“อีซูซุ” เล็งเพิ่มกำลังผลิตรับตลาดในประเทศ-ส่งออกขยายตัว พร้อมส่งอีซูซุดีแมคซ์ใหม่กระทุ้งกำลังซื้อปลายปี วอนรัฐกลับมาพิจารณาขยายเวลาบังคับใช้มาตรฐานเครื่องยนต์และน้ำมันยูโร 5 ขอเวลาเตรียมตัวอย่างน้อย 4 ปี
นายโทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2563 อีซูซุจะเพิ่มกำลังผลิตเพื่อรองรับการขยายตัวทั้งตลาดในประเทศและส่งออก ซึ่งขณะนี้กำลังจัดเตรียมความพร้อม คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้ และเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อช่วงปลายปีนี้ อีซูซุได้แนะนำ ดีแมคซ์ใหม่ เครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ 190 แรงม้า และ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ Gen 2 150 แรงม้า มั่นใจว่าจะได้การตอบรับจากลูกค้าชาวไทยเป็นอย่างดี
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
“ปัจจุบันดีแมคซ์มียอดขายสะสมไปแล้วไม่น้อยกว่า 4 ล้านคัน การเปิดตัวออลนิวอีซูซุดีแมคซ์ครั้งนี้ เราต้องการขยายกลุ่มเป้าหมาย แม้ว่าจะมีคนรักและภักดีต่อแบรนด์อีซูซุอยู่แล้วก็ตาม แต่ยังต้องการขยายกลุ่มผู้ซื้อให้มากขึ้น”
สำหรับภาพรวมของตลาดรถยนต์ในปีนี้ อีซูซุเชื่อว่าน่าจะมียอดขายใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 1.04 ล้านคัน แม้ว่าในช่วง 9 เดือนที่ผ่าน ตลาดจะได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายนจะอยู่ในภาวะหดตัวก็ตาม แต่อีซูซุยังสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด 33% เอาไว้ได้ ทั้งที่เป็นการจำหน่ายรถยนต์รุ่นเดิม ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่น่าพอใจ
“จากนี้เราคงต้องรอดูว่า ดีแมคซ์รุ่นใหม่จะได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้ามากน้อยแค่ไหน เพราะวันนี้กำลังการผลิตดีแมคซ์ใหม่ยังไม่เพียงพอ ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับแผนการผลิต”
สำหรับอีซูซุดีแมคซ์ใหม่นั้น บริษัทให้ความสำคัญกับกระแสตอบรับค่อนข้างมาก จากประสบการณ์ของการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่จะพบว่า ลูกค้าที่มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์อีซูซุ จะเป็น
ผู้ให้ความสนใจเข้ามาเลือกซื้อก่อน และหลัก ๆ จะตัดสินใจซื้อในรุ่นท็อป เห็นได้จากสัดส่วนการจำหน่ายพบว่า 45% เป็นรุ่น 4 ประตู รองลงมาเป็นรุ่นสเปชแค็บ หรือตอนครึ่ง 40% และซิงเกิลแค็บ หรือหัวเดียว 15% และเชื่อว่าสัดส่วนการขายจะคงสัดส่วนเช่นนี้
สำหรับดีแมคซ์ใหม่ บริษัทปรับราคาขึ้เฉลี่ย10,000 บาทต่อรุ่น หรือเริ่มต้น 510,000 บาทไปจนถึง 1,164,000 บาท และคาดว่าจะเริ่มส่งมอบได้ตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค.นี้เป็นต้นไป ส่วนตลาดส่งออกนั้นคาดว่าจะเริ่มทำตลาดได้ราวต้นปี 2563
“ออลนิวอีซูซุดีแมคซ์” มาพร้อมขุมพลังใหม่ ให้ความแรงสะใจ ทนเหนือชั้น และเงียบยิ่งขึ้น แต่ยังคงเอกลักษณ์ความประหยัดน้ำมันตามแบบฉบับอีซูซุ รุ่นเครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ รุ่น 4JJ3-TCX ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,600 รอบ/นาที พร้อม E-VGS TURBO เทอร์โบแปรผันปรับไฟฟ้า แรงจัดตั้งแต่รอบต่ำ ตอบสนองได้รวดเร็ว รุ่นเครื่องยนต์อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ Gen 2 รุ่น RZ4E-TC ให้พลังแรงสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที
นายมาเอคาวะกล่าวถึงเรื่องความพร้อมของมาตรการบังคับใช้เครื่องยนต์มาตรฐานยูโร 5 ของภาครัฐที่จะบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2565 ว่าในเชิงของเทคโนโลยีนั้น อีซูซุมีเทคโนโลยีที่สามารถรองรับมาตรฐานยูโร 5ได้อย่างไม่มีปัญหา เพียงแต่ว่าน้ำมันซึ่งกำหนดบังคับใช้ปี 2567 ช้ากว่าการบังคับใช้เครื่องยนต์ คงไม่มีประเทศใดในโลกทำกัน
ดังนั้น อยากให้รัฐบาลกลับมาพิจารณาอีกครั้ง ควรจะเริ่มพร้อมกันทั้งเครื่องยนต์และน้ำมัน และอีซูซุมองว่า รัฐบาลควรมีเวลาให้ผู้ประกอบการมีเวลาเตรียมตัวอย่างน้อย 4 ปี
