ยนตรกิจขึ้นไลน์ประกอบฮุนได ประเดิม “มินิบัส” แย่งตลาดรถตู้ 3 พันคัน/ปี

ยนตรกิจได้สิทธิ์ประกอบฮุนไดทั้งมินิบัสและบรรทุกกลาง-ใหญ่ ลั่นเทงบฯ 300 ล้านบาท บุกตลาดประเดิมมินิบัส หวังชิงส่วนแบ่งตลาดรถตู้ พร้อมส่งบรรทุกขนาดกลางทำตลาดอีกรุ่น

นายโจ คิว วาน ผู้อำนวยการ บริษัท ฮุนได คอมเมอร์เชียล เวฮิเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัทในเครือยนตรกิจ คอร์เปอเรชั่น ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ฮุนไดเพื่อการพาณิชย์ “ฮุนได ทรัค แอนด์ บัส” ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ จากบริษัท ฮุนได มอเตอร์ คอมพานี ประเทศเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทได้รับแต่งตั้งจากบริษัทแม่ที่เกาหลีเมื่อ 3 ปีก่อน และได้เข้ามาศึกษาตลาดในประเทศไทยอยู่พักใหญ่

ล่าสุดบริษัทได้ใช้งบประมาณราว 10 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 300 ล้านบาท ใช้โรงงานประกอบรถยนต์ของยนตรกิจ ลาดกระบัง สำหรับขึ้นไลน์ผลิตรถมินิบัส ขนาด 18+1 ที่นั่ง รุ่นฮุนได เคานตี้ รถมินิบัสพวงมาลัยขวาครั้งแรกของโลก และบริษัทแม่ยังให้สิทธิ์ประเทศไทยในการทำตลาดรถมินิบัส พวงมาลัยขวา ไปยังกลุ่มประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่ยังรองรับมาตรฐานยูโร 3 ไม่ว่าจะเป็นบังกลาเทศ ศรีลังกา แอฟริกา ปาปัวนิวกินี ฯลฯ

ส่วนการทำตลาดในประเทศไทย บริษัทได้เปิดตัวรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 2 รุ่น ได้แก่ ฮุนได เคานตี้ รถมินิบัส และฮุนได ไมตี้ รถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ ในงานมอเตอร์โชว์ 2019 โดยฮุนได

เคานตี้ รถมินิบัสนั้น บริษัทตั้งใจนำมาทำตลาดเพื่อตอบรับกับความต้องการของตลาด หลังจากเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2561 จากนโยบายรัฐบาลที่ให้ทยอยเปลี่ยนรถตู้โดยสารเป็นรถมินิบัส ภายในระยะเวลา 10 ปีจากนี้ หรือภายในปี 2571 ซึ่งคาดว่าจะมีรถตู้รอการเปลี่ยนอยู่ในระบบไม่น้อยกว่า 20,000 คัน และบริษัทตั้งเป้าจะเข้าไปมีส่วนแบ่งในตลาดนี้ให้ได้ 20%

“เราตั้งเป้าเริ่มผลิตไว้ที่ 200 คัน ส่วนยอดจัดจำหน่ายนั้นยังไม่ได้ตั้งเป้า แต่หากจำหน่ายได้ตามยอดผลิตน่าจะเป็นการดี”

ขณะที่เป้าหมายสัดส่วนการขายนั้นเป็นกลุ่มรถมินิบัส เพื่อทดแทนรถตู้ไว้ที่ 50% กลุ่มรถเช่า กลุ่มซื้อไปเพื่อใช้ในตลาดท่องเที่ยว 30% และกลุ่มหน่วยงานองค์กรต่าง ๆ อีก 20%

นายคิว วานยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ความต้องการของตลาดรถยนต์มินิบัสปีนี้ คาดว่าจะมีความต้องการอยู่ที่ 2,000-3,000 คัน โดยขณะนี้มีค่ายรถยนต์ที่เข้ามาทำตลาดนี้อยู่ 5 ค่าย ได้แก่ โตโยต้า อีซูซุ ฮีโน่ ฮุนได และยูทง

ด้านนางธันยนันท์ ลีนุตพงษ์ ศิริมงคลเกษม กรรมการบริหาร กล่าวถึงแผนการขยายเครือข่าย และการทำตลาดของรถมินิบัส และรถบรรทุกขนาดกลางของฮุนไดว่า ได้มีการเจรจากับตัวแทนจำหน่ายเกีย ที่มีอยู่ในปัจจุบัน 19 รายทั่วประเทศ โดยขณะนี้มีผู้สนใจมากกว่าครึ่งหนึ่งและในปีนี้จะเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์ฮุนได 5-10 แห่ง โดยจะมองไปยังจังหวัดที่มีศักยภาพก่อนทั้งเชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต ชลบุรี นครราชสีมา รวมทั้งจับมือกับศูนย์บริการควิกเซอร์วิส “โอเอซิส” ในการดูแลและให้บริการลูกค้าด้วย

“โชว์รูมและศูนย์บริการนั้นคงจะต้องแยกส่วนกับเกียอย่างชัดเจน แต่อาจจะอยู่ในพื้นที่เดียวกันได้ ไม่มีปัญหา และเราก็พร้อมจะเปิดรับพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ ๆ เพิ่มเติมด้วย”

นอกจากการเปิด 2 โมเดลในปีนี้แล้ว บริษัทยังมีแผนที่จะนำรถบรรทุกขนาดใหญ่ Xcient เข้ามาทำตลาดในอนาคตด้วย

สำหรับรถฮุนได เคานตี้ รุ่นประกอบในประเทศไทยนั้น เป็นรุ่น 18+1 ที่นั่ง เครื่องยนต์ดีเซลดีโฟร์ดีดี 3,907 ซีซี ระบบหัวฉีดแรงดันสูงคอมมอนเรลที่ให้กำลังสูงสุดถึง 140 แรงม้าที่ 2,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 38 กิโลเมตรที่ 1,600 รอบต่อนาที ขับขี่ปลอดภัยด้วยเกียร์แมนวล 5 จังหวะ ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 1,991,000 บาท ซึ่งเป็นราคาพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองรถภายในงาน


ส่วนรุ่นฮุนได ไมตี้ รุ่นนำเข้านี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล ดีโฟร์ดีดี 3,907 ซีซี มาพร้อมระบบหัวฉีดแรงดันสูงคอมมอนเรลที่ให้กำลังสูงสุดถึง 140 แรงม้า ซึ่งเปิดให้จองแล้วได้เช่นกันภายในงาน 1.35 ล้านบาท โดยบริษัทยังไม่ได้วางเป้ายอดขาย