มาสด้า CX-5 ใหม่ 2.5 ลิตรเทอร์โบ ออปชั่นทะลัก เพิ่มระยะรับประกัน ขยับราคาแค่หมื่นบาท

“มาสด้า” ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเอสยูวี ปรับลุค CX-5 ครั้งใหญ่ เพิ่มทางเลือก 3 เครื่องยนต์ ใส่อุปกรณ์มาตรฐานอีกเพียบ ชูจุดขายฟรีค่าแรง 5 ปี 100,000 กิโล ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลฯ

นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ไตรมาสสุดท้ายปีนี้ มาสด้าพยายามเพิ่มโปรดักต์วาไรตี้ตอบสนองความต้องการลูกค้า ซึ่งจะมีทั้งรุ่นใหม่แกละกล่อง มาสด้า CX-8 และไมเนอร์เชนจ์ อาทิ มาสด้า2 และมาสด้า CX-5 ใหม่ ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ SKYACTIV-G 2.5T ให้กำลังสูงถึง 231 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร มาพร้อมระบบเทอร์โบแบบ Dynamic Pressure และอีก 2 ทางเลือกเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2.2 ลิตร ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นไปอีกระดับ และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร

ชาญชัย ตระการอุดมสุข

ลูกค้าจะได้สัมผัสกับการควบคุมขับขี่ที่นุ่มนวลยิ่งขึ้นด้วยระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง หรือ GVC Plus พร้อมใส่ดีไซน์ใหม่ภายในห้องโดยสารที่เน้นความงดงามจากความเรียบง่ายด้วยคอนเซ็ปต์ “Less is More” เพิ่มความหรูหราในทุกรายละเอียดด้วยการตกแต่งด้วยวัสดุแบบ Real Wood และเบาะหนัง Nappa สีแดง Deep Red รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay ผ่านระบบเชื่อมต่อสื่อสาร Mazda Connect ขับขี่ปลอดภัย มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยี i-Activsense ที่เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมไปถึงผู้ใช้ถนน

“มาสด้า CX-5 เปิดตัวครั้งแรกปลายปี 2556 ถึงตอนนี้โลดแล่นอยู่บนถนนประเทศไทยกว่า 30,000 คัน”

ด้าน นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ กล่าวว่า อุปกรณ์มาตรฐานที่ใส่เข้าไปต้องบอกว่าเพียบ อาทิ ห้องโดยสารด้วยการใช้โทนสีเข้ม เลือกใช้วัสดุแบบ Real Wood ผสมผสานกับสีเงินซาตินโครมในการตกแต่ง สัมผัสกับเบาะหนัง Nappa สีแดง Deep Red มาพร้อมระบบระบายอากาศตำแหน่งเบาะนั่งคู่หน้า Seat Ventilation มาตรวัดแบบความเร็วแบบดิจิตอล TFT LCD พร้อมจอแสดงผลแบบสี ขนาด 7 นิ้ว เชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนผ่าน Mazda Connect ที่รองรับ Apple CarPlay โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว เติมเต็มความเพลิดเพลินตลอดการเดินทางด้วยระบบเสียง Bose@ รอบทิศทาง

ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์

สร้างบรรยากาศที่หรูหราด้วยหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า และไฟส่องสว่างที่ได้รับการออกแบบใหม่ในหลายตำแหน่ง เพิ่มความสปอร์ตของดีไซน์ภายนอกด้วยด้วยล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 19 นิ้ว และยังคงอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย i-Activsense ที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น ช่วยให้สามารถคาดการณ์และส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ได้แม่นยำยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง พร้อมมุมกล้องแบบ Top View


มีให้เลือก 6 สี ประกอบด้วย สีแดง โซล เรด คริสตัล , สีเทา แมชชีน เกรย์ , สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล , สีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู , สีดำ เจ็ท แบล็ก และสีเงิน โซนิค ซิลเวอร์ ส่วนราคาปรับเพิ่มขึ้นเพียง 10,000 บาทเท่านั้น รุ่น 2.0 C 1,300,000 บาท, รุ่น 2.0 S 1,410,000 บาท , รุ่น 2.0 SP 1,560,000 บาท , รุ่น XD 1,570,000 บาท , รุ่น XDL 1,790,000 บาท และรุ่น 2.5 TURBO SP 1,850,000 บาท