ส่องอุตฯรถยนต์เวียดนาม

Labourers work at Vinfast auto plant on the occasion of its opening ceremony in Hai Phong city, Vietnam June 14, 2019. REUTERS/Kham

ถ้าจะพูดถึงคู่แข่งในละแวกรอบบ้านเรา โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง CLMV

“เวียดนาม” น่าจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวในลำดับต้น ๆ

เพราะขนาดแต่ละปีนำเข้ารถยนต์จากเมืองไทยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

กำลังผลิตและกำลังซื้อในประเทศเวียดนามยังขยายตัวแบบน่าตกใจ

ปี 2562 นี้ ไทยส่งออกรถยนต์ไปตลาดเวียดนามได้ 83,000 คัน โตขึ้น 46%

และประเมินว่าปี 2563 จะเพิ่มขึ้นเป็นถึงแสนคัน

เวียดนามมีจำนวนประชากรกว่า 96 ล้านคน

แต่ยังมีอัตราการถือครองรถยนต์ยังต่ำ

เทียบประชากรพันคน มีรถยนต์ใช้เพียง 23 คัน

ขณะที่บ้านเราอัตราการถือครองรถยนต์สูงกว่าเยอะ 3-4 คนต่อ 1 คัน

ดังนั้นจึงคาดการณ์กันว่า ยอดขายรถยนต์ในประเทศของเวียดนาม 3 แสนคันต่อปี

อาจพุ่งขึ้นแตะ 1 ล้านคันต่อปีได้ในปี 2573

สิ่งที่รัฐบาลและภาคเอกชนเวียดนาม ผนึกกำลังกระตุ้นกำลังซื้อ

ตั้งแต่ส่งเสริมการลงทุนในหลากหลายรูปแบบ เช่น การสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ยี่ห้อ VinFast

โดยคาดหวังให้พัฒนาขึ้นเป็นรถยนต์แห่งชาติในอนาคตด้วยเป้าหมายผลิตถึง 500,000 คันต่อปี

การประกาศใช้ระเบียบ Decree 116 เมื่อต้นปี 2561 เพื่อให้การนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศเป็นไปได้ยากขึ้น

และการออกระเบียบ Decree 125 โดยลดภาษีนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ที่ไม่ได้มีการผลิตในประเทศให้เหลือ 0%

โดยหวังให้ต้นทุนการประกอบรถยนต์ในประเทศลดลง

แต่อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายยังมองว่า สถานการณ์เวียดนามในปัจจุบันยังตามหลังประเทศที่เป็นฐานการผลิตรถยนต์อื่นอยู่มาก

เช่น รายได้ประชากรและจำนวนผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์

รวมไปถึงความนิยมต่อรถยนต์ที่ไม่แตกต่างจากตลาดอื่นในภูมิภาค

ทำให้ปัจจุบันค่ายรถยนต์เลือกที่จะผลิตรถยนต์ในฐานการผลิตอื่นเพื่อให้เกิดอีโคโนมีออฟสเกล

แล้วส่งออกรถยนต์มายังเวียดนามแทนการลงทุนผลิตในเวียดนาม

และการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศเวียดนามให้แข็งแกร่งขึ้นนั้น

ยังต้องพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตสูงควบคู่กันไปด้วย

รวมถึงค่ายรถสัญชาติเวียดนามเอง ก็ต้องมีกลยุทธ์ที่ดีในการสร้างความน่าเชื่อถือ

พัฒนาคุณภาพและเทคโนโลยีรถยนต์อย่างต่อเนื่องเทียบเท่ากับค่ายรถยนต์ในระดับโลก

ขอบคุณข้อมูล – ศูนย์วิจัยกสิกรไทย