“มาสด้า” กล้าแตกต่างด้วย “ไมลด์ไฮบริด”

หลังเข้ามารับตำแหน่งนายใหญ่ค่ายมาสด้า ด้วยความไว้วางใจจากบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นให้ขึ้นดำรงตำแหน่ง “ประธานมาสด้า ไทยแลนด์” ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา “ชาญชัย ตระการอุดมสุข” ทำผลงานเข้าตา ยอดขายดีวันดีคืน

การขับเคลื่อนมีแนวทางของตัวเองชัดเจนและเข้มข้น นโยบายมาสด้า “กล้าที่จะแตกต่าง” สะท้อนให้เห็นจากตัวเลขยอดขายเฉียด 70,000 คันในปีที่ผ่านมาเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการเดินอย่างถูกทาง ส่วนปีนี้จะเป็นอย่างไรไปติดตาม

จัดเกรดดีลเลอร์ใหม่

ปีนี้ก็จะได้เห็นการปรับเปลี่ยนดีลเลอร์เช่นกัน ก่อนอื่นต้องยอมรับว่าในปีที่แล้ว มาสด้ามีทั้งเปิดและปิดโชว์รูมหลายแห่ง อันไหนปิดก็มีเปิดใหม่ขึ้นมาทดแทน เรามี 147 แห่งภายในสิ้นปีที่ผ่านมา และจะเป็น 150 แห่งในสิ้นปีงบประมาณ (มี.ค. 2562) ถ้านับนิ้วก็ปิดไปถึง 25 แห่ง ใจจริงแล้วเราต้องการมีสักระดับ 170-180 แห่ง

ในอีก 2 ปีจากนี้ เรามองว่าการมีโชว์รูมเยอะไปก็ไม่ดีนัก ตั้งใจไว้ 1 จังหวัด 1 โชว์รูม นอกจากจังหวัดใหญ่ ๆ เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น นครราชสีมา และชลบุรี ที่เรามีมากกว่า1 ดีลเลอร์ และ 1 โชว์รูมปีนี้ถ้าถามว่าจะมีปิดเพิ่มอีกหรือเปล่าก็ต้องตอบว่ามีอีกเป็น 10 แห่ง สาเหตุที่ปิดก็เพราะเขาไม่โฟกัส ไม่ได้เพอร์ฟอร์แมนซ์ อดีตไม่มีใครกล้าทำเลยทำให้เกิดวัฒนธรรมผิด ๆ

มาแน่สกายแอคทีฟ-เอ็กซ์

ส่วนรถใหม่ปีนี้ อย่างที่ทราบมีลูกค้ารออยู่สำหรับรถเอสยูวีขนาดใหญ่ อย่างมาสด้า ซีเอ็กซ์-8 เราเตรียมเปิดตัวแน่นอนในช่วงปลายปี ราว ๆ เดือนพฤศจิกายน แต่ก่อนหน้านั้นเราก็จะมีรถยนต์นั่ง อย่างออลนิว มาสด้า 3 ที่มาใหม่หมด ออกสู่ตลาดในเดือนสิงหาคม และมีการอัพเกรดของเครื่องยนต์ด้วย เป็นเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ-เอ็กซ์ (SKYACTIV-X) แต่อาจจะต้องลุ้นกันว่าช่วงเดือนพฤศจิกายนจะมาทันหรือไม่ ส่วนมาสด้า บีที-50 โปร ยังทำตลาดต่อเนื่องมีการเพิ่มความสดใหม่ และยอดขายเรากระเตื้องขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนรถรุ่นใหม่ของบีทีนั้น ต้องรอไปยาว ๆ ถึงปี 2564ถึงจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และที่น่าสนใจอีกตัวคือ มาสด้าซีเอ็กซ์-3 ราว ๆ ต้นปี 2563

เพิ่มน้ำหนักโรดโชว์ ตจว.

เราเชื่อว่า เมื่อลูกค้ามีความเชื่อมั่นในตัวสินค้า และตัวแทนจำหน่าย แน่นอนว่า จะส่งผลดีต่อแบรนด์ ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาเราเริ่มมีการเข้าไปทดลองทำกิจกรรมเชิงรุกในท้องถิ่นต่าง ๆ ร่วมกับดีลเลอร์ ซึ่งเป็นการกระตุ้นยอดขายได้ดีมาก เราจัดกิจกรรมสนับสนุนการขายร่วมกับตัวแทนจำหน่ายทั้งหมด 20 แห่ง เน้นไปที่ต่างจังหวัดประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเราจะเข้าไปช่วยในช่วง 2-3 สัปดาห์ก่อน

การจัดกิจกรรมโรดโชว์ ซึ่งในบางจังหวัดจัดงาน 2 วัน ทำยอดจองได้รวม 220 คันยอดขายมากกว่าการขายรถยนต์ทั้งเดือนของโชว์รูมนั้น ๆ จากเดิมขายได้แค่เดือนละ 30-40 คันเท่านั้น

แน่นอนปีนี้ต้องต่อยอด เราเชื่อไม่มีใครเข้าใจลูกค้าในพื้นที่ได้ดีไปกว่าตัวแทนจำหน่ายที่ดูแลพื้นที่นั้น ๆ มาสด้าเพียงแต่เข้าไปช่วยเซตอัพวางรูปแบบ ขั้นตอนเพราะดีลเลอร์มีศักยภาพอยู่แล้ว โดยร่วมกันออกแบบให้เหมาะสม ซึ่งในปีงบประมาณหน้า เม.ย. 2562-มี.ค. 2563 เราวางแผนว่าจะเพิ่มกิจกรรมโรดโชว์นี้อีกเท่าตัวเป็นมากกว่า 40 ครั้ง

2561 ปีทองแห่งความสำเร็จ

ปี 2561 ที่ผ่านมานั้นถือเป็นปีแห่งความสำเร็จของมาสด้า และถือเป็นปีทองของเรา อย่างที่ผ่านมาในเดือนสุดท้ายเดือนธันวาคม เรามีแชร์อยู่ในระดับ 6.7-6.8% ซึ่งหากจะเทียบกับปีก่อนหน้าเรามีส่วนแบ่งทางการเพิ่มขึ้นมา 0.7-0.8% ซึ่งมากกว่าที่ตั้งไว้ที่ 6.5% ส่วนตัวเลขยอดขายนั้นเดิมเราคาดว่าจะขายที่ 61,000-62,000 คัน และเราขยับเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมาเป็น 63,000 คัน และวันนี้คาดว่าจะได้เพิ่มกว่าตัวเลขข้างต้นทั้งปีเราทำไปได้ถึง 68,000 คัน ส่วนปี 2562 โตอีกตลาดรวมน่าจะราว 1.05 ล้านคัน มาสด้าน่าจะทะลุ 70,000 คัน

บุกไมลด์ไฮบริดเต็มตัว

สำหรับทิศทางของรถยนต์ไฮบริด ปลั๊ก-อิน ไฮบริด หรืออีวี มาสด้าการทำงานอย่างเป็นระบบ ปลายปี 2561 โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ได้รับส่งเสริมจากบีโอไอในกิจการประกอบรถยนต์ไฮบริด ภายใต้งบฯลงทุน 11,481.6 ล้านบาท เพราะฉะนั้นน้ำหนักก็พุ่งไปกับรถยนต์ลูกผสมที่มีเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลัก โดยมีเป้าหมายตามโรดแมป

การลดมลพิษในอากาศตามที่บริษัทแม่กำหนด คือ ในปี 2030 มาสด้าจะลดปริมาณซีโอทูในอากาศลงจากปี 2010 ให้ได้อย่างน้อย 50% เร็ว ๆ นี้ ลูกค้าจะได้เห็นรถมาสด้าแบบไมลด์ไฮบริดซึ่งใช้มอเตอร์มาช่วยในการขับเคลื่อนออกสู่ตลาด หลายคนอาจจะสงสัยทำไมไม่เป็นฟูลไฮบริด

อันนี้เป็นไปตามนโยบายของแต่ละบริษัท มาสด้ากล้าที่จะแตกต่าง ซึ่งก่อนที่จะก้าวไปสู่รถอีวีเต็มรูปแบบ เรายังเชื่อมั่นในเพอร์ฟอร์แมนซ์เครื่องยนต์สันดาปภายในของมาสด้า ซึ่งมีทั้งเทคโนโลยีสกายแอคทีฟและสกายแอคทีฟ-เอ็กซ์ ซึ่งโดดเด่นกว่าคู่แข่งในตลาดโดยมีออปชั่นของมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าไปเสริม