“เอชพี” ใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติ ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์

หลังจากเอชพี อิงก์ได้เปิดตัว HP Metal Jet เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ ที่ทันสมัยที่สุดในโลกในงานแสดงเทคโนโลยีการผลิตระหว่างประเทศ 2562 (2018 IMTS) ที่ผ่านมา สำหรับการผลิตชิ้นส่วนโลหะคุณภาพสูง ต้นทุนต่ำ แต่ให้ประสิทธิภาพการผลิตสูงขึ้น 50 เท่าเมื่อเทียบกับการผลิต 3 มิติวิธีอื่น ๆ ซึ่ง HP Metal Jet มีการติดตั้งในสายการผลิตของโรงงาน GKN Powder Metallurgy และ Parmatech สำหรับลูกค้าที่วางคำสั่งซื้อ อย่าง Volkswagen และ Wilo รวมถึงผู้นำตลาดอื่น ๆ Medical Group และ OKAY Industries

ด้าน ดิออน ไวสเลอร์ ซีอีโอและประธาน เอชพี อิงก์ เปิดเผยว่า เอชพีอยู่ท่ามกลางการปฏิวัติอุตสาหกรรมยุคดิจิทัล ที่จะพลิกโฉมการผลิตมูลค่าสูงถึง 12 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเอชพีได้ช่วยผลักดันการเปลี่ยนแปลงนี้มาโดยตลอด ด้วยการเป็นผู้บุกเบิกการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกแบบ 3 มิติ

และปัจจุบัน เทคโนโลยี HP Metal Jet การพิมพ์โลหะ 3 มิติ metal 3D printing จะสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ให้กับภาคยานยนต์ ภาคอุตสาหกรรม และวงการการแพทย์ ที่แต่ละปีมี

การผลิตชิ้นส่วนโลหะหลายแสนล้านชิ้น นับได้ว่าการพิมพ์ metal jet 3D ล่าสุดของเอชพีและบริการด้านการผลิตได้ช่วยปลดล็อกปัญหาด้านความเร็ว คุณภาพ และต้นทุนเพื่อให้ลูกค้าปรับกลยุทธ์ วิธีการออกแบบวิธีการผลิตและนำเสนอสิ่งใหม่ ๆ ในยุคดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์

สำหรับร่วมมือกับ GKN Powder Metallurgy ติดตั้ง HP Metal Jet ในโรงงานเพื่อผลิตชิ้นส่วนโลหะสำหรับผู้ผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำ เช่น Volkswagen และ Wilo โดย GKN Powder Metallurgy เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนผลิตภัณฑ์ชั้นนำของโลกด้วยเทคโนโลยีผงโลหะภายใต้แบรนด์ GKN Sinter Metals, GKN Hoeganaes และ GKN

Additive Manufacturing ในแต่ละปีจะผลิตชิ้นส่วนมากกว่า 3,000 ล้านชิ้น และคาดว่าจะสามารถเพิ่มกำลังการพิมพ์ชิ้นส่วนโลหะจาก HP Metal Jet ได้มากถึงล้านชิ้น สำหรับลูกค้าทั้งภาคอุตสาหกรรมได้ภายในต้นปี 2562

นายปีเตอร์ โอเบอร์พาไลเตอร์ CEO-GKN Powder Metallurgy กล่าวว่า โฟล์คสวาเกนคือหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุด และมีนวัตกรรมมากที่สุดในโลก กำลังผนวก HP Metal Jet เข้ากับแผนการออกแบบและการผลิต ความร่วมมือระหว่างครั้งนี้ ส่งผลให้การผลิตชิ้นส่วนที่ต้องการเป็นจำนวนมาก เช่น ชิ้นส่วน key ring และแผ่นป้ายชื่อภายนอกตัวรถ ภายใต้แผนการผลิตในระยะยาวของ VW ใช้ HP Metal Jet เพื่อการผลิตชิ้นส่วนที่มีสมรรถนะสูงขึ้นในโครงสร้างที่สำคัญ เช่น กระปุกปรับเกียร์และตัวยึดกระจก และเมื่อถึงเวลาที่แพลตฟอร์มใหม่ของสายผลิตรถยนต์ไฟฟ้าปริมาณมากจะเริ่มต้นและคาดว่า HP Metal Jet จะมีบทบาทเพิ่มมากขึ้นในการผลิตชิ้นส่วนโลหะน้ำหนักเบาที่ผ่านการรับรองความปลอดภัย

ด้าน ดร.มาร์ติน เกอเดอร์ หัวหน้าฝ่ายวางแผนและพัฒนาเทคโนโลยี โฟล์คสวาเกน เปิดเผยว่า “อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเข้าสู่ยุคปฏิวัติ ไม่เพียงลูกค้าจะได้รถยนต์ที่มีเอกลักษณ์เท่านั้น แต่ภายในปี 2568 โฟล์คสวาเกน กรุ๊ป จะมีโมเดลรถยนต์ไฟฟ้าใหม่อีกถึง 80 รุ่น”

“รถยนต์ 1 คันประกอบด้วยชิ้นส่วนที่แตกต่างกันตั้งแต่ 6,000-8,000 กว่าชิ้นดังนั้นเทคโนโลยี HP Metal Jetได้ทำประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ ช่วยให้สามารถผลิตชิ้นส่วนเหล่านี้ได้หลากหลายโดยไม่ต้องสร้างเครื่องมือการผลิต และช่วยลดเวลาการผลิต ทำให้ผลิตชิ้นส่วนจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว นี่เป็นเหตุผลที่ HP Metal Jet เป็นก้าวกระโดดที่ยิ่งใหญ่สำหรับอุตสาหกรรมนี้ ส่งผลดีให้ผู้ผลิตอย่างเราสามารถยกระดับความเป็นผู้นำเพื่อมอบคุณค่าและนวัตกรรมให้กับลูกค้าของเรามากขึ้น


“เราอาจยังไม่สามารถผลิตรถยนต์ทั้งคันด้วยการพิมพ์ 3 มิติได้ในเร็ว ๆ นี้ แต่การผลิตชิ้นส่วนจะเพิ่มมากขึ้น และขนาดของชิ้นส่วนจะใหญ่ยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต และเป้าหมายของเราคือการผสมผสานชิ้นส่วนที่เกิดจากการพิมพ์ 3 มิติให้อยู่ในรถยนต์รุ่นต่อไปได้มากที่สุดและรวดเร็วที่สุด” ดร.เกอเดอร์กล่าว