ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงาน ว่าบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ได้ เปิดตัว รถยนต์นั่งเอนกประสงค์ มิตซูบิชิ ปาเจโร รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ออกสู่ตลาดเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว โดยมีการปรับราคาจำหน่ายเพิ่มขึ้นอีก คันละ 10,000-15,000 บาท โดยมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ตใหม่ ที่ได้รับการปรับปรุง ด้วยการออกแบบใหม่ภายใต้แนวคิด ‘ความสำเร็จที่เป็นคุณ’
นายโมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวรถยนต์ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นไมเนอร์เชนจ์ โดยตั้งเป้ายอดขายไว้เดือนละ 1,300-1,400 คัน หรือ มียอดขายทั้งปีไม่น้อยกว่า 15,000 คัน มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 20% สำหรับรถยนต์ในกลุ่ม พีพีวี
- มอเตอร์โชว์ 2024 เริ่มแล้ว
- คำแนะนำจาก ซีอีโอ “ฮั่วเซ่งเฮง” ยุคทอง (โคตร) แพง ต้องลงทุนอย่างไร ?
- ยื่นภาษีปี 2567 หมดเขตเมื่อไหร่ ยื่นไม่ทันต้องทำอย่างไร
ส่วนยอดขายของมิตซูบิชิ ในช่วง 6 เดือนแรก นั้น ทำได้ 45,000 คัน โต 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนยอดส่งออกรวมมิตซูบิชิเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับปีก่อน อยู่ที่ 178,000 คันและทั้งปีคาดว่าจะมียอดขายในระดับ 93,000-94,000 คัน
สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อตลาดรถยนต์ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา และส่งผลต่อตลาดส่งออกรถยนต์นั้น คือ ภาวะสงคราวการค้าระหว่างอเมริกาจีน รวมทั้ง อัตราค่าเงินบาทแข็งค่า ทำให้ตลาดส่งออกมีแนวโน้มไม่สดใสเท่าที่ควร
ส่วนตลาดในประเทศนั้นยังต้องจับตาเรื่องความเข้มงวดของสถาบันการเงิน และการปรับค่าแรงขั้นต่ำว่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดและอุตสาหกรรมมากน้อยเพียงใด “การปรับเพิ่มค่าแรง ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ หากมีการปรับเพิ่มค่าแรงจริงควรเพิ่มอย่างมีเสถียรภาพ และมิตซูบิชิจะต้องบริหารจัดการ ส่วนตัวคาดว่ารัฐบาลคงไม่ประกาศขึ้นค่าแรงงานรวดเดียว แต่จะค่อยๆปรับ เพื่อให้ทุกอุตสาหกรรมสามารถปรับตัวได้ และเชื่อว่าไทยยังมีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดได้”
สำหรับ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ตใหม่ มาพร้อมกับ ดีไซน์ภายนอกที่ทรงพลังและหรูหรา กระจังหน้าพร้อมชุดไฟ Combination Lamps ติดตั้งที่มุมของกันชน กระโปรงหน้าที่สูงขึ้นกว่าเดิมช่วยเพิ่มมิติความลึกให้กับด้านหน้ารถ ตกแต่งด้วยชิ้นส่วนโครเมียมที่มีดีไซน์แข็งแกร่งหรูหราให้แก่รูปลักษณ์ภายนอก
เพิ่มอุปกรณ์เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกใหม่ จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว พร้อมเชื่อมต่อและแสดงข้อมูลจากหน้าจอระบบสัมผัส SDA ,ระบบเปิดและปิดประตูท้ายด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบความปลอดภัยและระบบแฮนด์ฟรี
ระบบรีโมทคอนโทรล คำสั่งการทำงานต่างๆ ซึ่งจะส่งการแจ้งเตือนไปยังสมาร์ทโฟนของผู้ขับขี่ในกรณีที่เปิดประตูท้ายหรือไฟหน้าทิ้งไว้
ยังสามารถสั่งการเปิดและปิดประตูท้ายไฟฟ้าผ่านสมาร์ทโฟน โดยระบบจะส่งคำสั่งการเปิดและปิดประตูท้ายอัตโนมัติเมื่อเจ้าของรถอยู่ในระยะใกล้ตัวรถ และสามารถส่งคำสั่งได้จากทุกที่ในระยะของการเชื่อมต่อรถยนต์ผ่านแอปพลิเคชัน โดยทำงานควบคู่กับระบบกุญแจอัจฉริยะ KOS หรือเมื่ออยู่ในระยะสัญญาณบลูทูธ
ส่วนขุมกำลังของเครื่องยนต์ MIVEC เทอร์โบดีเซลขนาด 2.4 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ เทคโนโลยีความปลอดภัย ด้วยระบบส่งสัญญาเตือนเมื่อเปลี่ยนเลน (LCA) และระบบสัญญาณเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (RCTA) ฯลฯ
โดยมีราคาจำหน่ายเพิ่มขึ้นมา 10,000-15,000 บาท มีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่
- รุ่นขับ2 จีที ราคา 1.299 ล้านบาท
- รุ่น ขับ 2 จีที-พรีเมี่ยม ราคา1.469 ล้านบาท
- รุ่น ขับ 4 จีที-พรีเมี่ยม ราคา 1.599 ล้านบาท