแบบเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 10-80% ใช้เวลาน้อยกว่า 20 นาที ด้วยแรงดันไฟฟ้า 800 โวลต์ รองรับการชาร์จแบบกระแสตรงสูงสุด 396 kW
มีรองรับระบบ V2L เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าสูงสุด 6.6 kW
รถคันนี้มาพร้อมระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM มีระบบ ADAS เพื่อรองรับ EURO-NCAP ทั้งระบบอัจฉริยะแสดงผลในที่มืดและฝนตก, ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ APA, ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB, ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH, ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD, ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA, ระบบควบคุมการทรงตัว VDC
ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS, ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HHC, ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC, ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS, ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS, ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS, ระบบช่วยเบรก AEB, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC
ระบบแจ้งเตือนความเร็วอัตโนมัติ SLF, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LCC, ระบะช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน LDP, ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW, ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD, ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA, ระบบช่วยเบรกขณะถอย RCTB, ระบบระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW