ล้วงลึกดีไซน์ “แอสตัน มาร์ติน” “บิวตี้แอนด์แชลเลนจ์”

ถือเป็นโอกาสอันดีที่ เเอสตัน มาร์ติน เเบงคอก จัดกิจกรรม Desing Masterclass by Marek Reichman เนื่องในโอกาสที่มาเยือนประเทศไทย ซึ่งถือเป็นประเทศที่ 2 ของภูมิภาคสำหรับการเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวและเยี่ยมชมโชว์รูม แอสตัน มาร์ติน เเบงคอก บูทีค ณ สยามพารากอนไปเมื่อวันก่อน นักออกแบบรถยนต์ระดับโลก อย่าง “มาเร็ค ไรค์” ได้มาบอกเล่าถึงเเรงบันดาลใจ และการรังสรรค์สปอร์ตหรูอย่างแอสตัน มาร์ติน พร้อมนิยามการออกแบบ ซึ่งต้องผสมผสานคำว่า “บิวตี้ฟูล” ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับ “ความท้าทาย” ซึ่งรวมกันเป็นบทใหม่ที่ก้าวข้ามจากรถยนต์สปอร์ต มาสู่การออกแบบรถยนต์เอสยูวีอย่าง แอสตัน มาร์ติน ดีบีเอ็กซ์ ที่จะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้

Q : ความยากของการออกแบบรถสปอร์ตและรถเอสยูวี

ก่อนหน้านี้ ผมเคยมีประสบการณ์การออกแบบรถยนต์เอสยูวีให้กับ เเลนโรเวอร์ มาเเล้ว ดังนั้น การออกแบบรถยนต์เอสยูวีให้กับ แอสตัน มาร์ติน นั้นไม่ได้มีความยาก แต่มันเป็นความท้าทายมากกว่า คือ การทำรถเอสยูวีอย่างไร กับเเพลตฟอร์มอันเป็นเอกลักษณ์ ที่จะพัฒนารถให้มีความสวยงามตามคอนเซ็ปต์ของแอสตัน มาร์ติน เพื่อให้ “ดีบีเอ็กซ์ ” เป็นรถที่มีความสมบูรณ์แบบ โดยไม่ทิ้งเน้นแคแร็กเตอร์ของรถ สมรรถนะความสวยงามตามคอนเซ็ปต์ของแอสตัน มาร์ติน ผ่านการออกแบบรูปลักษณ์ที่สวยงาม

Q : ความคาดหวังเอสยูวีคันนี้

จากกำลังผลิตของเรา เตรียมไว้ถึงครึ่งหนึ่งเพื่อรองรับการผลิตรถคันนี้ แอสตัน มาร์ติน ดีบีเอ็กซ์ ไว้ให้เป็นสัดส่วนการผลิตหลัก จากปัจจุบันที่ผลิตรถ 2 ประตูคูเป้ ที่ 7,000 คัน ซึ่งแอสตัน มาร์ติน ได้เตรียมแผนที่จะผลิตรถยนต์เอสยูวี ดีบีเอ็กซ์ ไว้ที่ 7,000 คันต่อปี หรือมีแผนจะผลิตไว้อีกเท่าตัว ที่โรงงานอีกแห่ง ต้องดูการตอบรับความต้องการเเต่ละประเทศอย่างในอเมริกา ถือเป็นประเทศต้นกำเนิดของรถประเภทนี้ มีการใช้งานที่กว้างขวาง ส่วนในเอเชีย อาเซียน เรื่องของสภาพถนนน่าจะมีส่วนทำให้รถลักเซอรี่เอสยูวี มีสัดส่วนการเติบโตตามไปด้วย และบริษัทเเม่ในยูเคเตรียมแผนไว้แล้ว

Q : อะไรคือความมั่นใจกับดีบีเอ็กซ์

ในส่วนการออกแบบรถดีบีเอ็กซ์ เราใช้เวลาค่อนข้างเยอะมาก ในการพัฒนาสมรรถนะ การออกแบบ ยิ่งในเซ็กเมนต์เอสยูวีนี้ แอสตัน มาร์ติน มาทีหลัง ดังนั้น โอกาสและข้อได้เปรียบของแอสตัน มาร์ติน คือ ได้เรียนรู้รถรุ่นอื่น ๆ ในการพัฒนาสินค้าของเราเพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้นในรายละเอียดต่าง ๆ ดังนั้น การออกแบบดีบีเอ็กซ์ เราไม่ได้โฟกัสเเค่เรื่องของรูปลักษณ์อย่างเดียว มีการโฟกัสส่วนต่าง ๆ เพอร์ฟอร์แมนซ์ แชสซี ส่วนต่าง ๆ ของรถ สิ่งที่จะทำให้รถสามารถขับขี่ได้ดีขึ้น เราจะเอาไปใส่เพื่อให้เป็นการออกแบบที่สมบูรณ์เเบบ

Q : ความแตกต่างของดีบีเอ็กซ์ กับพรีเมี่ยมเอสยูวีอื่น

แน่นอนว่าในเรื่องของ “ความสวยงาม” ที่ดีบีเอ็กซ์จะมีความแตกต่างจากลักเซอรี่เอสยูวีที่ออกมาก่อนหน้านี้อย่างชัดเจน เราคือ บิวตี้ฟูลเอสยูวี เน้นที่ความสวยงาม แต่นอกเหนือจากนั้น เอกลักษณ์การออกแบบโครงสร้าง แชสซี เพราะการออกแบบช่วงล่างในทุก ๆ มิลลิเมตรนั้นมีผลต่อการขับขี่ของเครื่องยนต์ รวมทั้งระบบต่าง ๆ ที่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ จะถูกนำมาช่วยในเรื่องการขับขี่ ทำให้รถคันนี้โดดเด่นไม่เป็นรองใคร

Q : โปรดักต์แรกที่ออกแบบให้แอสตันมาร์ติน

รถคันแรกที่ออกแบบนั้นคือ ดีบี 11 ซึ่งรถรุ่นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ระยะไกล ส่วนแวนเทจ คือ คนที่ชื่นชอบความดุดัน มีความฮึกเหิมเป็นนักล่ายุคใหม่ ซึ่งทั้ง 2 ใช้แชสซีร่วมกัน ส่วนรถเอสยูวี ดีบีเอ็กซ์ ที่กำลังจะมีการแนะนำออกสู่ตลาดในเร็ว ๆ นี้ คนไทยน่าจะได้สัมผัสมอเตอร์โชว์ปีหน้า

Q : มองโปรดักต์ต่อไปอย่างไร

แอสตัน มาร์ติน กำหนดยุทธศาสตร์ไว้ว่า 7 ปี 7 โปรดักต์ เริ่มต้นแต่ ดีบี 11, แวนเทจ, รถเอสยูวี ดีบีเอส, ดีบีเอ็กซ์, แวนควิส, รถต้นเเบบอีวีอย่าง ลากอนด้าและอีกหนึ่งรุ่น ซึ่งน่าจะทยอยแนะนำออกสู่ตลาด ที่สำคัญ เราจะออกแบบ แอสตัน มาร์ติน กับคำว่าสวยงาม คือ สิ่งที่จะต้องมีมาคู่กัน

Q : รถที่ออกแบบคันที่ชอบที่สุด

น่าจะเป็น ดีบี 11 เพราะเป็นรถคันที่ใช้ระยะเวลาในการออกแบบมากที่สุด เนื่องจากรถรุ่นนี้มีอายุมากกว่า 50 ปี โจทย์สำคัญของการออกแบบคือ ทำอย่างไร จะรักษาจุดเด่นของแอสตัน มาร์ติน เอาไว้ให้ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก แต่สิ่งที่ยากกว่าการออกแบบ คือ ทำอย่างไรที่จะทำให้ทีมเห็นด้วยกับคอนเซ็ปต์ที่เราต้องการ นั้นยากกว่า และช่วงสุดท้าย คือ การทำรถให้เปอร์เฟ็กต์ที่สุด ก่อนที่จะถึงมือผู้บริโภค