ลูกค้ารถคันแรกดันรถใหม่ฉิว ครึ่งปีโต 9% ห่วงตั้งครม.ช้ากระทบเชื่อมั่น

ค่ายรถฟันธงตลาดยังสดใสมั่นใจทั้งปีขายทะลุ 1.07 ล้านคัน อีซูซุชี้สงครามการค้าอเมริกา-จีนไม่กระทบ มาสด้าจี้ตั้งรัฐบาลใหม่เร็วส่งผลเชื่อมั่นลงทุน ยันธุรกิจเดินตามแผนเดิม ทั้งการตลาดและคลอดรถยนต์รุ่นใหม่ ซูซูกิย้ำดีมานด์อยากเปลี่ยนรถคันแรกแรงส่งตลาดโต พร้อมส่งแครี่ใหม่เสริมทัพ

นายทาเคชิ คาซาฮาระ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัดกล่าวว่า สงครามการค้าสหรัฐอเมริกา-จีนไม่ได้กระทบตลาดรถยนต์โดยรวม โดยเฉพาะอีซูซุยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดขาย 5 เดือนทำได้ 75,962 คัน มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่ม 1%จาก 33.5% เป็น 34.4% ทั้งนี้ เป็นผลมาจากลูกค้าให้ความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ ส่วนผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจอาจมีบ้าง อาทิ การส่งออก ทำให้จีดีพีโดยรวมของประเทศไทยลดลงไปด้วย มั่นใจว่าทั้งปีน่าจะทะลุ 1.07 ล้านคันได้ไม่ยาก

ส่วนความเข้มงวดด้านมาตรการสินเชื่อรถยนต์ที่ภาครัฐเริ่มมีการคุมเข้มนั้น บริษัทได้มีการติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และอีซูซุมีอีซูซุลีสซิ่งของตัวเอง เพื่อให้บริการและอำนวยความสะดวกลูกค้า และมั่นใจว่าลูกค้าของอีซูซุยังเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพและมีกำลังซื้อค่อนข้างสูง

เช่นเดียวกับ นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดรถยนต์ในช่วง 6 เดือนแรกนั้นมีการเติบโต 9% และมาสด้ามีการเติบโตเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาด ส่วนในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้มั่นใจว่า ยอดขายรถยนต์โดยรวมน่าจะไปแตะระดับ 1.06 ล้านคัน ตามที่คาดการณ์ไว้

“ที่ต้องจับตาคือความชัดเจนทางการการเมือง โดยเฉพาะการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด และจะส่งผลกระทบต่อภาคการลงทุนหรือไม่ ขณะที่ปัญหาหนี้เสียเชื่อว่าทุกสถาบันระมัดระวังเรื่องนี้เป็นอย่างดี”

นายชาญชัยกล่าวว่า รัฐบาลที่จัดตั้งได้เร็ว จะช่วยผลักดันธุรกิจโดยเฉพาะความมั่นใจ นอกจากนี้ยังมีโปรเจ็กต์จากภาคเอกชนอีกหลายอย่างที่รอคอยการอนุมัติ มาสด้ายังดำเนินธุรกิจทุกอย่างตามแผนงานเดิม โดยเฉพาะแผนการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ และกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ซูซูกิมีอัตราการเติบโตไม่น้อยกว่าตลาดรวม ซึ่งโตในระดับ 9% จากตัวเลขยอดขายรวม 5 เดือน 437,722 คัน สูงขึ้นกว่าปีที่แล้วซึ่งตลาดรวมทำได้ 401,264 คัน

“เราขายน้อยลง 9% เท่าตลาดรวม ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากรถยนต์รุ่นใหม่ ซูซูกิ เออร์ติก้า ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ มียอดจองสูงถึง 2,500 คัน แต่ส่งมอบไปได้เพียง 700-800 คัน ซึ่งพยายามแก้ปัญหา เจรจากับโรงงานที่อินโดนีเซีย เพื่อเร่งตอบสนองความต้องการของลูกค้า และคาดว่าราวเดือนสิงหาคมนี้ จะส่งมอบรถทั้งหมดให้กับลูกค้าได้”

สำหรับทิศทางตลาดรถยนต์ขณะนี้ มีบางเรื่องที่เป็นปัญหากับตลาด โดยเฉพาะมาตรการคุมเข้มสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งทำให้ต้องหาพันธมิตรทางการเงินเพิ่ม จากเดิมที่มีเอ็กซ์คลูซีฟไฟแนนซ์เพียง 1 ราย ปัจจุบันได้เพิ่มเข้ามาอีก 3 ราย เป็น 4 ราย เพื่อให้บริการลูกค้าแต่ละกลุ่ม ตรงตามความต้องการของลูกค้าและความถนัดของแต่ละลีสซิ่ง

นายวัลลภกล่าวต่อไปว่า ภาพรวมของตลาดรถยนต์ปีนี้ยังเชื่อว่าจะมีการเติบโตอย่างน้อย 10% เนื่องจากยังมีดีมานด์ที่เกิดจากโครงการรถยนต์คันแรกอีกจำนวนหนึ่งซึ่งต้องการเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่ และกลุ่มรถยนต์ที่มีอัตราการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด คือ เอ็มพีวี ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมีรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด และลูกค้าในกลุ่มรถอีโคคาร์มองหารถยนต์เพื่อการใช้งานที่ใหญ่ขึ้น


โดยปีนี้ซูซูกิมั่นใจว่า ยอดขาย 34,000 คันนั้นจะสามารถทำได้ตามเป้า จาก 28,000 คันในปีก่อน โดยมีรถยนต์ 2 รุ่นใหม่ คือ ซูซูกิ เออร์ติก้า ใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวไป และซูซูกิ แครี่ใหม่ ที่จะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้