ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน เปิดวิชั่น 2022 “มอร์ โรด ทู ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน” ครอบคลุมทุกภาคส่วน เริ่มจากเพิ่มขุนพลนักบิด-แตกเซ็กเมนต์เครื่องยนต์ไซซ์เล็ก-ยกระดับแบรนด์-สร้างเน็ตเวิร์กครอบคลุมทุกพื้นที่ หวังสร้างกำไรผู้ถือหุ้นและเม็ดเงินในอุตสาหกรรมบิ๊กไบก์
นายแมตต์ ลาวาทิช ประธานบริษัทและประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน เผยถึงแผนธุรกิจซึ่งเริ่มตั้งแต่ปีนี้ไปจนถึงปี 2022 มอร์ โรด ทู ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน (More Roads to Harley-Davidson) ทำขึ้นเพื่อการกระตุ้นการเติบโตในอุตสาหกรรมบิ๊กไบก์
“แผนงานที่ชัดเจนนี้จะช่วยยกระดับศักยภาพและอำนาจทางการแข่งขันอันแข็งแกร่งของฮาร์ลีย์-เดวิดสัน เราจะปฏิวัตินิยามของอิสรภาพแห่งการขับขี่ยานยนต์สองล้อไปอีกขั้น เพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก่นักขี่รุ่นใหม่ในอนาคต ควบคู่ไปกับการรักษากลุ่มนักขี่ที่ภักดีต่อแบรนด์ของเราในปัจจุบัน”
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- ออมสิน เปิดให้กู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์ ลดดอกเบี้ย 4 กลุ่ม เช็กเลย !
- เปิดไทม์ไลน์ลูกค้าซิตี้แบงก์ต้องรู้! ก่อนโอนย้ายบัญชีมาเป็น “ยูโอบี” 21 เม.ย.นี้
สำหรับวิชั่น “มอร์ โรด ทู ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน” ประกอบด้วย แนวคิดในการเชิญชวนนักขี่มอเตอร์ไซค์ในปัจจุบันให้มีส่วนร่วมกับแบรนด์ และสร้างแรงบันดาลใจแก่นักขี่รุ่นใหม่ สร้างความเข้มแข็งให้กับผู้แทนจำหน่าย เพื่อยกระดับประสิทธิภาพ ให้เกิดการปฏิบัติงานที่ดีที่สุด และการนำเสนอมอเตอร์ไซค์ความจุเครื่องยนต์ขนาดเล็กที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่าย เครื่องยนต์ 250-500 ซีซี สำหรับตลาดเกิดใหม่ในเอเชียรวมถึงเป็นผู้นำของตลาดรถมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้า ผ่านการเปิดตัวมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรก LiveWire (ไลฟ์ไวร์) ในปี ค.ศ. 2019 ซึ่งจะเป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสองล้อหน้ากว้างแบบไม่มีคลัตช์ และจะมีรุ่นใหม่ ๆ เพิ่มเติมไปจนถึงปี ค.ศ. 2022 เพื่อเพิ่มทางเลือกผลิตภัณฑ์มอเตอร์ไซค์ที่มีน้ำหนักเบาขนาดเล็ก และเข้าถึงได้ง่ายให้มากยิ่งขึ้น
นายลาวาทิชกล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทยังคาดหมายให้วิชั่น 2020 สามารถสร้างมูลค่าที่เพิ่มมากขึ้น และทำให้ธุรกิจในปัจจุบันมีความมั่นคงและแข็งแกร่ง เพิ่มอัตราผลตอบแทนของบริษัท ทำให้บริษัทสามารถจ่ายผลตอบแทนเงินสดแก่ผู้ถือหุ้นได้มากยิ่งขึ้น
“โดยรวมแล้วเชื่อว่ากลยุทธ์ทั้งหมดนี้จะสามารถสร้างรายได้ต่อปีเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ในปี ค.ศ. 2022 เมื่อเปรียบเทียบกับปี ค.ศ. 2017”
