นิสสัน เซเรน่า ไฮบริด สะดวก สบาย ไปได้เรื่อย ๆ

NISSAN SERENA
คอลัมน์ : เทสต์คาร์
ผู้เขียน : วุฒิณี ทับทอง

หลังจากนิสสัน ประเทศไทย ตัดสินใจนำรถยนต์เอ็มพีวี 7 ที่นั่ง นิสสัน เซเรน่า (NISSAN SERENA) กลับเข้าทำตลาดในบ้านเราอีกครั้งหนึ่ง หลังจากปล่อยให้ค่ายรถยนต์นำเข้าอิสระ กวาดเอาลูกค้าไปพักใหญ่

ทำเอาบรรดาแฟน ๆ รถคันนี้ต่างยิ้มแก้มปริ นิสสันกลับมาจริงจัง แถมได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี

ไม่รอช้า หลังจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ นิสสัน ไทยแลนด์ มีรถทดสอบให้ “หนุ่มเบนซ์” กมลชนก เจริญจินดารัตน์ เชิญชวนให้ “ประชาชาติธุรกิจ” ได้สัมผัสกับรถเอ็มพีวีคันนี้

NISSAN SERENAนิสสัน เซเรน่า เป็นรถตู้ขนาดกลาง หรือเอ็มพีวี 7 ที่นั่ง ที่ขนาดพอเหมาะพอเจาะ

จุดเด่นที่ถือว่าเป็นที่ถูกอกถูกใจ คือความสูงจากใต้ท้องรถ ทำให้จังหวะการก้าวขึ้นถึงไม่สูงมาก ไม่ต้องปีน หรือออกแรงส่งเพื่อก้าวขึ้นรถทั้งในส่วนห้องผู้โดยสารตอนหน้า และห้องผู้โดยสารตอนหลัง เรียกว่าเหมาะลงตัว สำหรับการเป็นรถครอบครัว ที่จะมีผู้สูงวัยหรือเด็ก ๆ เรียกว่าสะดวกสุดสุด

แถมบานประตูห้องโดยสารตอนหลัง เป็นบานสไลด์ไฟฟ้าทั้ง 2 ข้าง ใช้งานง่าย ๆ เพียงแค่ดึงมือจับ แล้วปล่อย เพื่อให้บานประตูค่อย ๆ สไลด์เปิด-ปิด

ADVERTISMENT

หรือจะให้ผู้ขับสั่งการเปิดประตูให้ ที่ปุ่มกดตอนหน้า ก็สะดวกเช่นเดียวกัน

NISSAN SERENANISSAN SERENA

ADVERTISMENT

เข้ามานั่งภายในห้องโดยสารตอนหลัง เนื่องจากรถเป็นทรงบ็อกซี่ หรือทรงกล่อง หลังคาสูง ให้ความโปร่ง โล่ง สบาย

เบาะที่จัดเรียงแบบ 2+2+3 ที่นั่ง ปรับที่นั่งได้มากถึง 13 รูปแบบ

การที่จะเข้าที่นั่งแถวที่สามได้จะใช้วิธีปรับเลือกเบาะนั่งแถวที่สองเพื่อเลื่อนเบาะ เข้าไปหรือจะเดินผ่านช่องกลางระหว่างแถวที่สองที่เป็บแบบกัปตันซีทก็ได้ สู่ที่นั่งตอนที่สามได้

ส่วนระบบปรับอากาศต้องบอกว่า แอร์เย็นฉ่ำทุกที่นั่ง มีระบบปรับอากาศด้านหลังแบบดิจิทัลสวิตช์ สำหรับควบคุมอุณหภูมิห้องโดยสารแถวที่ 2 และ 3

ที่เด่นและถูกใจสุดในตำแหน่งผู้โดยสารตอนหลัง คือกระจกบานข้าง ที่ใหญ่สะใจ นิสสันใส่ม่านบังแดดเข้าให้ด้วย

ส่วนระบบอำนวยความสะดวกของเซเรน่า คันนี้มีครบ หน้าจอชุดมาตรวัด พร้อมหน้าจอ MID ขนาด 7 นิ้ว, หน้าจอกลางระบบสัมผัส ขนาด 10.1 นิ้ว, ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth, ระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย, ช่องชาร์จ UBS สำหรับเบาะนั่งทุกแถว

ส่วนพวงมาลัย จับกระชับดี ด้วยดีไซน์แบบทรงท้ายตัด D-Cut พร้อมปุ่มมัลติฟังก์ชั่น ครบกว่าครบครัน ภายในห้องโดยสารในโทนขรึม กับสีดำตัดด้วยขอบโครเมียมช่วยเพิ่มความเรียบหรู การจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ถือว่าลงตัว มีช่องเก็บของด้านหน้าฝั่งผู้โดยสารแล้ว ในตำแหน่งผู้ขับยังมีช่องเก็บของ (เก๊ะหน้า) ซ้อนอยู่ที่บริเวณคอนโซลหน้า หลังพวงมาลัย พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB

NISSAN SERENA

การทดสอบครั้งนี้หลังจากรับรถย่านสาทร ตัดสินใจวิ่งช้า ๆ ในเมืองอยู่ ต้องบอกว่า นิสสัน เซเรน่า แม้จะเป็นเอ็มพีวีขนาดกลาง แต่จังหวะซอกแซกในสภาพการจราจรหนาแน่น ทำได้ค่อนข้างดี ติดนิดเดียวคือ นิสสันเซตพวงมาลัยเบาไป ทำให้บางจังหวะรู้สึกโหวงไปนิดหน่อย

บวกกับกระจกมองข้าง โดยส่วนตัวรู้สึกว่า ทัศนวิสัยไม่ค่อยเคลียร์ อาจจะเป็นเพราะบานกระจกเล็กไป เจอมุมอับเข้าไปหลายดอกเหมือนกัน แต่ดีที่มีบายสปอร์ตเข้ามาช่วยเตือน

ส่วนระบบความปลอดภัยที่ใส่เข้ามาให้ ทั้งการเตือนให้อยู่ในเลน มีการเซ็นเซอร์ตรวจจับขณะถอยหลัง หรือวัตถุเคลื่อนไหว ตรงนี้ดีช่วยเรื่องความปลอดภัยได้เยอะ กล้องมองภาพขณะถอยหลัง การให้ภาพอาจจะไม่ชัดเจนเท่าไร แต่ถือว่าใช้งานได้

ขับในเมืองพอจับจังหวะของรถได้ ตัดสินใจวิ่งออกนอกเมืองเบาะ ๆ เส้นทางกรุงเทพฯ-พระนครศรีอยุธยา ในช่วงสายวันอาทิตย์ ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Energy Control Electric Motor (Mild-hybrid) ให้กำลัง 2.6 แรงม้า แรงบิด 48 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ X-TRONIC CVT พร้อม Adaptive Shift Control (ASC) ขับเคลื่อนล้อหน้า FWD

บางจังหวะในการเร่งแซง รู้สึกได้ว่ารถจะต้องเค้นเรียกกำลัง จังหวะคิกดาวน์ เสียงของเครื่องยนต์คำราม ค่อนไปทางเครียด แต่ถ้าเราไม่ได้เร่งรีบ ขับไปได้แบบเรื่อย ๆ ก็ถือว่ารถคันนี้พร้อมตอบสนอง วิ่งชิลไป

NISSAN SERENA

แต่ถ้าใครที่ต้องการทำความเร็ว อาจจะต้องรับสภาพกับแรงเหวี่ยงแรงโยน ซึ่งถือเป็นปกติสำหรับรถทรงนี้

การทดสอบเลือกใช้โหมด Eco เป็นหลัก หากต้องการขยับไปที่โหมดสปอร์ต ให้กดปุ่มตรงบริเวณหัวคันเกียร์ คล้ายไดรฟ์โหมดเข้ามาเสริม

ส่วนอัตราสิ้นเปลืองวิ่งไป 210.5 กิโลเมตร เหลือน้ำมันวิ่งได้อีก 389 กิโลเมตร อัตราสิ้นเปลืองหน้าจอแจ้งว่า อยู่ที่ 10 กิโลเมตรต่อลิตร

นิสสัน เซเรน่า รถครอบครัวคันนี้ ราคาค่าตัวอยู่ที่ 1,469,000 บาท