“นิสสัน” ปลื้ม ส่งออกทะลุล้านคัน

17 มกราคมที่ผ่านมา นิสสัน ประเทศไทย ฉลองความสำเร็จในการผลิตรถยนต์เพื่อการส่งออกรถยนต์ครบ 1 ล้านคัน
โดยนิสสันเริ่มสายพานการผลิตเพื่อการส่งออกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 ไปสู่จุดหมายปลายทางทั่วโลกกว่า 115 ประเทศ

ความสำเร็จครั้งนี้ตอกย้ำการเป็นศูนย์กลางการผลิตเพื่อรองรับความต้องการภายในประเทศและการส่งออกไปยังตลาดในภูมิภาคและทั่วโลก

บันทึกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญนี้ระบุชัดเจนว่า รถยนต์คันที่ 1 ล้าน คือ นิสสันเทอร์ร่า ใหม่ ซึ่งรถพีพีวีรุ่นนี้ นิสสัน ประเทศไทย ดำเนินการผลิตเพื่อส่งออกไปยังทั่วโลก

รถยนต์คุณภาพสูงที่ผลิตขึ้นในประเทศไทยไปสู่ลูกค้าทั่วโลก นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 รุ่นแรก คือ นิสสัน ฟรอนเทียร์

เดินทางสู่ประเทศออสเตรเลีย นับแต่นั้นเป็นต้นมา ฐานการผลิตของนิสสัน ประเทศไทย ได้มีการขยายตัวเพื่อรองรับการเติบโตที่เพิ่มสูงขึ้น

จนได้รับการยอมรับให้เป็นศูนย์กลางการผลิตสำคัญของนิสสันในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ทำหน้าที่สำคัญในการผลิตรถยนต์คุณภาพส่งถึงมือลูกค้า ผู้ขับขี่จากทั่วทุกมุมโลก

ในปีที่ผ่านมา ตลาดส่งออกสูงสุด 3 อันดับแรกของนิสสัน ประเทศไทย ได้แก่ ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น ตามด้วย อินโดนีเซีย มาเลเซีย แอฟริกาใต้ เวียดนาม นิวซีแลนด์ ดูไบ และโอมาน

ตั้งแต่ พ.ศ. 2542 นิสสันได้ขยายการส่งออกรถยนต์จากประเทศไทยไปยังกว่า 115 ประเทศทั่วโลก โดยปัจจุบันรถยนต์ที่นิสสัน ประเทศไทย ผลิตเพื่อการส่งออกมีจำนวน 6 รุ่น ได้แก่ นิสสัน

อัลเมร่า มาร์ช นาวารา ซิลฟี่ เทียน่าและเทอร์ร่า นอกจากนี้ นิสสันยังได้ทำงานร่วมกับ 250 กว่าบริษัทที่อยู่ภายใต้ซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งก่อให้เกิดการว่าจ้างแรงงานอีกกว่า 170,000 อัตรา และในปี พ.ศ. 2561 นิสสันยังมีปริมาณการส่งออกรถยนต์ของไทยสูงสุดเป็นอันดับ 5 โดยมีอัตราเพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2560 ถึง 19%

นายยูตากะ ซานาดะ รองประธานอาวุโสของนิสสันเอเชียและโอเชียเนีย กล่าวว่า “ความสำเร็จของนิสสันในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำถึงบทบาทของประเทศไทยที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์แห่งนวัตกรรม

นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี้ ที่เน้นสร้างสรรค์รูปแบบการขับขี่ที่ปลอดภัย ฉลาด และยั่งยืนให้แก่ผู้คน ผู้ใช้รถบนท้องถนนทั่วทุกมุมโลก นอกจากนี้ ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็น นิสสัน เทอร์ร่า รถยนต์เพื่อการส่งออกคันที่ 1 ล้าน ได้เดินทางออกจากท่าเรือแหลมฉบังในวันนี้ โดยนิสสัน เทอร์ร่า ซึ่งผลิตขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อภูมิภาคนี้โดยเฉพาะนั้นได้รับเสียงตอบรับจากลูกค้าทั่วทั้งภูมิภาคเป็นอย่างดี”

นายซานาดะกล่าวอีกว่า “เราจะยังคงเดินหน้าลงทุนในระบบนิเวศอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างต่อเนื่อง ตลอดไปจนถึงการส่งเสริมให้เกิดสร้างงานและกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนของระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ พร้อมนำเอาประโยชน์จากอุตสาหกรรม 4.0 มาประยุกต์ใช้ให้เกิดคุณค่ากับประเทศไทย”

ส่วนอันตวน บาร์เตส ประธาน นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ได้กล่าวภายในงานนี้ถึงความภาคภูมิใจต่อความสำเร็จของยานยนต์คุณภาพระดับโลกที่ผลิตขึ้น ณ โรงงานนิสสัน ประเทศไทยว่า “ความสำเร็จในการส่งออกรถยนต์

ของนิสสันในครั้งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากปราศจากความมุ่งมั่นและความทุ่มเทของเหล่าพนักงานกว่า 5,000 คน พร้อมด้วยการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากลูกค้า ผู้แทนจำหน่าย และพันธมิตรทางธุรกิจชาวไทยของเรา” พร้อมทั้งกล่าวเสริมอีกว่า “ปัจจุบันฐานการผลิตของนิสสันในจังหวัดสมุทรปราการมีกำลังการผลิตรวมถึง 370,000 คันต่อปี”

ขณะที่ ดร.บงกช อนุโรจน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า “ถือได้ว่าเป็นประวิติศาสตร์การส่งออกครั้งสำคัญของประเทศไทยที่สามารถส่งออกไปไกลถึงทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป ประเทศญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และตลาดสำคัญอื่น ๆ ที่ล้วนแล้วแต่มีมาตรฐานอุตสาหกรรมที่เข้มงวด

ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้ยังเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์เพื่อการส่งออกไปยังทั่วโลก พร้อมกันนี้ยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในการผลิตรถยนต์คุณภาพสูงของประเทศไทยในเวทีระดับโลก โดยบีโอไอจะยังคงมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่รวมถึงบริษัท

ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำอย่างนิสสัน เพื่อส่งเสริมการลงทุนด้านการวิจัย การพัฒนา และสร้างสรรค์นวัตกรรมระบบการผลิตอัจฉริยะ รวมถึงการพัฒนาทักษะแรงงานอีกด้วย”

นิสสันเริ่มต้นสายพานการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 และได้ย้ายฐานการผลิตไปยังจังหวัดสมุทรปราการ ใน พ.ศ. 2518 เพื่อรองรับความต้องการรถยนต์นิสสันในประเทศไทยที่เพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทได้เดินหน้าลงทุนเพื่อยกระดับเทคโนโลยีการผลิตให้มีความทันสมัย รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

ต่อมาในปี พ.ศ. 2557 นิสสันได้เปิดไลน์การผลิต ณ โรงงานแห่งที่ 2 บนถนนบางนา-ตราด กม.22 เพื่อเป็นฐานการผลิตนิสสัน นาวารา สำหรับจำหน่ายภายในประเทศและส่งออกไปยังทั่วโลก นอกจากนี้ยังได้รับการยอมรับให้เป็นศูนย์กลางแห่งความเป็นเลิศระดับโลก (COE) สำหรับรถกระบะอีกด้วย และในเดือนเมษายน พ.ศ. 2558 นิสสันได้เปิดศูนย์วิจัยและพัฒนารถยนต์ระดับภูมิภาค ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเดียวกันกับโรงงานในจังหวัดสมุทรปราการ

“นิสสันมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพและประสิทธิภาพของพนักงานอย่างต่อเนื่อง โดยได้ส่งพนักงานไทยเข้าร่วมฝึกอบรมที่โรงงานผลิตในประเทศญี่ปุ่น จำนวน 163 คน นับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการใน พ.ศ. 2559” นายอันตวนกล่าวเพิ่มเติม

พร้อมกันนี้ นิสสันยังให้การสนับสนุนชุมชนทั่วประเทศไทยผ่านโครงการฝึกงานกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของไทยกว่า 11 แห่ง และโครงการพัฒนาทักษะภาวะผู้นำสำหรับเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นการร่วมมือกับมูลนิธิรักษ์ไทย และแคร์ ประเทศญี่ปุ่น โดยคาดการณ์จำนวนนักเรียนมากกว่า 1,000 คน


จากโรงเรียน 10 แห่งใน 3 จังหวัดที่ร่วมโครงการ ซึ่งรวมถึงจังหวัดสมุทรปราการ จะเข้าร่วมในโครงการผู้นำเยาวชนในครั้งนี้