“ออดี้” รุกปูพรมเครื่องดีเซล ประเดิม Q5-Q7 เร่งมือตั้งดีลเลอร์ทั่วประเทศ

“ออดี้” เดินเกมรุกตลาดระลอกใหญ่เปิดรับสมัครดีลเลอร์ทั่วประเทศเน้นหัวเมืองใหญ่ “เชียงใหม่-ภูเก็ต-ขอนแก่น-พัทยา” ตั้งเกณฑ์ทีโออาร์งบฯลงทุน 60-70 ล้าน พื้นที่ 2-3 ไร่พร้อมบริการครบวงจรแบบ 3 เอส ลั่น 2 ปี ครบ 10 แห่ง พร้อมเข็นรถใหม่กวาดตลาดทั้งคิว5 และคิว7 ดีเซล ดีเดย์ 18 สิงหาคมนี้

นายกฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออดี้ ประเทศไทย เปิดเผย”ประชาชาติธุรกิจ” ถึงแผนรุกตลาดครึ่งปีหลัง ว่า กำลังเร่งมือเพิ่มเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายเพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสรถออดี้ได้ ง่ายขึ้น จากเดิมที่มีเพียงโชว์รูมเพรชบุรีตัดใหม่และสำนักงานใหญ่เลียบทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา โดยช่วงแรกนี้จะพยายามผลักดันในพื้นที่ต่างจังหวัดก่อน เน้นหัวเมืองใหญ่ ได้แก่ เชียงใหม่-ขอนแก่น-ภูเก็ต และพัทยา

ทั้งนี้ บริษัทได้เปิดรับสมัครดีลเลอร์อย่างเป็นทางการเรียบร้อย คาดว่าภายในปีหน้าน่าจะเรียบร้อย มีเกณฑ์พิจารณาคัดสรรตามมาตรฐานบริษัทแม่ ออดี้เอจี ซึ่งจะพิจารณาเลือกพันธมิตรที่มีความตั้งใจจริง มีประวัติและผลงานเป็นที่น่าพอใจ มีทำเลที่ตั้งซึ่งเป็นไพรมแอเรีย พื้นที่ 2-3 ไร่ งบฯ ลงทุนต่อแห่งราว ๆ 60-70 ล้าน และจะต้องให้บริการครบวงจร ที่เรียกว่า 3 เอส 1.เซลส์ 2.เซอร์วิส และ 3 สแปร์พาร์ต ตามเป้าที่กำหนดไว้อีก 2 ปีน่าจะมีดีลเลอร์มากถึง 10 รายทั่วประเทศ

นายกฤษณะกรกล่าวอีกว่า และเพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ บริษัทพร้อมเปิดตัวรถใหม่อีก 2 รุ่น ออดี้ คิว5 ทั้งเครื่องยนต์ 2 ลิตร เบนซินและดีเซล ส่วนออดี้ คิว7 จะเป็นเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร โดยลูกค้าจะสามารถสัมผัสรถอย่างใกล้ชิดได้ที่ห้างเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ระหว่างวันที่ 18-20 สิงหาคม นอกจากนี้ บริษัทยังได้เข้าร่วมงานบิ๊กมอเตอร์เซล ที่ศูนย์ประชุมไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 19-27 สิงหาคมนี้ด้วย ภายในงานออดี้ยังมีข้อเสนอสุดพิเศษ เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกสรรและจับจองยนตกรรมคุณภาพจากออดี้ได้ง่ายขึ้น เช่น ดาวน์ต่ำ ผ่อนยาว และลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ออดี้ ทุกรุ่นทุกคัน ยังได้รับการประกันคุณภาพนาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ROADSIDE AS-SISTANCE 24 ชั่วโมง ตลอดระยะเวลา 5 ปีด้วย

ออดี้เป็นแบรนด์รถยนต์ในกลุ่มลักเซอรี่ติดอันดับท็อปทรีของ โลก มีฐานการผลิต 16 แห่งใน 12 ประเทศ ปี 2016 มีตัวเลขสะสมมากกว่า 1.87 ล้านคัน