ลามิน่าปรับใหญ่ปั้นแบรนด์ฮีโร่ ผุดช้อป “แอลทิเมต “ลั่น 3 ปี ขายทะลุพันล้าน
นางสาวจันทร์นภา สายสมร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสูงสุด บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด เปิดเผยถึงแผนธุรกิจของบริษัทในช่วง 2-3 ปีจากนี้ว่า จะเดินไปสู่เป้าหมายรายได้ 1,000 ล้านบาท ภายในปี 2563 และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวบริษัทได้ตัดสินใจปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ เพื่อสร้างความชัดเจนและกระชับขั้นตอนในการบริหารงาน โดยหลัก ๆ จะมีทีมผู้บริหารใหญ่ 3 คน คือ ตนเอง ซีอีโอประธานเจ้าหน้าที่บริหารสูงสุด, ซีโอโอประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ คุณจันดา สายสมรและซีซีโอประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการพาณิชย์ คุณณรงค์ชัย สายสมร
ส่วนระดับย่อยลงไปดูแลระดับชั้นในสายงานของตนเอง เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน รวมทั้งเปิดรับพนักงานใหม่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัท ทั้งส่วนงานขายและการตลาด
ทั้งนี้ เพื่อเป็นไปตามนโยบายและยุทธศาสตร์ของบริษัทที่ต้องการก้าวขึ้นสู่ความเป็นมืออาชีพ และเป็นองค์กรที่มีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น
“เราปรับโครงสร้างองค์กรมาสักระยะแล้ว ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากพนักงานในทุกส่วน ซึ่งถือเป็นความโชคดีของเรา เพราะวัฒนธรรมองค์กรของเราทุกคนมีความเข้าใจว่าทำไมเราถึงต้องเปลี่ยนแปลงการบริหารจัดการ เพราะหากเรายังอยู่เฉย ๆ ก็จะล้าหลัง และองค์กรจะแข่งขันกับคนอื่นไม่ได้ ซึ่งทุกคนเข้าใจและพร้อมจะเดินหน้าไปด้วยกัน”
นอกจากนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายข้างต้นแล้ว ได้เตรียมรุกตลาดและแนะนำสินค้าแบรนด์ฮีโร่ของบริษัทภายใต้ศูนย์ “แอลทิเมต (Ltimate)” ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมสินค้าในกลุ่มฮีโร่ของบริษัท ประกอบไปด้วย ฟิล์มกรองแสงรถยนต์และอาคาร “ลามิน่า”, ฟิล์มกลุ่มพิเศษ “ลูมาร์” โดยซีพีฟิล์มอิงก์ มาตรฐานไอเอสโอ 9001 ในเครือบริษัท อีสท์แมน เคมิคอล สหรัฐอเมริกา นวัตกรรมเคลือบปกป้องรถยนต์ เรือ อากาศยาน “ไทรบอส” จากอังกฤษ, ลำโพงติดรถยนต์ระดับไฮเอนด์
“โซนิค ดีไซน์” จากญี่ปุ่น และฟิล์มนิรภัยติดกระจกด้านนอกรถคุณภาพสูง “เบรย์” จากสหรัฐอเมริกา
โดยศูนย์ “แอลทิเมต (Ltimate)” บริษัทอยู่ระหว่างการเปิดรับพันธมิตรทางธุรกิจที่สนใจเข้าร่วมลงทุน โดยเบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบประมาณในการลงทุนที่ 2 ล้านบาท ซึ่งศูนย์จะต้องมีพื้นที่อย่างน้อย100 ตารางเมตร ทั้งนี้ บริษัทได้เปิดศูนย์ “แอลทิเมต” สาขาแรกที่ จ.ชลบุรี ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีแผนจะขยายเพิ่มอีก 3 แห่งภายในปีนี้
ส่วนปีหน้าตั้งเป้าจะเพิ่มอีก 7 แห่ง และตั้งเป้าจะมีรายได้จากศูนย์ดังกล่าวที่ 20 ล้านบาท และ 50 ล้านบาทภายในปี 2563
นางสาวจันทร์นภายังกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับปีนี้บริษัทตั้งเป้าจะมีรายได้ที่ 850 ล้านบาท แบ่งออกเป็น ธุรกิจฟิล์มกรองแสง 95% และอื่น ๆ 5% และมีอัตราการเติบโตอย่างน้อยที่ 10% ทุกปี
โดยในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา มีรายได้ไปแล้วถึง 480 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนระหว่างการติดฟิล์มโชว์รูมรถยนต์ 80% หรือจากโชว์รูมรถยนต์ที่มีกว่า 2,000-2,500 แห่งทั่วประเทศ และการติดฟิล์มผ่านช่องทางจัดจำหน่าย 20% ที่มีร้านค้า-ประดับยนต์ต่าง ๆ มีประมาณ 3,000 แห่งและในจำนวนนี้ ลามิน่ามีพันธมิตรที่เป็นโชว์รูมรถยนต์อยู่ 1,400 แห่งทั่วประเทศ และร้านค้า ร้านประดับยนต์อีก 660 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งยังมี ลามิน่า เอ็กซ์คลูชีฟช็อป อีก 60 แห่ง
