โรงงานแบตประเดิมป้อนซีรีส์5/7 BMW เร่งขยายสถานีชาร์จรับรถไฟฟ้าบูม
นายคริสเตียน วิดมานน์ ประธานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยในงานเสวนา “The Future of Mobility”ระดมนักคิดและผู้เชี่ยวชาญในแวดวงยานยนต์ ร่วมพูดคุยถึงทิศทางของระบบคาร์แชริ่ง (car sharing) ในประเทศไทยว่า ในปี 2561 ที่ผ่านมา บริษัทได้สร้างสถิติใหม่ด้วยอัตราการเติบโตปีต่อปีของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูที่ 20% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงที่สุดในเครือข่ายบีเอ็มดับเบิลยูทั่วโลกถึงสองปีซ้อนซึ่งสะท้อนการเป็นแบรนด์ชั้นนำในตลาดอย่างต่อเนื่อง และยืนยันถึงความสำเร็จของเรา คือ ยอดขายรถยนต์ปลั๊ก-อินไฮบริด (PHEV) ในประเทศไทย ซึ่งโตถึง 122% ในปีที่ผ่านมา
โดยบริษัทจะมีรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด รุ่นใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดในเมืองไทย เพื่อต่อยอดความสำเร็จหลังจากการเปิดตัวของบีเอ็มดับเบิลยู 530e บีเอ็มดับเบิลยู 740Le บีเอ็มดับเบิลยู i8 Coupe และบีเอ็มดับเบิลยู i8 Roadster ควบคู่ไปกับการเดินหน้าขยายเครือข่ายการให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสาธารณะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด อย่างต่อเนื่อง
“เราเริ่มมาตั้งแต่ปี 2560 โดยมุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่สมาชิก ChargeNow ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของรถยนต์รุ่นใดหรือยี่ห้อใดก็ตาม สามารถมาใช้บริการได้อย่างสะดวกสบายที่สถานี ChargeNow ทุกสาขา โดยปัจจุบันให้บริการทั้งหมด 121 หัวจ่าย ทั้งที่สถานี ChargeNow และที่ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยู ใน 57 แห่งทั่วประเทศไทย”
ทั้งนี้ ในส่วนของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย จะเริ่มต้นการประกอบแบตเตอรี่แรงดันสูงในประเทศไทย ทั้งการประกอบโมดูลแบตเตอรี่และการประกอบตัวแบตเตอรี่แพ็ก ซึ่งจะเริ่มต้นสายการประกอบในปี 2562 นี้ ภายใต้งบฯลงทุน 400 ล้านบาท
สำหรับโรงงานประกอบแบตเตอรี่แรงดันสูงแห่งใหม่ ภายใต้ความร่วมมือกับแดร็คเซิลไมเออร์ กรุ๊ป ผู้นำด้านการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ระดับโลก ซึ่งเป็นพันธมิตรกับบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป
มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2509 จะเริ่มต้นสายการประกอบอย่างเต็มกำลังภายในปีนี้ โดยแบตเตอรี่แรงดันสูงที่ประกอบสมบูรณ์แล้ว จะถูกส่งไปยังโรงงานบีเอ็มดับเบิลยูที่ระยอง เพื่อติดตั้งในรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ในตระกูลบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 และบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 เริ่มต้นเฟสแรกภายในปี 2562
นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ยังได้รับอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในการลงทุนเพิ่มเติมด้วยมูลค่ากว่า 700 ล้านบาท สำหรับการประกอบรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ในอนาคตด้วย
