โตโยต้า ส่ง 3 รุ่น ลุยตลาด เปิดตัว ‘ยาริส เอทีฟ ไฮบริด’ 21 สิงหาคมนี้

ศุภกร รัตนวราหะ
ศุภกร รัตนวราหะ

โตโยต้า งัดแผนงานครึ่งปีหลัง ส่ง 3 รุ่นใหม่ทำตลาด 3 เซกเมนต์ มาครบ ทั้ง ยาริส เอทีฟ ไฮบริดเจนล่าสุด เปิดตัว 21 สิงหาคม 2568นี้ ตามด้วยปิกอัพ ไฮลักซ์ และรถ อีวี BZ4X ในเดือนตุลาคมหวังกระตุ้น ตลาดมั่นใจปีนี้ขายที่ 2.31 แสนคัน

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด (Toyota) เปิดเผย ตลาดรถยนต์ในช่วงครึ่งปีแรก 302,000 คัน ลดลง 3% ส่วนโตโยต้ามียอดขายทั้งสิ้น 114,000 คัน มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ระดับ 37.6%

สำหรับภาพรวมของตลาดปีนี้โตโยต้า ประเมินว่า ทั้งปีน่าจะมียอดขายที่  600,000 คัน และ โตโยต้า ยังคงยืนยันเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 231,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 5% โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 38.5%

โดยบริษัทได้เตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ สำหรับทำตลาดในช่วงครึ่งปีหลังถึง 3 รุ่นได้แก่โตโยต้ายารีส เอทีฟ ไฮบริด (HEV),โตโยต้า ไฮลักซ์ ใหม่ และรถยนต์ไฟฟ้า 100% (EV) อย่าง BZ4X รุ่นนำเข้า(ซีบียู) มาจำหน่าย

ยาริส เอทีฟทั้งนี้ใน วันที่ 21 สิงหาคม 2568 บริษัทจะเริ่มต้นด้วยการเปิดตัวรถยนต์นั่งขนาดเล็กอย่างโตโยต้า ยาริส เอทีฟ ไฮบริด (HEV) ที่ออกสู่ตลาด โดยมี 2 รุ่นย่อย และจะทำตลาดควบคู่ไปกับรถยนต์นั่ง ยาริส เอทีฟ รุ่นเครื่องยนต์สันดาป (ICE) เพื่อเป็นทางการเลือกให้กับผู้บริโภค

สำหรับตลาดรถ xEV ในปัจจุบันมีความต้องการ 150,000 คัน คิดเป็น 25% ของตลาดรถยนต์โดยที่ 600,000 คัน ซึ่งแบ่งเป็นรถยนต์ไฮบริด มีส่วนแบ่งคิดเป็น 50.8%

ทั้งนี้ โตโยต้า ตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรถยนต์ ยาริส เอทีฟ ไฮบริด ไว้ที่ 50% ของตลาดรถยนต์ไฮบริดโดยรวม ส่วนรถอีกสองรุ่น รถยนต์ปิกอัพ ไฮลักซ์ และ BZ4X จะเปิดตัวในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

ADVERTISMENT

มอเตอร์โชว์นายศุภกร ยังกล่าวว่าตลาดรถยนต์ยังคงได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากความเข้มงวดของการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งโตโยต้า ลีสซิ่ง เริ่มเห็นเทรนด์มาตั้งแต่ปลายปีที่ 2567 พบว่า มีอัตราการปฎิเสธถึง 20% ขณะที่กลุ่มรถปิกอัพยอดปฏิเสธ สูงถึง 30%

และแม้ว่าช่วงที่ผ่านมารัฐบาลจะมีนโยบายช่วยเหลือ ผ่านมาตรการ บสย. กระพี่มีคลังค้ำ แต่พบว่ายังไม่สามารถช่วยกระตุ้นตลาดได้มากนัก เนื่อจาก สถาบันการเงินที่เข้าร่วมอาจจะไม่ตรงกลุ่มความต้องการของตลาด

“เดิมเราหวังมาตรการ บสย.จะกระตุ้นตลาดได้ แต่เมื่อดำเนินการจริง พบว่าแคปทีฟ ไฟแนนซ์ ที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรงนั้น ไม่ได้เข้าร่วม แต่ยังดำเนินการอยู่ ทำให้มาตรการดังกล่าวอาจจะมีความล่าช้ากว่าที่ค่ายรถคาดไว้ แต่ละธนาคารรับกลุ่มลูกค้าต่างกัน”

ทั้งนี้โตโยต้าเชื่อว่า หากมีการเปิดกว้างให้แคปทีฟ ไฟแนนซ์ของค่ายรถสามารถเข้าร่วมโครงการฯได้ น่าจะช่วยผลักดันและกระตุ้นตลาดได้ ซึ่งโตโยต้า มีลูกค้าใช้โตโยต้า ลิสซิ่ง สูงกว่า 62% ตรงนี้หากสามารถเข้าร่วมมาตรการดังกล่าวได้น่าจะขับเคลื่อนตลาดได้

“ตลาดโดยรวมว่าไม่ได้แย่มากนัก ตลาดยังคงมีดีมานด์เพียงแต่ติดขัดเรื่องสินเชื่อ โดยตลาดรถปิกอัพเป็นตลาดที่กระบะกระทบหนักสุด เราเองก็หวังว่ามาตรการต่างๆที่ออกมาจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและตลาดรถยนต์ได้บ้าง”

สำหรับแคปทีฟ ไฟแนนซ์ (Captive Finance) คือ บริการทางการเงินที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ หรือผู้จำหน่ายรถยนต์จัดตั้งขึ้นเอง หรือร่วมมือกับสถาบันการเงิน เพื่อให้บริการสินเชื่อแก่ลูกค้าที่ต้องการซื้อรถยนต์จากบริษัทนั้นๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการขายและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในการเข้าถึงสินเชื่อได้