นับเป็นครั้งแรกที่มีการเปิดตัวรถรุ่น แอสตัน มาร์ติน ดีบีเอสจีที ซากาโต ซึ่งถูกออกแบบใหม่เพื่อให้เป็นรถฝาแฝดกับรถรุ่นคลาสสิกอย่าง ดีบี 4 จีที ซากาโต โดยมีการคอนเฟิร์มว่ารถรุ่นใหม่นี้มีขุมพลังที่ 760 แรงม้า เครื่องยนต์เทอร์โบคู่ วี 12
และถือเป็นรถรุ่นแรกของโลกที่มีการใช้เทคโนโลยีการฉีดไฟเบอร์คาร์บอนแบบพิเศษ และใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติมาใช้ในการตกแต่ง โดยจะมีการขายเป็นแพ็กคู่ 2 คัน พร้อมกัน ซึ่งจะผลิตเพียงรุ่นละ 19 คัน ในโลกเท่านั้น
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
แอสตัน มาร์ติน ดีบีเอส จีที ซากาโต มาพร้อมขุมกำลัง 760 แรงม้า เครื่องยนต์เทอร์โบคู่ วี 125,200 ซีซี โดยโปรเจ็กต์นี้ แอสตันมาร์ติน ตั้งใจทำขึ้นเพื่อฉลองการครบรอบ 100 ปี ของรุ่นซากาโต ซึ่งถือเป็นรุ่นสุดคลาสสิกของแบรนด์
จากงานเปิดตัวรถรุ่นใหม่นี้ ที่งานมหกรรมยานยนต์ รัฐโรดไอส์แลนด์, สหรัฐอเมริกา ทำให้ทั่วโลกได้ยลโฉม ดีบีเอส จีที ซากาโต รถสปอร์ตสุดคลาสสิกสัญชาติอังกฤษ ที่ดีไซน์ร่วมกับซากาโต เป็นครั้งแรก
โดยเปิดตัวในราคา 6 ล้านปอนด์ (ประมาณ 200 ล้านบาท) นอกจากนั้นการเปิดตัวรถคอลเล็กชั่น ดีบีซี เซนเทนารี่ยังถือเป็นการแสดงถึงความสัมพันธ์ด้านการดีไซน์อันยาวนานระหว่าง แอสตัน มาร์ติน ค่ายรถหรูจากเกาะอังกฤษ และ ซากาโต บริษัทออกแบบและผลิตรถยนต์ชื่อดังจากอิตาลี
รถรุ่นใหม่นี้มาในสีแดงซูเปอร์โนวาซึ่งเป็นสีพิเศษสำหรับรุ่นครบรอบ 100 ปีโดยเฉพาะ ตัดกับสีดำซาตินและสีทองของตัวล้ออย่างสวยงาม ประกอบกับหลังคาและดิฟฟิวเซอร์คาร์บอนไฟเบอร์ดำมันขนาดใหญ่, กระจังหน้าอะลูมิเนียมรมดำ, ขอบด้านข้างรถสีทองอะโนไดซ์
และโลโก้ทอง 18 กะรัต ที่สวยงามอร่ามทั้งหน้าและหลัง ซึ่งทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงการดีไซน์อย่างพิถีพิถันในแบบฉบับของแอสตัน มาร์ติน
ภายในตกแต่งด้วยเบาะหนังสีแดงเผ็ดร้อน ซึ่งมาในเฉด spicy caithness ปักด้วยตัวอักษร Z และพวงมาลัยสีแดงตัดกับสีดำซาตินอันสวยงาม และนี่ยังเป็นครั้งแรกของโลกที่นำเอาเทคโนโลยีคาร์บอนไฟเบอร์แบบพิเศษและการใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ มาตกแต่งภายใน คอนโซลกลางมีการดีไซน์อย่างหรูหรา โดยมีวัสดุให้เลือกถึง 3 ประเภทคือ ไฟเบอร์คาร์บอน, อะลูมิเนียม หรือวัสดุพิเศษที่ใช้สำหรับรุ่นเฉลิมฉลองครบ 100 ปีเท่านั้น นั่นก็คือ ทอง พีวีดี โดยวัสดุชนิดนี้จะต้องใช้การผลิตพิเศษ ซึ่งใช้เวลากว่า 100 ชั่วโมง โดยช่างฝีมือชั้นสูงเพื่อให้ได้วัสดุที่แวววาวและหรูหราที่สุด
และนี่ก็คือการเน้นย้ำถึงความประณีต ประกอบกับการใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมัย ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของแอสตัน มาร์ติน
ลูกค้าของแอสตัน มาร์ติน ยังสามารถเพิ่มความต้องการส่วนตัวอันโดดเด่นอย่างเหนือระดับด้วยการออกแบบดีไซน์เฉพาะบุคคล ในบริการ “คิว บาย แอสตัน มาร์ติน”
การออกแบบในส่วนนี้ ลูกค้าสามารถเลือกใช้วัสดุ, รูปแบบของอุปกรณ์ และการดีไซน์ ด้วยตนเองได้อีกด้วย
นับเป็นอีก 1 คอลเล็กชั่นที่ต้องสะสม
