เบนซ์ สตาร์แฟลก ทุ่ม 120 ล้าน ผุดเซอร์วิสเซ็นเตอร์ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ครบวงจร เจาะกลุ่มลูกค้าไฮเพอร์ฟอร์แมนซ์ คาดโกยยอดขายขึ้นแท่นเบอร์หนึ่ง ต่อเนื่อง 6 ปีซ้อน
นายชยุส ยังพิชิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์แฟลก จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี เปิดเผยว่า บริษัทได้ตัดสินใจลงทุนมูลค่า 110-120 ล้านบาท สำหรับลงทุนก่อสร้างโชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอเอ็มจี “Benz Star Flag AMG Performance Center” ศูนย์ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ AMG ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย บนพื้นที่รวมกว่า 2,000 ตารางเมตรเพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าที่มองหารถยนต์ไฮเพอร์ฟอร์แมนซ์เพิ่มมากขึ้น โดยแบ่งเป็นพื้นที่จอดรถโชว์กว่า 600 ตารางเมตร สามารถจอดรถได้อย่างเต็มพื้นที่ ส่วนของเซอร์วิสเซ็นเตอร์อีก 1,500 ตารางเมตร ประกอบไปด้วย อาคารขนาด 4 ชั้น อู่สี ห้องอบสี อุปกรณ์ซ่อม และอุปกรณ์เครื่องมือพิเศษที่ครบครัน พร้อมทีมช่างเฉพาะทางของ AMG Certified สำหรับ AMG Service Center โดยเฉพาะ
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
นายชยุสกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีผู้แทนจำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ได้รับการแต่งตั้งให้จำหน่ายแบรนด์เอเอ็มจี 5-6 ราย และสตาร์แฟลกถือเป็นผู้จำหน่ายรายใหญ่ที่สุด มีโชว์รูมและศูนย์บริการที่สามารถจอดโชว์รูมเอเอ็มจีได้หลากหลายรูปแบบ
สำหรับยอดขายของบริษัทในปี 2561 ที่ผ่านมา มียอดขายทั้งสิ้น 1,200 คัน สำหรับรถใหม่ โดยในจำนวนนี้เป็นรถยนต์ในกลุ่มเอเอ็มจี 10%
ส่วนผลดำเนินงานในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมานั้น บริษัทมียอดขายไปแล้วกว่า 600 คัน จากตลาดรถยนต์หรูมีการโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงครึ่งปีแรกมียอดขาย 13,449 คันและทั้งปีคาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ คือ โตเพิ่มขึ้น และมีส่วนแบ่งทางการตลาดคิดเป็น 8-10% ของยอดขายเมอร์เซเดส-เบนซ์ทั้งปี พร้อมตั้งเป้ายอดขายรถยนต์กลุ่มเอเอ็มจีเพิ่มขึ้น 10-12% ด้วย
“เบนซ์ สตาร์แฟลก เรามียอดขายเฉลี่ยเดือนละ 100-120 คัน อย่างช่วงที่ผ่านมา เรายังไม่ได้เดินหน้าทำการตลาดแบรนด์เอเอ็มจีอย่างเต็มรูปแบบ แต่หลังจากได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว เราเชื่อว่าน่าจะได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าไฮเพอร์ฟอร์แมนซ์ค่อนข้างดีอย่างแน่นอน และที่สำคัญ ลูกค้ากลุ่มนี้มองเรื่องเซอร์วิสสำคัญที่สุดด้วย”
สำหรับเบนซ์ สตาร์เฟลก เปิดให้บริการเข้าสู่ปีที่ 7 ของการดำเนินงาน และสามารถมียอดขายต่อโชว์รูมสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งติดต่อกัน 5 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2557-2561 ส่วนภาพรวมของตลาดรถยนต์ระดับลักเซอรี่นั้น ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มียอดขายสะสมมากกว่า 7,000 คัน
โดยเฉพาะรถยนต์ในกลุ่มท็อปเซ็กเมนต์ที่โตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเบนซ์เองมีรถในกลุ่มเอเอ็มจี ทำตลาดมากถึง 19 รุ่น ในปัจจุบัน ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มความหลากหลาย และเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าประกอบกับภาวะโดยรวมของเศรษฐกิจ อาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์โดยรวม และตลาดรถยนต์ลักเซอรี่บางส่วน แต่สำหรับตลาดไฮเพอร์ฟอร์แมนซ์
อย่างไรก็ตาม จะไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะดังกล่าว ทำให้เชื่อว่าบริษัทจะสามารถมียอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ส่วนแผนการลงทุนอื่น ๆ ของบริษัทนั้น ขณะนี้ยังไม่มีแผนงานแต่อย่างใด รวมถึงแนวคิดที่จะเพิ่มโชว์รูมใหม่นั้น บริษัทมองว่าขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็น เนื่องจากทำเลที่ตั้งของเราในปัจจุบันที่บริษัทแม่กำหนดให้ดูแลลูกค้านั้น ถือว่ายังเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ
ส่วนรถยนต์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีที่บริษัทจำหน่าย มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 4.1 ล้าน สำหรับรุ่นซี 43 ไปจนถึง 19 ล้านบาท สำหรับรุ่นจีที 50
