“เมอร์เซเดส-เบนซ์” เปิดตัว ที่สุดเเห่งความหรูหราเอส-560 คูเป้ เอเอ็มจี พรีเมี่ยม และ เอส-560 คาบริโอเลต์ เอเอ็มจี พรีเมี่ยม

นายไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ของรถตระกูล เอส-คลาส ในกลุ่มดรีม คาร์ อย่างรุ่น “เอส-560 คูเป้ เอเอ็มจี พรีเมี่ยม และ เอส-560 คาบริโอเลต์ เอเอ็มจี พรีเมี่ยม”

รถทั้ง 2 รุ่น ได้รับการยกระดับมาตรฐานรถระดับหรูในกลุ่มลักชัวรี่คูเป้และคาบริโอเลต์อีกขั้น เพื่อรองรับความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบความหรูหรา โฉบเฉี่ยว และทรงพลัง ที่การสะท้อนคำว่า ‘หรูหราร่วมสมัย’ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้เป็นอย่างดี

โดยจำหน่ายในราคา 15.99 ล้านบาท และ 16.72 ล้านบาท ตามลำดับ

“เอส-คลาส” ถือเป็นหนึ่งในรถรุ่นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ นับตั้งแต่เปิดตัวสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2515 และเป็นรถที่สร้างยอดขายรวมแล้วกว่า 4,000,000 คัน

ดังนั้น การเปิดตัวรถรุ่นใหม่ทั้ง 2 รุ่น เพื่อเป็นการสานต่อเจตนารมณ์ในการมอบ “สิ่งที่ดีที่สุด” ให้แก่ลูกค้าพร้อมสะท้อนคุณค่าของแบรนด์ ทั้งในด้านความหลงใหล และความสมบูรณ์แบบ

ภายนอกได้รับการออกแบบให้เป็นรถสไตล์สปอร์ต 2 ประตู ไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System ตกแต่งด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้ถึง 47 ชิ้น ที่ไฟ Daytime running lamps ความสวยงามและส่องสว่างได้อย่างชัดเจน

ไฟเลี้ยว ทั้งเป็น 2 รุ่นในตระกูล เอส-คลาส ที่ติดตั้งไฟท้ายแบบ (Organic Light Emitting Diode) ซึ่งเป็นหลอดไดโอด เปล่งแสงขนาดบางที่เคลือบใต้กระจกของไฟหลัง จำนวน 33 ชิ้น ต่อ 1 ข้าง ทำหน้าที่ควบคุมตำแหน่งและความสว่างของแสงได้

โดดเด่นด้วยลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ กระจังหน้า Diamond grille สีเงิน พร้อมลายโครเมียม 1 แถบ และตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ บนฝากระโปรงหน้าที่ยาว เพิ่มความดุดัน ด้วยชุดแต่งสปอร์ตแบบเอเอ็มจี คิ้วโครเมียมตกแต่งบริเวณชายกันชนด้านหน้า, ปลายท่อไอเสียคู่, ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน, สัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ บนคาลิปเปอร์ เบรก และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจากเอเอ็มจี แบบ 10-spoke ขนาด 20 นิ้ว ตกแต่งด้วยสี Titanium Grey

รุ่น “เอส-560 คูเป้ เอเอ็มจี พรีเมี่ยม” มาพร้อมกับหลังคาพาโนรามิคซันรูฟแบบ MAGIC SKY CONTROL มีความยาวถึง 2 ใน 3 ของความยาวหลังคา หรือมีพื้นที่ประมาณ 1.32 ตารางเมตร ที่สามารถปรับความเข้มของกระจกได้เพียงกดสวิตช์ เพื่อกรองแสงที่เข้ามาได้ โดยพาโนรามิคซันรูฟนี้

ส่วน ”รุ่นเอส-560 คาบริโอเลต์ เอเอ็มจี พรีเมี่ยม” หลังคาแบบ fabric soft-top ที่มีความหนาถึง 3 ชั้น ชั้นนอกสุดเคลือบสารบูทีล (butyl) ซึ่งทำให้รถยนต์มีระดับเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารน้อยที่สุด หลังคาสามารถ กางเปิดหรือพับปิดได้ในเวลาเพียง 19 วินาที ขณะที่รถวิ่งที่ความเร็วสูงสุด 50 กม./ชม. อีกทั้งยังมาพร้อมกับแผงบังคับทิศทางลม (AIRCAP) อีกด้วย

การออกแบบภายใน นับเป็นการสร้างนิยามอีกขึ้นของความสะดวกสบาย เช่นเดียวกับเมอร์เซเดส-มายบัค เอส560 ติดตั้งระบบ ENERGIZING Comfort Control ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน
เช่น การปรับโทนสีของไฟภายในห้องโดยสาร Premium Ambient Light ระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียง รวมถึงโปรแกรมนวดของเบาะที่นั่งด้านหน้า 4 แบบ ช่วยให้ผ่อนคลายตลอดการเดินทาง เบาะนั่งหุ้มหนัง Nappa แบบ Exclusive package ตัดเย็บลายเบาะแบบ diamond design, หน้าจอกว้างแบบ Widescreen Cockpit และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสปอร์ต

รถทั้ง 2 รุ่นใช้เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 3,982 ซี.ซี. 8 สูบ เทอร์โบคู่ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 469 แรงม้า ที่ 5,250-5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร ที่ 2,000-4,000 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. มาพร้อมกับระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC

พร้อมระบบปรับรูปแบบขับขี่ DYNAMIC SELECT ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกได้ทั้งหมด 5 แบบตามสไตล์การขับขี่ของตนเอง คือ ECO, Comfort, Sport, Sport+ และ Individual

ภายในห้องโดยสารยังได้รับการติดตั้งระบบ Night View Assist Plus ระบบที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่เห็นคนเดินถนน หรือสัตว์ขนาดใหญ่ในที่มืด โดยการใช้แสงอินฟราเรดและกล้องอินฟราเรดระยะใกล้และไกล ในการมองเห็นเพื่อลดอุบัติเหตุในที่มืด, ระบบ Crosswind Assist ระบบที่จะช่วยประคองรถไม่ให้หลุดออกนอกเส้นทางเมื่อมีลมแรง, ระบบ MAGIC VISION CONTROL ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ระบบฉีดน้ำกระจกหน้าจากก้านปัดน้ำฝน ที่น้ำจะฉีดไปที่บริเวณด้านหน้าของใบปัดขณะทำการปัด

ระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display), ระบบป้อนเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร, ฟังก์ชั่นปรับสมดุลอากาศภายในห้องโดยสาร (AIR BALANCE package), ระบบ COMAND Online, ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Apple CarPlay™ & Android Auto, ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless charging), ระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ Bluetooth ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย touchpad และระบบเสียง รอบทิศทาง Burmester® high end 3D surround sound system

รุ่น “เอส-560 คูเป้ เอเอ็มจี พรีเมี่ยม และ เอส-560 คาบริโอเลต์ เอเอ็มจี พรีเมี่ยม” ยังมาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่และระบบ ความปลอดภัยสูงสุด ทั้งสำหรับผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และผู้ร่วมใช้ถนน ที่ไม่เคยมีในรถรุ่นนี้มาก่อน อาทิ ระบบเรดาร์ ตรวจจับรถจากด้านหลัง ที่วิ่งเข้ามาด้วยความเร็วและเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ ไฟกระพริบฉุกเฉินจะกระพริบถี่มากกว่าปกติ เพื่อเตือนผู้ขับขี่รถคันหลัง จากนั้นระบบจะรัดเข็มขัดนิรภัยให้กระชับขึ้น ระบบเบรกจะล็อคล้อทั้งสี่ไว้ให้อยู่กับที่ พร้อมปรับพนักพิงคอเพื่อช่วยลดความเสี่ยงของอาการบาดเจ็บบริเวณคอ หากมีการชนเกิดขึ้น และถ้าเป็นด้านข้างซ้าย-ขวา ถุงลมนิรภัยด้านข้างจะทำงานโดยผลักไปอยู่ตรงกลาง เพื่อปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารจากแรงกระแทก

เอส-560 คูเป้ เอเอ็มจี พรีเมี่ยมยังมี ระบบ Active Emergency Stop Assist ในกรณีที่ผู้ขับขี่ไม่มีการตอบสนองต่อการขับขี่เป็นเวลานาน โดยระบบจะส่งสัญญาเตือนเพื่อให้ผู้ขับขี่ประคองพวงมาลัย แต่ถ้าไม่มีการตอบสนองระบบจะหยุดรถอัตโนมัติ พร้อมเปิดระบบไฟฉุกเฉิน, ระบบ Active Braking Assist และฟังก์ชัน Cross-Traffic เทคโนโลยีที่ช่วยหลีกเลี่ยงการชนกับรถยนต์คันอื่น หรือคนเดินถนนในบริเวณทางแยก จากสัญญาณเรดาร์ และกล้อง MPC โดยระบบช่วยเบรก หรือช่วยลดความเร็วรถอัตโนมัติ

ระบบช่วยหลบหลีกการชนจากด้านหน้า (Evasive Steering Assist) ด้วยสัญญาเรดาร์และกล้อง MPC, ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Active Distance Assist DISTRONIC) ทำงานด้วยสัญญาณเรดาร์, ระบบช่วยเตือนจุดบอดสายตา (Active Blind Spot Assist), ระบบช่วยเตือนให้ขับรถในช่องทาง (Active Lane Keeping Assist), ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot including Active Parking Assist) และ ฯลฯ