มาสด้าส่งเพิ่มอีก 6 รุ่นเสริมทัพ ทั้งเก๋ง อเนกประสงค์ และรถครอสโอเวอร์ ระบุชัดมาแน่ปีนี้ “มาสด้า3 ไฮบริด” ปลื้มปี 2561 ระเบิดฟอร์มทำสถิติใหม่ทะลุ 7 หมื่นคัน ชี้เศรษฐกิจปีหมูทองสดใส
นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า แผนรุกตลาดปีนี้ว่ายังเน้น 1.การนำเสนอโปรดักต์ใหม่ ซึ่งจะมีด้วยกันถึง 6 รุ่น ทั้งรถเก๋ง รถอเนกประสงค์ และรถครอสโอเวอร์ มาพร้อมดีไซน์ใหม่ เทคโนโลยี SKYACTIV-X และ Hybrid โดยเฉพาะมาสด้า3 ไฮบริด พร้อมอวดโฉมแน่นอนในปีนี้ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเหนือระดับ 2.การดูแลลูกค้าหลังการขายเพื่อให้ความพึงพอใจสูงสุด และ 3.การสนับสนุนดีลเลอร์ให้สามารถเพิ่มพูนรายได้
ทั้งนี้ มาสด้าประมาณการตัวเลขยอดขายรวมปี 2562 อยู่ที่ 1.03-1.06 ล้านคัน พร้อมตั้งเป้าขายเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 75,000 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 5-10% และส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 6.7%
“การตอกย้ำผู้นำด้านเทคโนโลยี เมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา มาสด้ายังได้ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุน รถยนต์ไฟฟ้า รายละเอียดจะแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง”นายชาญชัย กล่าว
ด้านนายอัตสึชิ ยาซูโมโต รองประธานบริหารอาวุโส กล่าวว่า ประเทศไทยถือเป็นตลาดหลักที่สำคัญของมาสด้า ด้วยยอดขายอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียน สูงสุดติดกันมาอย่างต่อเนื่องมากกว่า 10 ปี ที่สำคัญมาสด้า มอเตอร์ยังคงให้การสนับสนุนมาสด้า ประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในทุกด้าน ทั้งการลงทุนและเทคโนโลยี
“ปีนี้มาสด้ากำลังจะก้าวไปสู่รถยนต์ในเจเนอเรชั่นที่ 7 และการมาของเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด SKYACTIV-X ซึ่งเป็นการผสมผสานคุณลักษณะเด่นของเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลรวมไว้ด้วยกัน และเมื่อกล่าวถึงเรื่องเครื่องยนต์ ผมคงจะต้องกล่าวถึงเรื่องเทคโนโลยีทางด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV โดยเครื่องยนต์ SKYACTIV-X นั้นเราได้ผนวกเทคโนโลยีไฟฟ้าเข้ามาด้วย ซึ่งในส่วนนี้เราได้คิดตั้งแต่เริ่มกระบวนการพัฒนา หรือ well-to-wheel ควบคู่ไปกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านกระบวนการทำงานของรถยนต์ทั้งคัน เพราะมาสด้าได้เล็งเห็นปัญหาในเรื่องของภาวะโลกร้อน จึงเป็นที่มาของนโยบาย sustainable Zoom-Zoom 2030 เพื่อให้โลกยังคงสวยงาม เพื่อผู้คนและสังคมของเรา มีความงดงามและใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข”
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ กล่าวเสริมว่า ผลประกอบการปี 2561 ที่ผ่านมา มาสด้าทำยอดขายได้สูงถึง 70,475 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 37% โดยเฉพาะรถมาสด้า2 ที่ขึ้นแท่นครองอันดับหนึ่งตลาดรถเก๋งเล็ก ด้วยยอดขายสูงถึง 45,972 คัน เพิ่มขึ้น 45%
ในขณะที่รถอเนกประสงค์ CX-5 โดนใจลูกค้าอย่างแรง คว้ายอดขายสูงสุดในประวัติศาสตร์ 8,184 คัน เพิ่มขึ้นมากที่สุดถึง 69% ปิกอัพ บีที-50 โปร เริ่มกลับมาเป็นขวัญใจลูกค้าอีกครั้งด้วยยอดขาย 7,498 คัน เพิ่มขึ้น 26% ส่งผลให้มาสด้าสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 6.7% ซึ่งถือเป็นส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุดของมาสด้าทั่วโลก
นอกจากนี้ การสื่อสารถือเป็นหัวใจหลักสำคัญ จำเป็นต้องพัฒนาการสื่อสารให้ครบทุกช่องทาง โดยเฉพาะออนไลน์ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เริ่มจากการกำหนดสไตล์ของแบรนด์ หรือ Mazda brand style เพื่อให้เกิดการจดจำและสร้างการรับรู้ของแบรนด์ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่มาสด้าต้องถ่ายทอดและให้ลูกค้าเห็นได้ในทุก ๆ ที่
และสิ่งนี้ยังเป็นการปูทางไปสู่การมาของรถยนต์มาสด้า เจนเนอเรชั่นที่ 7 โดยเราได้ปรับเปลี่ยนทั้งในส่วนของโลโก้ รูปแบบตัวอักษรทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ รวมทั้งการวางองค์ประกอบของภาพถ่าย และพื้นที่ในการจัดแสดงรถทั้งภายในโชว์รูมและกิจกรรมส่งเสริมการตลาด
คลิกอ่านเพิ่มเติม… มาสด้าปูพรมรถไฮบริดเร่งสปีดEV ดึงซัพพลายเออร์ลงทุน1.9หมื่นล้าน
ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลยพิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat
หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!