Mitsubishi XForce HEV เครื่องเนียนกริบ ช่วงล่างสมูท

คอลัมน์ : เทสต์คาร์ 
ผู้เขียน : วุฒิณี ทับทอง

“สาโรจน์ มะอาจเลิศ” กรรมการรองผู้จัดการใหญ่มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ไทยแลนด์ และทีมงาน ตัดรถยนต์ XForce ลอตแรก มาจัดทริปให้สื่อมวลชนได้ทดสอบสมรรถนะบนเส้นทางออนโรด ภูเก็ต-พังงา-ภูเก็ต รวมระยะทางกว่า 400 กม. สำหรับ มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส (XForce) ก่อนส่งมอบให้ลูกค้าในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ แน่นอน

“เฮ้ย…มันไปได้จริง” ตลอดเส้นทางออนโรด วิ่งบนทางหลวงสภาพเส้นทางมีทั้งพื้นผิวที่แดดเปรี้ยง ทางชุ่มฝน

แต่ความมั่นใจหลังพวงมาลัย เบาใจได้เยอะ ด้วยระบบช่วยเหลือควบคุมการทรงตัว หรือ AYC (Active Yaw Control) ทำให้เราควบคุมรถคันนี้ได้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะจังหวะเข้า-ออกโค้งแรง ๆ ระบบ YAC จะเข้ามาทำหน้าที่ช่วยปรับสภาพ รักษาบาลานซ์ของรถให้เราคุมได้ง่ายขึ้น

แม้ว่าการเซตพวงมาลัย ส่วนตัวยังติดเรื่องของความ “คม” ไปนิด ถ้ามิตซูบิชิปรับค่าพวงมาลัยให้จังหวะมีแร็ก กระชับเข้าอีกหน่อย น่าจะทำให้ขับสนุก หลัก ๆ เส้นทางเราใช้ทั่วไป โหมด Normal หรือรูปแบบการขับขี่ทั่วไปเครื่องยนต์ตอบสนองค่อนข้างดี

ก่อนที่เส้นทางถูกบังคับด้วยการไต่ระดับขึ้นเขา เป็นทางคดโค้ง เปลี่ยนมาใช้โหมด Tarmac Mode ที่ทำงานคล้ายกับโหมด Sport เครื่องยนต์ พวงมาลัย มีความกระชับขึ้น จังหวะเข้าโค้ง ทางลงเขา เราปล่อยให้รถใช้ระบบหน่วงอัตโนมัติช่วย โดยไม่พยายามแตะเบรก รถจะปรับตัวเองลงทางชันไปพร้อมเชนจ์กลับไปที่แบตเตอรี่

ระหว่างการขับขี่ ฝนลงมาหนาเม็ดขึ้น ทำให้ตัดสินใจ ขับไปใช้ Wet Mode ถือว่าช่วยได้เยอะในเส้นทางถนนเปียกและลื่นในโหมดนี้ Traction Control และระบบช่วงล่าง ทำให้รถมีเสถียรภาพมากขึ้น ขับด้วยความมั่นใจ

เครื่องยนต์ มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส ใช้เครื่องยนต์ระบบไฮบริด e:MOTION ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร DOHC 16 วาล์ว MIVEC ทำงานประสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า และระบบส่งกำลัง 2-Speed Transaxle แบบเดียวกับรถไฟฟ้า

ต้องชมเลยว่า มิตซูบิชิทำเครื่องยนต์ออกมาได้ดีมาก เนียนกริบ ทั้งยังตอบสนองได้ดี โดยเฉพาะจังหวะต้องการเรียกความเร็วขึ้นมาให้อารมณ์การขับขี่ โดยเฉพาะจังหวะออกตัวคล้ายรถยนต์ไฟฟ้า

จังหวะรอยต่อระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ทำงานนั้น เนียนกริบ ยิ่งทำความเร็วสูง เครื่องยนต์จะทำงานปั่นไฟเข้าสู่แบตเตอรี่ ส่งกำลังผ่านมอเตอร์ ตอบสนองได้ดังใจ

ในจังหวะขึ้น-ลงเขานั้น ระบบจะเปลี่ยนเป็นการขับขี่แบบ Hybrid-Parallel เครื่องยนต์และมอเตอร์ร่วมกันเพื่อสร้างพละกำลังเต็มที่ ช่วยให้รถคันนี้ขับขี่ได้อรรถรสไปอีกแบบ

สมกับที่มิตซูบิชิประกาศความชัดเจนว่า จะไม่ทิ้งลาย และ DNA ความเป็นมอเตอร์สปอร์ตของตัวเองไป

มิตซูบิชิตั้งให้เห็นกันจะจะว่ารถเอสยูวีคันนี้สามารถผ่านเส้นทางที่เป็นอุปสรรคไปได้

เริ่มต้นใช้ Gravel Mode สำหรับพื้นกรวด ลูกรัง วิ่งด้วยความเร็วเฉลี่ย 30-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จับอาการของรถเวลาเข้าโค้งบนทางลูกรังด้วยอาการท้ายบาน แต่ระบบของ YAC เข้ามาจับ ช่วยรักษาอาการของตัวรถ ดึงเอาตัวรถกลับเข้ามาตั้งตรงและให้เราขับผ่านไปได้แบบสบาย ๆ

ก่อนเข้าสู่ทางโคลน ลื่นปรับใช้ Mud Mode ตรงนี้ถ้าเป็นรถทั่วไปอาจจะต้องขับปรับเปลี่ยนไลน์หาเส้นทางใหม่ แต่ไม่ใช่ สำหรับมิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เราวิ่งเข้าทางโค้ง

เป็นเนินสลับซ้ายขวา ล้อปั่นโคลนกระจาย ไปต่อข้างหน้าไม่ได้ ถ้าเป็นคันอื่นทีมงานต้องให้ถอยหลัง แล้วตั้งลำหาไลน์ใหม่ แต่คันนี้ทีมงานให้เรากดคันเร่งมาเรื่อย

ปรากฏว่า “เฮ้ย…มันไปได้จริง” รถค่อย ๆ ตะกุยเลื่อนตัวออกมาได้มีอาการดิ้นอยู่บ้าง แต่คุมได้ง่ายเราผ่านอุปสรรคนั้นมาได้ จุดขายเด่นชัดขนาดนี้ เหลือแค่จะสื่อสารออกมาให้ผู้บริโภคได้สัมผัส รับรองยอดกระจาย

ความโดดเด่นอีกอย่างคือ ความฉลาดของ การจัดการระบบพลังงานที่ฉลาด ของกล่อง ECU ที่จะทำการคำนวณการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ให้เหมาะสมกับสภาพถนนและความเร็ว ที่สั่งการได้อย่างเนียน กับโหมดการขับขี่ทั้งหมด 7 โหมด แบ่งเป็น

5 โหมดสำหรับปรับพฤติกรรมรถ ได้แก่ 1.Normal Mode ปรับสมดุลทุกอย่าง เหมาะกับการใช้งานทั่วไป, 2.Tarmac Mode เน้นสมรรถนะ คันเร่งไว ระบบ AYC ทำงานสูงสุด, 3.Wet Mode เสริมความปลอดภัยบนพื้นลื่น Traction Control และ AYC ทำงานเร็วขึ้น, 4.Mud Mode ใช้ในเส้นทางโคลน, 5.Gravel Mode สำหรับพื้นกรวด ลูกรัง

และ 2 โหมดที่เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าโดยตรง ได้แก่ 6.EV Mode ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% เงียบและปล่อยมลพิษเป็นศูนย์, 7.EV Charge Mode เครื่องยนต์ทำงานเพื่อชาร์จแบตเตอรี่กลับเข้าไปในระบบ

ถึงตรงนี้ต้องชมว่า มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส เครื่องยนต์ดี ช่วงล่างใช้ได้ แม้เข้าโค้งจะไม่คมมาก

น่าจะเป็นรถอีกหนึ่งคันที่เหมาะกับการใช้งานในเมือง หรือนอกเมืองก็ไปได้ แถมเรื่องดีไซน์นั้นมาครบ ทั้งรูปร่างหน้าตา ความสปอร์ต แข็งแกร่งแฝงไปด้วยความหรูหรา ส่วนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาให้ครบครัน นั่งสบายทุกที่นั่ง

อาจจะติดนิดเดียว ห้องโดยสารตอนหลัง การปรับเอนเบาะนั่ง เป็นสายดึงเอาที่บริเวณด้านบนของพนักพิงใช้งานยาก และความเย็นที่อาจจะไม่ฉ่ำถึงใจอย่างที่หวัง

ราคาจำหน่าย มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส ราคา 899,000-1,089,000 บาท