“คัลลิแนน” ขายแล้ว 6 คัน ลูกค้าพร้อมซื้อแค่ขาดมู้ด

โรลส์-รอยซ์ชี้เศรษฐีเมืองไทยยังมีกำลังซื้อ แค่กระทบมู้ดเท่านั้น ปลื้ม “คัลลิแนน” ราคาทะลุ 33 ล้าน ขายแล้ว6 คัน เร่งส่งมอบไตรมาสแรกปีหน้า พร้อมส่งรุ่นพิเศษ “เรดคาร์เพต จีที” ออกสู่ตลาดอีกรุ่นงานมอเตอร์เอ็กซ์โป

นายกฤษฎา สวามิภักดิ์ ผู้จัดการทั่วไป โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอกในเครือเอ็มจีซี-เอเชีย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงการตอบรับหลังจากบริษัทได้เปิดตัวรถยนต์อัลตร้าลักเซอรี่ เอสยูวี โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน ในประเทศไทย ราคา 33 ล้านบาท ปรากฏว่าได้กระแสตอบรับจากลูกค้าดีมาก มียอดจองแล้ว 6 คัน โดยจะเริ่มส่งมอบให้กับลูกค้าคันแรกในวันที่ 2 ตุลาคมนี้

“ลอตแรกจะเข้ามา 2-3 คันก่อน จากนั้นคาดว่าจะส่งมอบได้ครบทั้ง 6 คันภายในไตรมาสแรกของปี 2563”

นายกฤษฎากล่าวว่า โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน ถือเป็นรถยนต์ที่พ็อปพูลาร์อย่างมากในต่างประทศ โดยบริษัทเเม่เตรียมกำลังผลิตรุ่นนี้ถึง 1 ใน 3 ของกำลังผลิตทั้งหมด โดยประเทศหลัก ๆ ในเอเชียที่ได้นับความนิยมคือ จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลี ส่วนประเทศไทย ลูกค้าที่จองอาจจะต้องใช้เวลารอรถกันถึงไตรมาสแรกของปีหน้า

สำหรับยอดขายรวมปีนี้ยังคงเป็นไปตามเป้าแน่นอน ซึ่งในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปปลายปีนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นพิเศษ โรลส์-รอยซ์ เรดคาร์เพต จีที ออกสู่ตลาดอีกหนึ่งรุ่น ภายใต้คอนเซ็ปต์ฉลองครบรอบ 100 ปี ที่นักบินสัญชาติอังกฤษสามารถขับเครื่องยนต์ ซึ่งใช้เครื่องยนต์โรลส์-รอยซ์ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก และลงจอดที่ไอซ์แลนด์ได้สำเร็จตั้งเเต่ปี ค.ศ. 1919 ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยประเทศไทยได้รับสิทธิ์ให้เป็น 1 ใน 50 คันทั่วโลก

นายกฤษฎากล่าวถึงพฤติกรรมลูกค้าคนไทยว่า มีความอยากเป็นเจ้าของรถยนต์โรลส์-รอยซ์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นเจ้าของรถเดิมต้องการซื้อรถเป็นคันที่ 2 เพิ่มมากขึ้นถึง 50% ส่วนการวางตำแหน่งรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ของโรลส์-รอยซ์นั้น อันดับแรกที่ได้รับความนิยม คือ เเฟนธอม ถือว่าเป็นที่สุด

ขณะที่รุ่นโกสท์นั้นถือเป็นดิอัลติเมตลักเซอรี่บิสซิเนสลิมูซีน ส่วนเรธ ดอว์น สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว

“ตามเป้าบริษัทแม่กำหนดเพิ่มคอลเล็กชั่นอย่างน้อยไตรมาสละ 1 รุ่น ส่วนของเราจะดูความเหมาะสม และความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก นอกจากนี้จะมุ่งเน้นการพัฒนาและสร้างเเบรนด์ให้ต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองให้เกินความคาดหวังของลูกค้า”


ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าโรลส์-รอยซ์ มีอายุเฉลี่ยน้อยลงมากขึ้น จากเดิมเป็นผู้ประสบความสำเร็จที่มีอายุราว 50 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันมีอายุเฉลี่ย 40 ปี และเป็นกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ แม้ว่าตอนนี้ภาวะเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบ แต่ลูกค้าโรลส์-รอยซ์ไม่กระทบ เพียงเเต่มดหายไป แต่ลูกค้ายังมีความอยากเป็นเจ้าของ