ปีเตอร์ แม็คเคนซีย์ “เราจะทำให้คนหลงรักฮาร์เลย์”

เข้ามาทำตลาดในบ้านเราอย่างจริงจัง สำหรับค่ายรถจักรยานยนต์สัญชาติอเมริกัน “ฮาร์เลย์ -เดวิสสัน” แบรนด์ที่ใครหลายคนอยากสัมผัสและจับต้อง แน่นอนว่าการเข้ามาทำตลาดในบ้านเราครั้งนี้ของฮาร์เลย์ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะนอกจากนำเข้ารถเพื่อจำหน่ายแล้ว ฮาร์เลย์ยังแสดงความมุ่งมันที่จะลงหลักปักฐานใช้ไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ ด้วยการประกาศตั้งโรงงานผลิตรถจักรยานยนต์ฮาร์เลย์ในประเทศเพื่อรองรับความ ต้องการของตลาดในประเทศและภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก วันนี้

“ปีเตอร์ แม็คเคนซีย์” กรรมการผู้จัดการ ฮาร์เลย์ประเทศไทย เปิดโอกาสให้ “ประชาชาติธุรกิจ” สัมภาษณ์พิเศษกันถึงบ้าน ฮาร์เลย์ เดวิสสัน ยูนิเวอร์ซิตี้ เอเชีย แปซิฟิก ที่ว่ากันว่าเป็นสถานที่บ่มเพาะบุคลากรชั้นยอดของฮาร์เลย์เพื่อเตรียมความ พร้อมในการรองรับและให้บริการลูกค้าฮาร์เลย์ รวมทั้งเป้าหมายและทิศทางจากนี้

Q : แผนทำตลาดในประเทศไทย

การเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ครั้งนี้ หลังจากเรามีดิสทริบิวเตอร์มาเป็นระยะเวลาหลายปีแล้วโดยบริษัทแม่เข้ามาใน ประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบและจริงจังเมื่อปี 2558 กับ “ฮาร์เลย์ เดวิสสัน ยูนิเวอร์ซิตี้ เอเชีย แปซิฟิก” และต่อมาในปี 2559 ถึงปัจจุบันก็ได้เริ่มมีพนักงานเข้ามามากขึ้นสำหรับประเทศไทย เรามองว่าการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยครั้งนี้ สิ่งสำคัญคือ 1.เราต้องการเข้ามาใกล้ชิดลูกค้าเพิ่มมากขึ้นและอยากที่จะให้ลูกค้าเข้าถึง เราง่ายขึ้น 2.ภูมิภาคอาเซียนมีกลุ่มผู้มีรายได้ระดับกลางเพิ่มมากขึ้นและเป็นกลุ่มที่มี ขนาดใหญ่ เป็น

กลุ่มที่จะมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นในอนาคต เมื่อมาดูแล้วประเทศไทย ถือเป็นจุดที่ลงตัวสามารถตอบโจทย์ได้หลาย ๆ อย่างที่เราต้องการ การเข้ามาลงทุนของฮาร์เลย์ในประเทศไทยครั้งนี้ถือเป็นจำนวนมหาศาลไม่ใช่แค่การทำโรงงาน แต่เราลงทุนเรื่องบุคลากร และโนว์ฮาวต่าง ๆ เพราะต้องการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

Q : มองประเทศไทยเป็นฮับ

แผนการดำเนินธุรกิจของเรา แต่ถือว่าไทยเป็นส่วนหนึ่งในแผนกลยุทธ์ของเราเพื่อขยายธุรกิจของฮาร์เลย์ใน ระดับอินเตอร์เนชั่นแนล หรือ พูดง่าย ๆ ว่าฮาร์เลย์มองว่าอะไรก็ได้ที่เป็นการขยายธุรกิจออกมานอกเหนืออเมริกานั้น เองถือว่าสำคัญเหมือนที่เราขยายไป จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย สิงคโปร์ ที่มีลักษณะคล้ายของประเทศไทย วันนี้เราไม่มีดิสทริบิวเตอร์แล้ว เรามีแต่ดีลเลอร์ เพราะเรามีฮาร์เลย์ ประเทศไทย เรากลายเป็นผู้นำรถเข้ามาจำหน่ายไปยังดีลเลอร์ทั่วประเทศ เพื่อให้ดีลเลอร์ขายรถไปยังลูกค้าของเรา ฮาร์เลย์เราให้ความสำคัญกับดีลเลอร์ค่อนข้างมาก เพราะว่าดีลเลอร์โอเปอเรเตอร์จะเป็นผู้เข้าถึงลูกค้าและดูแลลูกค้าปัจจุบัน เรามีดีลเลอร์ 9 แห่ง กรุงเทพฯ 3 แห่ง รวมทั้งพัทยา ภูเก็ต ขอนแก่น อุบลราชธานี และหาดใหญ่ อนาคตเราก็ศึกษาถึงโอกาสการขยายเพิ่มศูนย์จัดจำหน่ายด้วย ลูกค้าของฮาร์เลย์ปัจจุบันไม่ได้มีแต่มอเตอร์ไซค์เท่านั้นเรายังมีสินค้า อื่นที่เป็นไลฟ์สไตล์ เป็นแฟชั่น ลูกค้ากลุ่มนี้ถือว่าเรามีเสื้อผ้า นาฬิกา อุปกรณ์ เครื่องประดับต่าง ๆ ด้วย ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้มีจำนวนเยอะมากและเชื่อว่าจะเป็นกลุ่มที่ผลักดันให้เรา เติบโตในอนาคตได้อย่างแน่นอน

Q : ทำไมฮาร์เลย์เลือกประเทศไทย

ในอาเซียนเรามีประชากร 600 ล้านคน จีดีพี ค่อนข้างสูง 2.5 แสนล้านเหรียญ และมี 67 ล้านครอบครัวที่มีรายได้ค่อนข้างสูง และฮาร์เลย์มองว่ากลุ่มชนชั้นกลางจะเติบโตแบบดับเบิลภายในปี 2568 โดยคนกลุ่มนี้จะมีรายได้เพิ่มขึ้น ในปี 2555 มี 190 ล้านคนที่มีรายได้ต่อการใช้จ่าย 16-100 เหรียญต่อวันและวันนี้ผ่านมา 5 ปีแล้วตัวเลขนี้จะต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน และประเทศไทยมีประชากร 67 ล้านคน และเป็นตลาดรถจักรยานยนต์ค่อนข้างมีความต้องการรถบิ๊กไบก์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

Q : การผลิตจะเริ่มได้เมื่อไหร่

เพื่อให้มั่นใจว่า เรามีประสบการณ์ที่ดีในการดูแลลูกค้าของเรา เราอยู่ระหว่างการลงทุนเพื่อตั้งโรงงานผลิตรถจักรยานยนต์ฮาร์เลย์ใน ประเทศไทยที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด จังหวัดระยอง โรงงานระยอง นี้ถือเป็นโรงงานแห่งที่ 5 ของฮาร์เลย์ทั่วโลก ที่มีอยู่ในอเมริกา 2 แห่ง, บราซิล และอินเดีย ประเทศไทยละ 1 แห่ง และไทยยังถือเป็นประเทศ ที่ 3 ที่บริษัทตัดสินใจออกไปตั้งโรงงานผลิต โรงงานแห่งนี้จะต้องอยู่บนพื้นที่ขนาด 20,000 ตารางเมตร กำลังผลิตส่วนใหญ่สามารถยืดหยุ่นเพื่อเป็นการรองรับกับความต้องการของตลาดใน ประเทศไทย และตลาดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกเป็นหลัก และโรงงานแห่งนี้ยังมีความยืดหยุ่นในการผลิตค่อนข้างสูง และโรงงานแห่งนี้ถือเป็นโรงงานที่มีความสำคัญกับเราค่อนข้างมาก และปลายปี 2561 เราจะเริ่มดำเนินการผลิตได้

Q : แผนงานระยะสั้นสำหรับไทย

กลยุทธ์สำคัญของการบุกตลาดต่างประเทศ รวมทั้งประเทศไทยครั้งนี้ว่า มีเป้าหมายหลัก 5 ด้านที่สำคัญ ได้แก่ 1.การเพิ่มจำนวนดีลเลอร์และจำนวนผู้ขับขี่ฮาร์เลย์ให้มากขึ้น ซึ่งวันนี้ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว

2.เพิ่มสัดส่วนยอดขายระหว่างตลาดนอกอเมริกาและอเมริกาให้อยู่ในสัดส่วน 50/50 3.ภายในระยะเวลา 10 ปี

จากนี้ฮาร์เลย์จะส่งรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดจำนวน 100 รุ่น โดยขณะนี้มีออกมาแล้ว 2 รุ่น และในเร็วนี้จะมีเพิ่มอีก 1 รุ่น 4.การลงทุนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง 5.การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น จักรยานยนต์อีวี (ไฟฟ้า) ออกสู่ตลาด