“ฮอนด้า” เชื่อ “โปรดักต์ คือคำตอบ”

ณัฏฐ์ ปฏิภานธาดา ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและการวางแผนกลยุทธ์ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ฟันธงถึงกลยุทธ์เพื่อขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ของฮอนด้า ในยุคที่ผู้บริโภคกำลังท้าทายกับการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี เขายืนยันว่า สุดท้ายเทคโนโลยีที่ทุกคน (ค่ายรถ) จะมุ่งไปคือ “อีวี” แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับระยะ “เวลา” และแนวโน้มของเทคโนโลยีอย่างแบตเตอรี่ และมอเตอร์ไฟฟ้า วันนี้ถือว่ามีพัฒนาการที่เร็วขึ้นและเร็วกว่าเมื่อก่อนมาก แต่สำหรับประเทศไทยเองยังมีปัจจัยอีกหลายอย่าง

Q : ฮอนด้าต้องวิ่งตามพฤติกรรมลูกค้าอย่างไรบ้าง

ฮอนด้าก็ปรับทุกอย่างไปตามที่ลูกค้าต้องการ ยกตัวอย่างตอนนี้ลูกค้าให้การตอบรับและมีความต้องการรถยนต์ไฮบริดเพิ่มมากขึ้น ส่วนต่อไปเราจะพัฒนาไปในรถรุ่นใด เวลาใด คงต้องรอดู ขณะที่เครื่องยนต์เทอร์โบนั้นปัจจุบันเรามีทั้งในส่วนของซีวิค และแอคคอร์ด ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเช่นเดียวกัน เพราะเครื่องยนต์เทอร์โบของเรานั้นมีทั้งความแรง และความประหยัด แถมยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ส่วนเรื่องราคาจำหน่ายนั้นเชื่อว่าค่ายรถยนต์แต่ละค่ายตั้งราคาไว้เหมาะสม เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ แต่ท้ายที่สุดแล้ว “โปรดักต์” คือตัวที่จะต้องขายตัวเอง ดูจากแอคคอร์ด ใหม่ วันนี้มียอดจองไปแล้วกว่า 4,500 คันแบ่งเป็นรุ่นไฮบริด และเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเทอร์โบ ในสัดส่วนเท่ากันคือ 50/50 โดยทั้งปีตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 9,000 คัน

Q : ฮอนด้ากลัวกำลังซื้อที่หดหายไปมากน้อยแค่ไหน

เรายังยืนยันเป้าหมายยอดขายเดิมไว้ตั้งแต่ต้นไป คือ 120,000 คัน โดยในช่วงครึ่งปีหลังตลาดรถยนต์ที่น่าจับตามอง คือ รถในกลุ่มซีคาร์ ซึ่งน่าจะทำให้ตลาดมีความคึกคัก ส่วนตลาดบีคาร์นั้น ฮอนด้าแจ๊ซ และซิตี้ ก็ยังคงมียอดขายที่น่าพอใจ ราวเดือนละ 5,000 คัน เพราะรถของเรายังคงมีความ “สดใหม่ ดีไซน์ได้ และสมรรถนะดี”

Q : ประเมินตลาดรถยนต์ในช่วงครึ่งปีหลัง

ก่อนที่เราจะไปดูตลาดครึ่งปีหลัง เราลองมาดูตลาดรถยนต์ในช่วงครึ่งปีแรกกันก่อนว่า มีอัตราการเติบโตถึง 7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่หากจะดูในช่วงเวลา 2-3 เดือนที่ผ่านมา กลับพบว่ายอดขายของตลาดโดยรวมกลับลดลง ทำให้หากประเมินกันว่า ยอดขายในช่วงครึ่งปีหลังอาจจะไม่ได้ดีอย่างที่ทุกคนเคยคาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ คงต้องรอดูว่าปัจจัยบวกจากการที่หลาย ๆ ค่ายเตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่หลากหลายเซ็กเมนต์ออกสู่ตลาดว่าจะช่วย “พยุง” ให้ยอดขายทั้งปีเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ได้หรือไม่ สำหรับฮอนด้าประเมินว่า ยอดขายรถยนต์ทั้งปีน่าจะอยู่ที่ 1 ล้านคันบวกลบ

Q : มองปัจจัยอะไรที่ส่งผลกับตลาดแรง ๆ

ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ปัจจัยที่คาดว่าส่งผลต่อตลาดรถยนต์โดยรวม คือเศรษฐกิจ และการประกาศปรับลดจีดีพีลง บวกกับมาตรการความเข้มงวดของไฟแนนซ์และสถาบันการเงิน ทำให้ตลาดรถยนต์โดยรวมได้รับผลกระทบ “ฮอนด้า” โชคดีที่กลุ่มลูกค้าของเรา คือ กลุ่มลูกค้าที่มีคุณภาพมีศักยภาพค่อนข้างดี เราจึงไม่ได้รับผลกระทบตรงนี้มากนัก

Q : แนวทางการพัฒนาเครื่องยนต์ของฮอนด้า

หลังจากเปิดตัวฮอนด้า ซีวิค 1.5 เทอร์โบ ทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจเพิ่มขึ้นพอมาสู่แอคคอร์ด 1.5 เทอร์โบ ลูกค้ายังมีความกังวล โดยยังไม่ได้ทดลองรถแต่เมื่อลูกค้าได้ทดลองรถแล้ว ปรากฏว่าวันนี้ลูกค้าไม่มีความกังวลในเรื่องของสมรรถนะการขับขี่หายไป

Q : พฤติกรรมการตัดสินใจซื้อรถ

รถยนต์แต่ละกลุ่มลูกค้าจะมีความต้องการที่แตกต่างกัน อย่างรถซีคาร์นั้น สิ่งสำคัญอันดับแรกที่การดีไซน์ที่เน้นความสปอร์ต โฉบเฉี่ยวมาเป็นอันดับหนึ่ง ตามมาด้วยสมรรถนะการขับขี่ การใช้งานและอุปกรณ์ต่าง ๆ

ส่วนรถบีคาร์และอีโคคาร์นั้น ลูกค้าจะมองไปที่เรื่องของความคุ้มค่า ไม่ได้ดูแต่ราคารถเพียงอย่างเดียว ตามมาด้วยความประหยัด ออปชั่นและราคาขายต่อ เป็นต้น

สำหรับรถยนต์เครื่องยนต์ “เทอร์โบ” นั้น สุดท้ายก็ต้องอยู่ที่ความ “ประหยัด” ความมั่นใจของลูกค้า เครื่องยนต์เทอร์โบมาตอบสนองเรื่องของความแรง

เรามองว่า “เครื่องยนต์เทอร์โบ และไฮบริด จะเป็นตัวเชื่อมในการไปสู่เทคโนโลยีที่ดีกว่า” เพียงแต่ว่ายังเหลือ “เวลา” ที่จะส่งต่อเท่านั้นว่าจะใช้เวลามากน้อยเพียงใด คงต้องติดตาม