นิชคาร์คัมแบ็กรุกตลาดเต็มสูบ ทุ่ม 20 ล้าน เปิดอู่สีซูเปอร์คาร์เซอรวิสทุกแบรนด์

นิชคาร์ คัมแบ็ก เดินหน้าลุยตลาดเต็มสูบ ประเดิมส่ง “ซูเปอร์ซีรีส์ แมคลาเรน 720เอส” กรุยทางตั้งเป้าขายปีนี้ 15 คัน โหมสร้างความมั่นใจเทงบฯ 20 ล้าน ผุดอู่ซ่อมสีและตัวถัง เปิดรับเซอร์วิสซูเปอร์คาร์ทุกแบรนด์

นายวิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิช คาร์ กรุ๊ป จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ซูเปอร์คาร์ภายใต้แบรนด์แมคลาเรน เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้กลับมาทำตลาดอีกครั้ง หลังจากตลอดช่วงระยะเวลา 1 ปีกว่าที่ผ่านมาบริษัทไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้เพราะถูกดีเอสไอกล่าวโทษ โดยล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวซูเปอร์คาร์ เจเนอเรชั่นที่ 2ในตระกูลแมคลาเรน 720 เอส รุ่นใหม่

อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ขณะนี้มียอดจองไปแล้ว 15 คัน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มทยอยส่งมอบได้ภายในสิ้นปีนี้และทั้งปี (12 เดือนนับจากเปิดตัว) บริษัทตั้งเป้าจะมียอดจองไม่น้อยกว่า 30 คัน โตเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนหน้า และเป็นไปในทิศทางเดียวกับกลุ่มรถยนต์ซูเปอร์คาร์ที่มีราคามากกว่า 20 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งคาดว่ามีความต้องการอยู่ราว 200 คันต่อปี โดยปัจจัยที่ทำให้ตลาดโตส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายภาครัฐแล้วยังมีปัจจัยการส่งรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดของค่ายรถยนต์ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นตลาดให้มีการเติบโตได้

โดยตลอดช่วงระยะเวลา 1 ปีกว่าที่ผ่านมา ที่กลุ่มผู้ประกอบการตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ซูเปอร์คาร์ต้องเผชิญปัญหา เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายของภาครัฐ บริษัทเองซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ 2 ยี่ห้อคือ ลัมโบร์กินี และแมคลาเรน ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน มีลูกค้าบางกลุ่มที่ชะลอการตัดสินใจซื้อออกไป ทำให้ยอดขายรถยนต์ในกลุ่มนี้หายไป 70-80% ในช่วงที่ผ่านมา แต่สำหรับวันนี้ในส่วนของแบรนด์แมคลาเรน นั้นมีความชัดเจน และบริษัทได้กลับมาทำตลาดอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้งหนึ่ง

และเชื่อว่า ผลกระทบดังกล่าวไม่ได้ส่งผลต่อความมั่นใจของลูกค้า เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาลูกค้าจะเห็นถึงความตั้งใจจริงของบริษัทในการดำเนินธุรกิจ ส่วนรถยนต์ลัมโบร์กินีนั้น คาดว่าจะมีความชัดเจนออกมาได้ราวสัปดาห์หน้า

นอกจากนี้ บริษัทได้เตรียมงบประมาณมูลค่า 20 ล้านบาท เพื่อลงทุนสำหรับสร้างศูนยน์ซ่อมสีและตัวถัง สำหรับรถยนต์แมคลาเรนรวมทั้งแผนจะเปิดให้บริการ กับรถยนต์ซูเปอร์คาร์ยี่ห้ออื่น ๆ ด้วย ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ บนพื้นที่ขนาด 4,000 ตารางเมตร สามารถรองรับรถใช้บริการได้ 80 คันต่อเดือน โดยพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้ภายในไตรมาส 3 อย่างแน่นอน ด้านนายปีเตอร์ เซลล์ ผู้จัดการฝ่ายขายแมคลาเรน ประจำภูมิภาคเอเชียใต้เปิดเผยว่า ตลาดในภูมิภาคเอเชียมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และแมคลาเรน มีแผนจะเพิ่มโชว์รูมและศูนย์บริการในภูมิภาคนี้จาก 16 แห่ง เป็น 20 แห่งภายในปีนี้ด้วย


สำหรับแมคลาเรน 720 เอส มาพร้อมเครื่องยนต์ Twin Turbo V8 Engine แบบ 4 ลิตร 720 แรงม้า ด้วยอัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. ในเวลาเพียง 7.8 วินาที ใช้โครงช่วงล่างคาร์บอนไฟเบอร์ แบบ Monocage II ซึ่งลดน้ำหนักลงได้ถึง 18 กก. ถือเป็นยุคใหม่ของรถยนต์ ในตระกูลแมคลาเรน ซูเปอร์ ซีรีส์ เนื่องจากรถยนต์เจเนอเรชั่นที่ 2 นี้ มีให้เลือก 2 รุ่น คือ รุ่นสปอร์ต ซีรีส์ และรุ่นซูเปอร์ ซีรีส์ ราคา 26.5 ล้านบาท